
แจกแจง “กิจกรรม 5 ส มีอะไรบ้าง” เพื่อการทำงานในองค์กรที่ดียิ่งขึ้น
- 09/11/22
เคยรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาเฉย ๆ ไม่อยากตื่นเช้าไปทำงาน ไม่รู้ว่าทำงานไปเพื่ออะไร หรือไม่สนุกกับงานแล้วหรือเปล่า หรือคุณอาจกำลังเจอกับภาวะเบิร์นเอาต์หรือหมดไฟในการทำงานอยู่
ในโลกการทำงานปัจจุบัน หลายคนคงอาจได้ยินภาวะเบิร์นเอาต์ หมดไฟ หมดกำลังใจ ไม่มีแพสชั่นในการทำงานมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้ในองค์กรที่ทำงานหนักเกินไป หรืออยู่ในภาวะกดดันตลอดเวลา หรือฝืนทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ และหากปล่อยเอาไว้ อาจนำไปสู่โรคทางจิตใจอื่น ๆ ที่จะยิ่งแก้ไขได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรควิตกกังวล
องค์กรรุ่นใหม่หลาย ๆ องค์กรได้เริ่มตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้มากขึ้นเรื่อย ๆ นำไปสู่นโยบายอันหลากหลายที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทำงานให้ดียิ่งขึ้น ผ่านการลดจำนวนวันในการทำงานลงเพื่อให้คนได้มีเวลาเป็นของตัวเองขึ้น การเลิกใช้ระบบวัดผลที่แข็งตัวเพราะเป็นการกดดันคนทำงาน รวมไปถึงการปรับสภาพแวดล้อมในที่ทำงานให้เหมาะสมกับพนักงาน ซึ่งสิ่งแวดล้อมนั้นมีอิทธิพลกับผู้คนอย่างเหลือเชื่อ
ซึ่งมีแนวคิดหนึ่งที่หลาย ๆ องค์กรมักเลือกใช่คือ แนวคิด 5 ส. หรือภาษาอังกฤษจะใช้ว่า 5S นั่นเอง
5 ส. เริ่มต้นมาจากไหน?
5 ส. เป็นแนวคิดการดูแลปละสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อคนทำงาน ซึ่งที่มาที่ไปของแนวคิดนี้อาจไม่ได้มีจุดเริ่มต้นอย่างชัดเจน แต่ประเทศที่ทำให้เกิดกระแสของแนวคิดนี้คือประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการมีสภาพแวดล้อมที่ดีและเป็นระเบียบมากที่สุด นั่นก็คือประเทศญี่ปุ่น
โดยแนวคิดนี้เริ่มเป็นที่แพร่หลายในวงกว้างช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัทรถยนต์ที่เราคุ้นเคยอย่างโตโยต้า โดยพวกเขาเชื่อว่าการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้
5S ในภาษาอังกฤษนั้น แท้จริงแล้วจึงเป็น S ที่ถอดเสียงจากคำภาษาญี่ปุ่นมา โดยทั้ง 5 ข้อนั่นก็คือ
1. สะสาง หรือ Seri
2.สะดวก หรือ Seiton
3. สะอาด หรือ Seiso
4. สุขลักษณะ หรือ Seiketsu
5. สร้างนิสัย หรือ Shitsuke
ทำไมต้อง 5 ส.?
ทุกคนคงจะสงสัยกันว่าทำไมต้องเป็น 5 ส. ด้วย ความจริงแล้วแต่ละข้อล้วนมีความหมายและความจำเป็นในการสร้างสภาพแวดล้อมในองค์กรให้เหมาะกับพนักงาน เราพาลงลึกไปไขความกระจ่างกัน
สะสาง
การสะสางนี้ก็คือการจัดระเบียบข้าวของในออฟฟิศให้ชัดเจน แยกอย่างเป็นระบบและมีความชัดเจนว่าสิ่งไหนจำเป็นหรือไม่จำเป็นโดยไม่ต้องเสียดายกับสิ่งที่จะถูกทิ้งไป เพราะการจัดระเบียบนี้จะทำให้คนในองค์กรสามารถหยิบใช้ของได้ถูกต้อง ไม่เกิดเหตุการณ์หาของไม่เจอจนเสียเวลา หรือต้องซื้อของมาซ้ำ อีกทั้งยังทำให้การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นด้วย ไม่ต้องเสียเวลาหงุดหงิดเพื่อค้นหาของ
นอกจากนี้ยังอาจช่วยเพิ่มพื้นที่ในการทำงาน ทำให้ออฟฟิศดูโปร่งโล่ง สะอาดตา น่าทำงาน ซึ่งมีงานวิจัยกล่าวว่าพื้นที่ที่มีข้าวของเยอะหรือรกนั้นจะรบกวนการทำงานของสมองมากกว่าพื้นที่โล่ง ซึ่งทำให้มีสมาธิมากกว่า นอกจากนี้การสะสางของยังทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำงานลดลงได้อีกด้วย เพราะทุกอย่างอยู่กันเป็นระเบียบแล้ว
จุดที่ควรสะสางได้แก่โต๊ะทำงานของพนักงาน ตู้เก็บเอกสาร ตู้เก็บของ ชั้นวางของ ห้องเก็บของ หรือแม้แต่มุมอับต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกที่ทำงาน ทั้งนี้อาจรวมไปถึงห้องครัวด้วย
สะดวก
เมื่อสะสางแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อมาคือการทำให้อุปกรณ์ เครื่องใช้สำนักงานนั้นเข้าถึงได้อย่างสะดวกโดยคำนึงถึงกระบวนการใช้งานและความปลอดภัย ซึ่งอาจเริ่มต้นจากการวางไว้ในมุมที่ทุกคนเข้าถึงได้ สิ่งใดใช้งานบ่อยก็สามารถนำมาวางไว้ใกล้ตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังต้องเน้นย้ำให้เก็บเข้าที่เดิมเพื่อง่ายต่อการจดจำ หากเก็บในกล่องหรือบนชั้นอาจติดป้ายเพื่อบอกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ต้องค้นหาให้เสียเวลา
การสร้างสภาพแวดล้อมให้สะดวกต่อผู้ใช้งานจะช่วยลดเวลาในการค้นหาไปได้มาก ทำให้ไม่ต้องเสียเวลากับสิ่งที่ไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยลง ลดการเกิดอุบัติเหตุ และทำให้สภาพแวดล้อมดูดีขึ้นไปพร้อมกัน
สะอาด
ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการทำงาน เพราะเมื่อองค์กรเต็มไปด้วยความสกปรก ก็ทำให้ประสาทสัมผัสของคนทำงานถูกรบกวนได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นสายตาที่เห็นแต่ข้างของไม่น่ามอง กลิ่นที่อาจไม่พึงประสงค์ หรือแม้แต่การรับประทานอาหารก็อาจไม่ถูกสุขลักษณะไปด้วย แถมยังส่งผลให้องค์กรดูไม่สดชื่น ห่อเหี่ยว แทนที่จะได้รับพลังใจที่ดีจากสภาพแวดล้อม
การทำความสะอาดนั้นเริ่มต้นได้ในทุกพื้นที่ของสถานที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นพื้น ผนัง เพดาน บนโต๊ะทำงาน ในมุมอับต่าง ๆ ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องขยะ รวมถึงอุปกรณ์การทำงานต่าง ๆ อาจจะมีการแบ่งฝ่ายช่วยกันดูแลพื้นที่ และมีคนที่คอยตรวจสอบเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ถ้าเป็นโรงงานที่มีเครื่องจักร การดูแลทำความสะอาดเครื่องจักรก็จะช่วยรักษาอายุให้สามาถใช้ต่อได้นาน ๆ ด้วย
เมื่อพื้นที่ทำงานสะอาด จิตใจของคนทำงานก็จะรู้สึกสดชื่นเบิกบานตามไปด้วย เพราะไม่มีกลิ่นหรือมุมมองที่ไม่น่าดูจนทำให้เสียสมาธิได้ง่าย และกลายเป็นการลดศักยภาพการทำงานของคนทำงานลง
สุขลักษณะ
ทั้ง 3 ส. ที่กล่าวไปข้างต้น นำมาสู่เรื่องของ สุขลักษณะซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด เพราะนี่คือการกำหนดกรอบมาตรฐานของสุขลักษณะที่องค์กรต้องยึดถือเอาไว้ เพื่อให้ที่ทำงานมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อคนในองค์กร
โดยสุขลักษณะนี้เป็นทั้งในเรื่องทางกายและทางใจ ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศที่ไม่อับชื้นหรือสกปรกจนก่อให้เกิดโรคทางกาย และไม่กดดันจนก่อให้เกิดความเครียดซึ่งจะกระทบต่อจิตใจในระยะยาว
โดยการทำ 3 ส. ข้างต้นเป็นส่วนช่วยทำให้สุขลักษณะทางกายและใจดีขึ้น แถมเป็นหน้าเป็นตาให้กับองค์กรนั้น ๆ ด้วย แต่นอกจาก 3 ส. การดูแลพนักงานอย่างใกล้ชิดก็สำคัญ
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่ช่วยติดตามสุขลักษณะของพนักงาน ได้แก่ SAKID ที่มีบริการโค้ชสุขภาพพนักงานส่วนตัวที่ช่วยให้ดูแลสุขลักษณะของคนทำงานได้ทั่วถึงขึ้น โดยบริการนี้จะช่วยดูแลพนักงานใน 3 มิติจาก นักกำหนดอาหาร นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และนักจิตวิทยา มาออกแบบคำแนะนำ และให้คำปรึกษาเจาะลึกรายบุคคล ตามปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นจริง สามารถตอบคำถามได้ตามความต้องการ ออกแบบแนวทางการปฏิบัติตามรายบุคคล เห็นภาพและเข้าใจง่าย
ซึ่ง HR ก็สามารถเข้าใจปัญหาหรืออุปสรรคของพนักงานที่อาจเกิดจากสุขลักษณะที่ไม่ถูกต้องในองค์กรด้วย
สร้างนิสัย
สุดท้ายแล้วก็จะทำให้ทั้ง 4 ส. ที่กล่าวมาเกิดขึ้นได้ ก็ต้องเสริมแรงเรื่องการสร้างนิสัยให้กลายเป็นนิสัยติดตัวไป โดยอาจจะมีการกำหนดวันทำกิจกรรม 5 ส. เป็นประจำทุกวัน เพื่อให้เกิดความคุ้นชิน มีการแบ่งแยกความรับผิดชอบอย่างชัดเจน และคอยติดตามผลลัพท์อยู่เสมอ
นอกจากนี้ อาจลองมีการเวิร์กชอปหรือเทรนนิ่งเพื่อให้ได้เรียนรู้เรื่องสุขลักษณะเสมอ ซึ่งปัจจุบันการเข้าถึงเวิร์กช็อปก็ง่ายดายขึ้นผ่านออนไลน์ อย่างเช่นแอปพลิเคชัน SAKID ที่ช่วยประเมินเป้าหมายได้อย่างสะดวกสบายผ่านการใช้ระบบประมวลผลจากข้อมูลสุขภาพและการตอบคำถามบนแอปพลิเคชัน เพื่อจัดเวิร์กช็อปออนไลน์ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน เพิ่มพูนทักษะที่จำเป็นแก่คนทำงาน วัดผลได้ง่าย ชัดเจน และติดตามผลลัพธ์ได้สะดวก
ซึ่งการเรียนรู้จะช่วยทำให้คนในองค์กรตื่นตัวอยู่เสมอและเป็นการย้ำเตือนสร้างนิสัยที่ดีต่อตนเองและต่อองค์กรไปพร้อม ๆ กัน
ประโยชน์ของการ 5 ส.
หากองค์กรใดที่สามารถสร้าง 5 ส. ได้อย่างจริงจังนั้น ก็จะได้ประโยชน์จากแนวคิดนี้มากมายไม่ว่าเป็น
– ส่งเสริมให้สภาพแวดล้อมเหมาะกับการทำงาน ทำให้คนทำงานมีสมาธิและมีศักยภาพมากขึ้น
– เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน เพราะไม่ต้องเสียเวลากับสิ่งที่ไม่จำเป็น
– ลดอุบัติเหตุและความเสี่ยงในพื้นที่การทำงาน เนื่องจากจัดวางของไว้อย่างเป็นระบบ
– ลดการสูญหายของอุปกรณ์ในที่ทำงาน และทำให้ไม่ต้องเสียรายจ่ายอย่างไม่จำเป็น
– สร้างความรู้สึกร่วมในการเป็นเจ้าขององค์กรกับพนักงาน เพราะนับเป็นการดูแลพื้นที่ร่วมกัน
แจกเครื่องมือที่ชวนทำให้ 5 ส. ง่ายขึ้น
หากใครยังนึกไม่ออกว่าจะเริ่มต้นทำ 5 ส. ในองค์กรอย่างไร เรามีเครื่องมือง่าย ๆ มาแนะนำให้ทุกคนได้ลองใช้ตามกัน
– ป้ายแจกแจงการจัดระเบียบอุปกรณ์ (Shadow Board)
– การขีดเส้นบอกตำแหน่ง (Floor Masking)
– ป้ายแสดงสัญลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ (Sign)
– ป้ายสำหรับบอกชื่ออุปกรณ์หรือสิ่งของ (Labeling)
– แอปพลิเคชัน SAKID ที่คอยดูแลและติดตามผลสุขภาวะของพนักงาน
สรุป
เพราะเราต่างใช้ชีวิตในที่ทำงานไม่น้อยไปกว่าการอยู่บ้าน การสร้างสถานที่ทำงานให้น่าอยู่ น่ามอง น่านั่งทำงานจึงเป็นเรื่องสำคัญพอ ๆ กัน และนั่นทำให้ 5 ส. เป็นแนวคิดสำคัญที่หลายองค์สามารถเลือกนำไปใช้เพื่อคนในองค์กรได้
ซึ่งนอกจากจะทำให้จิตใจรู้สึกปลอดโปร่งขึ้น ในด้านร่างกายเมื่อมีการดูแลความเรียบร้อย ปรับสภาพแวดล้อมให้เป็นระเบียบ ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุได้มากขึ้น นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีตัวช่วยที่ทำให้การปฏิบัติตาม 5 ส. เป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น แอปพลิเคชัน SAKID ที่เป็นตัวช่วยองค์กรในการวางแผนดูแลสถานที่ทำงานให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี ที่มีโปรแกรมอย่าง Workplace Wellness Program ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้องค์กรเข้าถึง 5 ส. ได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
บทความที่น่าสนใจ

พักจากงานสักแปป แนะนำ บอร์ดเกม ที่ควรติดไว้ให้เล่นในที่ทำงาน
การเล่นเกมเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมในที่ทำงาน นอกจากงานที่ทำอยู่แล้ว การมีเพื่อนที่เล่นเกมด้วยกันจะทำให้ผ่อนคลายและกระชับความสัมพันธ์เห็นมุมมองของแต่ละคนที่แตกต่างจากตัวตนในการทำงานอีกด้วย เกมที่แนะนำเป็นบอร์ดเกมเพราะว่าทุกคนจะสามารถวางโทรศัพท์และทุกสิ่งทุกอย่างลงได้ เพื่อมาโฟกัสจับต้องเกมกันและใช้เวลาเล่นไม่นานสั้นๆ เพื่อเป็นการพักจากงานที่ทำอยู่ หรือพักเที่ยง พักเบรคได้

7 วิธีสร้างทีมเวิร์ค(Team building) ให้แข็งแกร่ง พร้อมพิชิตเป้าหมายองค์กร
คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางทีมถึงทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น สามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม และบรรลุเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง คำตอบก็คือพวกเขามีการสร้างทีมเวิร์คที่เข้มแข็งนั่นเอง การมีทีมงานที่แข็งแกร่ง สามัคคี และทำงานร่วมกันได้ดี ถือเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการทำงานและการเติบโตขององค์กร (Salas et al., 2015)

Sport Day กีฬาสี
กิจกรรม Workshop “Meditationand Deep relaxation ”
เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 SAKID ได้จัดกิจกรรม Sport day กีฬาสีให้กับบริษัทเอสพีอินเตอร์แมค โดยได้แบ่งกิจกรรมกีฬาสีบวกกับความรู้เข้าไปผ่านเกม โดยมีนักกำหนดอาหารให้ความรู้ เช่น เกมชานม เกมวิ่งน้ำตาล โดยมีการอธิบายให้ความรู้ผ่านเกม

Snack Bar จัดอย่างไรให้พนักงานสุขภาพดี
Snack bar สำหรับพนักงาน เป็นสวัสดิการที่ช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์ และ ประสิทธิภาพการทำงานได้ แต่ควรเลือกอาหารที่เหมาะสม เช่น ผลไม้ นม แครกเกอร์ หรือ อาหารที่มีพลังงานน้อย เพื่อช่วยให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีด้วยนั่นเอง

บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตมีนบุรี
บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตมีนบุรี
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 Sakid ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิดให้กับการไฟฟ้านครหลวง เขตมีนบุรี ในกิจกรรม Fun for Fit เพื่อแนะนำการเข้าร่วมโครงการ “MEA เบิร์นเกินร้อย” เปิดศึกการแข่งกันระหว่างทีมเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี ด้วยการส่งภารกิจสุขภาพผ่านแอพสะกิด และลุ้นรับของรางวัลในแต่ละเดือน

WORKSHOP Booth nutrition and mental health
วันที่ 13 ธันวาคม 2567 SAKID ได้ร่วมกิจกรรมออกบูธนักกำหนดอาหารและจิตวิทยา ที่บริษัทLumentum โดยจะมีกิจกรรมให้ความรู้โภชนาการโดยนักกำหนดอาหารวิชาชีพผ่านให้พนักงานได้เข้ามาร่วมสนุกระหว่างพักกลางวันโดยจะมีเกมบิงโกเรื่องอาหารสุขภาพดีและทริคเรื่องอาหารที่ปรับให้สุขภาพดี เกมทายแคลอรีอาหารที่จะให้ความรูเรื่องการเลือกอาหารประเภทต่างๆโดยไม่ต้องคำนวนแคลอรี โดยผู้ชนะจะได้รับของที่ระลึกจากบูธไปนอกจากนี้ยังได้ความรู้เรื่องโภชนาการอาหารผ่านเกมอีกด้วย ส่วนบูธนักจิตวิทยาจะเป็นการให้ทำแบบประเมินสุขภาพใจ เพื่อให้พนักงานรู้ว่าตัวเองตอนนี้กำลังเผชิญภาวะทางจิตใจหรือไม่พร้อมให้คำแนะนำบริการการปรึกษานักจิตวิทยาออนไลน์ นอกจากนี้ใครที่ได้ทำแบบประเมินยังได้เลือกรับหินสายมูกันไปนอกจากจิตใจที่แข็งแกร่งแล้วหินสายมูก็ช่วยให้พลังใจบวกไปอีกด้วย