7 วิธีสร้างทีมเวิร์ค(Team building) ให้แข็งแกร่ง พร้อมพิชิตเป้าหมายองค์กร
- 06/05/24
คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางทีมถึงทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น สามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม และบรรลุเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง คำตอบก็คือพวกเขามีการสร้างทีมเวิร์คที่เข้มแข็งนั่นเอง การมีทีมงานที่แข็งแกร่ง สามัคคี และทำงานร่วมกันได้ดี ถือเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการทำงานและการเติบโตขององค์กร (Salas et al., 2015)
อย่างไรก็ตาม การสร้าง Team building ที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และการจัดกิจกรรมที่เหมาะสม กระบวนการสร้าง Team building ควรเริ่มต้นจากการวางแผนและกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ผู้นำทีมต้องสื่อสารวิสัยทัศน์และค่านิยมหลักขององค์กร เพื่อให้สมาชิกเข้าใจและเห็นคุณค่าของการทำงานร่วมกัน จากนั้นจึงออกแบบกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ความไว้วางใจ และความร่วมมือภายในทีม (Shuffler et al., 2011) โดยกิจกรรม Team building ที่นิยมใช้กันได้แก่
1.Ice Breaking (การละลายพฤติกรรม) – กิจกรรมที่ช่วยให้สมาชิกได้ทำความรู้จักและไว้ใจกันมากขึ้น เช่น การแนะนำตัว เล่นเกมสันทนาการ หรือแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัว
2.Problem Solving (การแก้ไขปัญหา) – การระดมสมองเพื่อแก้ไขปัญหาหรือหาไอเดียใหม่ ๆ ร่วมกัน เป็นการฝึกการคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร และการตัดสินใจเป็นทีม
3.Trust Building (การสร้างความไว้วางใจ) – กิจกรรมที่ท้าทายให้สมาชิกออกจาก Comfort Zone และต้องพึ่งพากัน เช่น การปีนผา การทำภารกิจในสถานการณ์จำลอง ช่วยสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในทีม
4.Personality Assessment (การประเมินบุคลิกภาพ) – การทำแบบทดสอบบุคลิกภาพทางจิตวิทยา เพื่อให้สมาชิกเข้าใจตนเองและผู้อื่นมากขึ้น เช่น MBTI, DISC หรือ Enneagram เป็นต้น
5.Skill Development (การพัฒนาทักษะ) – การฝึกอบรมทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานร่วมกัน เช่น การสื่อสาร การบริหารความขัดแย้ง หรือการเป็นผู้นำ เพื่อยกระดับศักยภาพของทีม
6.Celebration & Recognition (การเฉลิมฉลองและชื่นชม) – การเฉลิมฉลองความสำเร็จหรือชื่นชมสมาชิกที่มีผลงานดีเด่น จะช่วยสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดี กระตุ้นแรงจูงใจ และความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของทีม
7.CSR (กิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม) – การทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกัน (Corporate Social Responsibility) จะช่วยปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรที่ดี รวมถึงเสริมสร้างการทำงานเป็นทีมได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม มีหลายปัจจัยที่จะช่วยให้การสร้าง Team Building ประสบผลสำเร็จ (Lacerenza et al., 2018) หนึ่งในนั้นคือ ต้องทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่จัดกิจกรรมเป็นครั้งคราวแล้วหยุด แต่ต้องวางแผนและดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน มีการประเมินผล และปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ การสื่อสารภายในทีมต้องเปิดกว้าง ตรงไปตรงมา และให้เกียรติซึ่งกันและกัน สมาชิกทุกคนต้องรู้สึกปลอดภัยที่จะแสดงความคิดเห็น โดยไม่ต้องกลัวการตำหนิ การจัดประชุมแบบไม่เป็นทางการเป็นประจำ จะช่วยให้สมาชิกได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยมีผู้นำทีมคอยกระตุ้นให้ทุกคนได้แสดงความเห็น รับฟังด้วยใจเปิดกว้าง และไม่ด่วนตัดสินความเห็นของผู้อื่น แต่ช่วยกันวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียอย่างสร้างสรรค์ เพื่อหาข้อสรุปที่ดีที่สุดร่วมกัน การทำเช่นนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศของการเปิดใจรับฟังและเคารพความเห็นที่แตกต่างภายในทีม
สิ่งหนึ่งที่สำคัญ
คือต้องสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและความรับผิดชอบร่วมกัน ให้สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการตั้งเป้าหมาย การตัดสินใจ และการแก้ไขปัญหา มีความรู้สึกว่างานและความสำเร็จเป็นของทุกคน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง
ท้ายที่สุด ผู้นำทีมเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ทีมเวิร์คแข็งแกร่ง ผู้นำต้องทำหน้าที่โค้ชและพัฒนาสมาชิก สอนงาน ให้คำแนะนำ และคอยสนับสนุน เมื่อเกิดปัญหาขึ้นต้องจัดการอย่างสร้างสรรค์ ไม่มุ่งตำหนิติเตียน แต่ช่วยกันคิดหาทางออก คอยสังเกตและประคับประคองให้ทีมทำงานร่วมกันได้ดี ขณะเดียวกันก็รักษามาตรฐานและความรับผิดชอบของงานไว้ด้วย นี่คือภาวะผู้นำสมดุลที่ทีมต้องการ
หากองค์กรของคุณสามารถสร้าง Team Building ที่แข็งแกร่งได้สำเร็จ ประโยชน์ที่จะได้รับนั้นมากมาย ทั้งการเพิ่มผลิตภาพ คุณภาพของงาน ความผูกพันของพนักงาน และภาพลักษณ์ที่ดีต่อลูกค้าและสังคม (Mathieu et al., 2015) การลงทุนพัฒนาทีมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงความต้องการของพนักงานและวัฒนธรรมองค์กร จึงเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและคุ้มค่า แม้การสร้างทีมเวิร์คที่ดีจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากผู้นำและสมาชิกทุกคนมุ่งมั่น ร่วมแรงร่วมใจ เรียนรู้และพัฒนาไปด้วยกันอย่างสม่ำเสมอ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ลองนำ 7 เคล็ดลับที่กล่าวมาปรับใช้กับทีมของคุณ แล้วคุณจะเห็นพลังอันเหลือเชื่อจากการร่วมมือกันอย่างแท้จริง ที่จะนำพาองค์กรของคุณไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนได้อย่างแน่นอน และหากกำลังมองหากิจกรรมที่ช่วยเรื่อง Team Building ขอแนะนำ SAKID application ที่มีกิจกรรมท้าทายให้เลือกทำ แบ่งทีมช่วยกันเก็บคะแนน ให้น้องสะกิดเติบโตขึ้น พร้อมให้สะกิดคอยน์กับเพื่อน ๆ ได้ ช่วยสร้างสัมพันธ์อันดี นอกจากจะได้ทีมเวิร์คที่ดีแล้ว สุขภาพยังดีขึ้นอีกด้วยภารกิจด้านอาหาร และออกกำลังกาย
แหล่งอ้างอิง
- Lacerenza, C. N., Marlow, S. L., Tannenbaum, S. I., & Salas, E. (2018). Team development interventions: Evidence-based approaches for improving teamwork. American Psychologist, 73(4), 517–531. https://doi.org/10.1037/amp0000295
- Mathieu, J. E., Hollenbeck, J. R., van Knippenberg, D., & Ilgen, D. R. (2017). A century of work teams in the Journal of Applied Psychology. Journal of Applied Psychology, 102(3), 452–467. https://doi.org/10.1037/apl0000128
- Salas, E., Shuffler, M. L., Thayer, A. L., Bedwell, W. L., & Lazzara, E. H. (2015). Understanding and improving teamwork in organizations: A scientifically based practical guide. Human Resource Management, 54(4), 599–622. https://doi.org/10.1002/hrm.21628
- Shuffler, M. L., DiazGranados, D., & Salas, E. (2011). There’s a science for that: Team development interventions in organizations. Current Directions in Psychological Science, 20(6), 365–372. https://doi.org/10.1177/0963721411422054
บทความที่น่าสนใจ
WORKSHOP Cooking class สลัดโรล
กิจกรรม Cooking class สลัดโรล
วันที่ 20 สิงหาคม 2567 SAKID ได้จัดกิจกรรม Cooking class สลัดโรล ที่บริษัท CBRE โดยพนักงานได้เข้าร่วมจำนวน 40 คน ซึ่งนักกำหนดอาหารวิชาชีพ ได้เป็นผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบและมีทริคการดูแลสุขภาพด้านอาหารสำหรับชาวออฟฟิศให้เล่นเกมสุขภาพพร้อมรับของรางวัลกันอีกด้วย คลาสสอนทำสลัดโรลจะแบ่งทำเป็น 2เมนูคือ สลัดโรลเต้าหู้ กับ สลัดโรลปลาทูนึ่ง โดยทั้งสองเมนูจะใช้รสชาติจากผักและสมุนไพรเป็นหลักเพื่อสุขภาพที่ดีและน้ำจิ้มสูตรโซเดียมต่ำ อร่อยได้ง่ายๆ และสามารถนำกลับไปทำเองได้ที่บ้านได้
[Case Study] ตัวอย่างสวัสดิการพนักงานจากทั่วโลก
เพราะ ‘คนทำงาน’ เป็นสิ่งที่องค์กรควรลงทุนมากที่สุด และการลงทุนนั้นก็คือสวัสดิการที่จะช่วยให้พนักงานมีชีวิตที่ดีได้ ชวนไปสำรวจตัวอย่างสวัสดิการพนักงานจากทั่วโลกกัน
โลกยุค VUCA เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รับมือทางการเงินอย่างไรดี
ในโลกทุกวันนี้ ท่ามกลางความรวดเร็วในกระแสธารของการแข่งขันเพื่อพัฒนาและก้าวข้ามขีดจำกัดต่าง ๆ ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานมนุษย์ ความก้าวหน้าทางการแพทย์และวิศวกรรมแขนงต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการสำรวจแหล่งทรัพยากรใหม่ ๆ นอกโลกใบนี้ ฯลฯ จึงทำให้เกิดความเป็นไปได้ของโลกในอนาคต ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ซับซ้อนยากเกินจะคาดเดาและคาดการณ์อย่างมั่นใจได้ว่า การใช้ชีวิตในอนาคตของเรานั้นจะเปลี่ยนไปจากปัจจุบันมากแค่ไหน
ลดน้ำหนัก แต่ไม่อยากอดอาหาร หรือออกกำลังกาย ฉบับองค์กร
ในยุคที่การทำงานหนักและการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบเป็นเรื่องปกติ ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานที่มักมีเวลาน้อยในการดูแลสุขภาพตัวเอง ซึ่งภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนเป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง เป็นต้น นอกจากนี้เรายังพบความสัมพันธ์ระหว่างโรคอ้วนและโรคมะเร็งบางชนิดอีกด้วย ถึงเวลาแล้วหรือยังคะที่เราจะเริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพกันเพิ่มมากขึ้น
โรคซึมเศร้า ในที่ทำงาน นักจิตวิทยาช่วยคุณได้
ในปัจจุบันโรคซึมเศร้าที่คนวัยทำงานต้องเผชิญพบเจอเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยผลจากการศึกษาสุขภาพแบบองค์รวมในประชากรทั่วโลกพบว่าโรคซึมเศร้าทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเป็นอันดับ 2 ในปี 2020และถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นอับดับ 1 ในปี2030 (WHO, 2019) ส่วนในประเทศไทยจากการจัดอันดับการการเสียสุขภาพแบบองค์รวมของคนไทย พบว่าโรคซึมเศร้าก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพเป็นอันดับ 1 ของผู้หญิงไทย ส่วนอันดับ 2 ในผู้ชายไทย
จัดการความเสี่ยง เริ่มต้นที่สุขภาพพนักงาน
กิจวัตรประจำวันของพนักงานออฟฟิศนอกจากจะนั่งทำงานอย่างยาวนานแล้ว สิ่งหนึ่งที่พบเจอในองค์กรเมื่อตรวจสุขภาพประจำปี นั่นก็คือ ค่าไขมันสะสมสูงอาจจะเพราะว่าการเลือกกินอาหารที่มีไขมันสูง น้ำหวาน ซึ่งอาจจะเข้าใจได้ว่าเกิดจากวัฒนธรรมองค์กรที่ช่วงบ่ายๆ เหนื่อยๆ มีความเครียดในที่ทำงานจนต้องหาน้ำหวาน ขนม มากิน ผนวกกับการนั่งทำงานนานๆ ไม่ขยับตัวจนไม่เกิดการเผาผลาญของร่างกายและนี่คือพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคต่างๆ อย่างเช่น อ้วนลงพุง ไขมันในเลือดสูง ไขมันพอกตับ ไตรกลีเซอไรด์สูง เบาหวาน เป็นต้น