
“กิจกรรม csr” การทำเพื่อสังคมที่สร้างประโยชน์ได้มากกว่าที่คุณคิด
- 09/12/22
การที่ธุรกิจหนึ่งจะสามารถดำรงอยู่และเติบโตได้ ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องพึ่งพาสังคมและทรัพยากรที่มีอยู่บนโลก ธุรกิจที่เติบโตขึ้นจึงมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบและตอบแทนสังคมที่ให้การสนับสนุนและทรัพยากรที่ธุรกิจได้ใช้ไป เป็นที่มาของ กิจกรรม CSR หรือ Corporate Social Responsibility หรือที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า คือ การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมขององค์กร
กิจกรรม CSR คืออะไร
กิจกรรมเพื่อสังคม หรือ กิจกรรม CSR (Corporate Social Responsibility) คือ กิจกรรมที่บริษัทหรือองค์กรจัดขึ้นภายใต้แนวคิดในการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สามารถจัดกิจกรรมได้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เป็นกิจกรรมทำประโยชน์ให้กับสังคมที่หมายถึงผู้บริโภคที่สนับสนุนธุรกิจและทรัพยากรต่าง ๆ ที่ธุรกิจได้ใช้
กิจกรรม CSR สามารถจัดได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ได้จำกัดเฉพาะการปลูกป่าหรือการบริจาคสิ่งของให้กับผู้ยากไร้เท่านั้น กิจกรรม CSR ยังมีหลากหลายระดับที่องค์กรสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ระดับจริยธรรมการดำเนินงานจนถึงกิจกรรมที่มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม
ในปัจจุบัน เรารับรู้กันว่า บริษัทใหญ่ ๆ มักจะจัดกิจกรรม CSR หรือกิจกรรมเพื่อสังคมอยู่เสมอ จนอาจเกิดความเข้าใจว่า กิจกรรม CSR คือ ข้อบังคับของบริษัทขนาดใหญ่ ในความเป็นจริงแล้ว ยังไม่มีกฎหมายหรือข้อบังคับให้องค์กรต่าง ๆ ต้องทำ CSR แต่องค์กรขนาดใหญ่ส่วนมากก็ให้ความสำคัญของการทำ CSR ถือเป็นหนึ่งในหน้าที่หรือถึงขั้นจัดตั้งหน่วยงานในองค์กรสำหรับดูแลเรื่อง CSR โดยเฉพาะ
แล้วเพราะเหตุใดองค์กรหรือธุรกิจถึงต้องให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรม CSR?
ทำไมต้องทำ CSR แม้ไม่มีกฎหมายบังคับ
แม้ไม่ได้มีข้อบังคับเชิงกฎหมาย แต่การทำ CSR ก็ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติขององค์กรและธุรกิจขนาดใหญ่ และถือว่าเป็นความรับผิดชอบของธุรกิจที่ต้องมีต่อสังคม เพราะการที่ธุรกิจดำรงอยู่และเติบโตขึ้นได้ก็มาจากแรงสนับสนุนของสังคมและจากการใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำ ไฟฟ้า วัสดุจากธรรมชาติ รวมไปถึงกระบวนการผลิตที่ส่งผลกระทบต่าง ๆ จากการดำเนินธุรกิจที่ปฏิเสธไม่ได้
แต่นอกเหนือจากความรับผิดชอบที่ยึดถือกันแล้ว กิจกรรม CSR ยังมีประโยชน์ในแง่อื่นอีกด้วย ธุรกิจมักจัดกิจกรรม CSR เพื่อส่งเสริมค่านิยมของบริษัท ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ในมุมของผู้บริโภค เช่น กิจกรรมที่ส่งเสริมหรือสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสนใจ และใช้เป็นปัจจัยในการเลือกสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนแบรนด์/ธุรกิจต่าง ๆ
ในขณะเดียวกัน ประโยชน์อีกด้านที่ธุรกิจได้รับจากการจัดกิจกรรม CSR ต่าง ๆ คือ การสร้างทีมและสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน (Employee Engagement) โดยเฉพาะกิจกรรมที่ให้พนักงานได้มีส่วนร่วมและออกไปทำกิจกรรมด้วยกัน นอกจากนี้ กิจกรรม CSR ยังช่วยทำให้พนักงานเกิดความภาคภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับองค์กรที่ใส่ใจปัญหาหรือมีค่านิยมที่ตรงกันอีกด้วย
4 ระดับของการทำกิจกรรม CSR
การทำ CSR ไม่ได้จำกัดรูปแบบอยู่แค่กิจกรรมที่ต้องออกไปทำข้างนอกองค์กรหรือไปช่วยเหลือกลุ่มคนใดกลุ่มคนหนึ่งเท่านั้น แต่องค์กรสามารถจัดและทำกิจกรรม CSR ได้ในระดับต่าง ๆ
ระดับของการทำ CSR แบ่งได้เป็น 4 ระดับ ดังต่อไปนี้
ระดับ 1: ข้อกำหนดตามกฎหมาย (Mandatory Level) หมายถึง การทำ CSR ตั้งแต่ในระดับกฎหมาย ธุรกิจมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่มีอยู่ เช่น กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายแรงงาน การจ่ายภาษี เป็นต้น
ระดับ 2: ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ (Elementary Level) หมายถึง การรับผิดชอบต่อสังคมโดยการคำนึงถึงความอยู่รอดและผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ทั้งผู้บริโภค พนักงาน ผู้ถือหุ้น ฯลฯ และกำไรที่ได้มาต้องไม่ได้มาจากการเอาเปรียบสังคม
ระดับ 3: จรรยาบรรณทางธุรกิจ (Preemptive Level) หมายถึง การประกอบกิจกรรมอย่างมีจรรยาบรรณ ไม่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผู้บริโภคและสังคม ไม่หาช่องว่างทางกฎหมายเพื่อเอาเปรียบผู้อื่น ใส่ใจต่อผลกระทบรอบด้านจากการทำธุรกิจ โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ใกล้ฐานผลิตหรือผู้ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
ระดับ 4: ความสมัครใจ (Voluntary Level) หมายถึง การจัดกิจกรรม CSR ที่จัดด้วยความสมัครใจ นอกเหนือจากหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม เช่น กิจกรรมช่วยเหลือผู้ยากไร้ การบริจาคเพื่อการกุศล การสร้างโรงเรียน การส่งเสริมการตระหนักรู้ปัญหาสังคม ฯลฯ
กิจกรรม CSR มีอะไรบ้าง?
นอกจากระดับทั้ง 4 ของการทำ CSR แล้ว การทำกิจกรรม CSR ก็สามารถจัดทำได้ในหลายลักษณะ ซึ่งเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ลักษณะด้วยกัน
1. การส่งเสริมประเด็นสังคม (Cause Promotion) หมายถึง การที่ธุรกิจจัดกิจกรรมหรือแคมเปญขึ้นเพื่อส่งเสริมประเด็นปัญหาต่าง ๆ ในสังคม หรืออาจเป็นการช่วยเหลือในด้านทุนทรัพย์และทรัพยากร เช่น แคมเปญส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในสถานที่ทำงาน การระดมทุนช่วยเหลือองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม
2. การตลาดที่เกี่ยวโยงกับประเด็นสังคม (Cause-Related Marketing) หมายถึง การทำการตลาดที่มีส่วนช่วยสังคม การแบ่งส่วนหนึ่งจากยอดขายไปสมทบหรือบริจาคให้กับหน่วยงาน/มูลนิธิต่าง ๆ เช่น การทำฉลากผลิตภัณฑ์เพื่อสื่อสารประเด็นทางสังคม การแบ่งยอดขายให้กับโรงพยาบาล ฯลฯ
3. การตลาดเพื่อแก้ปัญหาสังคม (Corporate Social Marketing) หมายถึง กิจกรรมหรือการทำการตลาดของธุรกิจที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดการสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับประเด็นสังคม มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในด้านต่าง ๆ ส่วนใหญ่เห็นออกมาในรูปแบบของแคมเปญการตลาด เช่น โฆษณาที่ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ แคมเปญรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงในครอบครัว
4. การบริจาคเพื่อการกุศล (Corporate Philanthropy) หมายถึง กิจกรรมการบริจาคทั้งทุนทรัพย์และปัจจัยสิ่งของเพื่อช่วยเหลือปัญหาสังคม ทั้งที่มาจากการขอความช่วยเหลือและจากสถานการณ์ เช่น บริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม การบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ป่วยโรงมะเร็ง
5. การอาสาช่วยเหลือชุมชน (Community Volunteering) หมายถึง กิจกรรม CSR ที่ธุรกิจชักชวนในพนักงานออกสละเวลาส่วนตัวเพื่อไปช่วยเหลืองานสังคม โดยองค์กรอาจเป็นผู้ริเริ่มทำหรือไปร่วมทำกับหน่วยงานที่ทำอยู่ก่อนแล้ว เช่น กิจกรรมเก็บขยะในสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรมเก็บขยะในแม่น้ำ กิจกรรมทำแนวกั้นไฟป่า
6. การประกอบธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม (Socially Responsible Business Practices) หมายถึง การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนในสังคมและชุมชนแวดล้อม หลีกเลี่ยงการส่งเสริมให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น การใช้วัตถุดิบการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้แรงงานอย่างเป็นธรรม การส่งเสริมให้พนักงานมีจิตสำนึกต่อสังคม
7. การพัฒนาและส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการตามกำลังซื้อของคนในระดับฐานราก (Developing and Delivering Affordable Products and Services) หมายถึง การดำเนินธุรกิจและออกผลิตภัณฑ์หรือบริการสู่ตลาดในราคาที่ไม่แพง สมเหตุสมผล เหมาะกับกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าในกลุ่ม “ปัจจัย 4” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม
ขั้นตอนและสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการจัดกิจกรรม CSR
สำหรับฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือ HR ที่ต้องการจัดกิจกรรม CSR ในองค์กร เรามีคำแนะนำในการเริ่มต้น 3 ขั้นตอนด้วยกัน
ขั้นที่ 1: แยกแยะผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
แยกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจขององค์กรว่ามีใครบ้าง เพื่อให้รู้ว่า การดำเนินกิจกรรมของธุรกิจส่งผลกระทบต่อใครบ้าง ได้แก่
– ภายในบริษัท ได้แก่ ผู้ถือหุ้น พนักงาน
– ผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทโดยตรง ได้แก่ ลูกค้า ซัพพลายเออร์ คู่แข่ง
– ผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทโดยอ้อม ได้แก่ ภาครัฐ ชุมชน
ขั้นที่ 2: พิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่าง ๆ
คำนึงถึงผลกระทบและประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับองค์กร ยกตัวอย่างเช่น
– พนักงาน: สวัสดิการพนักงาน กฎหมายแรงงาน ความเท่าเทียมทางเพศในสถานที่ทำงาน
– ผู้บริโภค: ความปลอดภัยของสินค้า ราคาและคุณภาพของสินค้าที่เป็นธรรม
– สังคม: ผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่โดยรอบ ประเด็นทางสังคมต่าง ๆ
– สิ่งแวดล้อม: ข้อกำหนดต่าง ๆ ทางกฎหมาย ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ขั้นที่ 3: เลือกทำประเด็นที่จะดำเนินการตามความเหมาะสม
พิจารณาประเด็นที่ธุรกิจอยากส่งเสริม โดยอาจจะพิจารณาที่เหมาะสม เช่น
– ความพร้อมด้านทรัพยากร เช่น ความพร้อมด้านการเงิน ทรัพยากรบุคคล
– ค่านิยมที่องค์กรอย่างสนับสนุน เช่น ประเด็นสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน
– สถานการณ์ทางสังคม เช่น เกิดวิกฤตในสังคมหรือเกิดภัยพิบัติ
ตัวอย่างกิจกรรม CSR จากบริษัทชั้นนำ
1. น้ำดื่มสิงห์ บริจาคพื้นที่ฉลากข้างขวดเป็นป้ายตามหาคนหาย
บริษัทน้ำดื่มสิงห์ ทำกิจกรรม CSR บริจาคพื้นที่ฉลากเป็นป้ายตามหาเด็กหาย 5 คน ถือเป็นกิจกรรม CSR ประเภทการตลาดที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสังคม สร้างการตระหนักรู้เรื่องคนหายและช่วยกระจายข่าวเด็กหายทั้ง 5 คน
ที่มาข่าว: brandbuffet
2. King Power สร้างสนามหญ้าเทียม 100 สนาม ให้กับโรงเรียน
King Power จัด “โครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” สร้างสนามฟุตบอลให้กับโรงเรียนและชุมชนที่ขาดแคลน 100 แห่ง เพื่อเป็นพื้นที่ให้เยาวชนได้ฝึกซ้อม พร้อมสานฝันเยาวชนที่อยากเป็นนักเตะอาชีพโดยการส่งนักเตะเยาวชนไทยไปเข้าอะคาเดมีไกลถึงเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
ที่มาข่าว: marketingoops
3. ห้างสรรพสินค้า Lotus สร้างจุดรับบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล
ห้างสรรพสินค้า Lotus ที่มีสาขาทั่วประเทศ จัดกิจกรรม CSR สร้างจุดรับบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล ทั้งขวดพลาสติก กล่องกระดาษ และพลาสติกชนิดต่าง ๆ เพื่อช่วยลดการกลบฝังขยะ ลดขยะที่ไม่จำเป็น และนำพลาสติกไปเข้ากระบวนการรีไซเคิล ถือเป็นการทำกิจกรรม CSR ร่วมกับชุมชน ที่ทั้งส่งเสริมประเด็นและช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ที่มาข่าว: lotuss
4. AirAsia ช่วยโปรโมตธุรกิจรายย่อยตามจังหวัดต่าง ๆ
สายการบิน AirAsia จัดทำโฆษณาแนะนำโปรโมชัน พร้อมชวนให้ผู้ประกอบการรายย่อยจากจังหวัดท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้แนะนำโปรโมชันหรือเชิญชวนให้คนมาท่องเที่ยว ถือเป็นกิจกรรม CSR ผ่านการทำโฆษณาที่ช่วยส่งเสริมสังคมแบบน่ารัก
ที่มาข่าว: AirAsia
5. กิจกรรมอาสาอื่น ๆ ที่ทุกองค์กรสามารถทำได้
– โครงการปล่อยเต่าคืนสู่บ้าน จากศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล
– โครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ท้องถิ่น จากมูลนิธิไทยรักษ์ป่า
– โครงการ Read for the blind อ่านหนังสือให้ผู้พิการทางสายตา ร่วมกับมูลนิธิคนตาบอด
– โครงการบริจาคเลือดกับสภากาชาด
– โครงการแบ่งปันเพื่อการเปลี่ยนแปลง ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา
และกิจกรรม CSR งานอาสาอีกมากมายที่องค์กรสร้างเข้าร่วมได้กับธนาคารจิตอาสา สร้างความเหนียวแน่นให้กับทีมงาน สร้างการมีส่วนร่วมในบริษัท ไปพร้อมกับการช่วยเหลือสังคม
สรุปประโยชน์ของการทำ CSR
แนวคิดโดยพื้นฐานของการทำกิจกรรม CSR คือ การที่ธุรกิจรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อให้ทั้งธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
ประโยชน์สำคัญของการทำ CSR จึงทำไปเพื่อประโยชน์ของสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ในขณะเดียวกัน บริษัทหรือธุรกิจที่จัดกิจกรรมก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคหรือสังคมได้ รวมไปถึงการส่งเสริมค่านิยมหรือ Core Value ที่องค์กรให้ความสำคัญ ตอกย้ำผ่านการทำกิจกรรม CSR
สำหรับประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ก็อย่างเช่น ประโยชน์จากการจัดกิจกรรมที่ทำให้พนักงานมีส่วนร่วมกับองค์กร การสร้างความสุขและความภาคภูมิใจในการทำงานร่วมกับองค์กรของพนักงาน ธุรกิจได้รับการยอมรับจากสังคม เมื่อธุรกิจเกื้อหนุนสังคม สังคมก็จะเต็มใจให้ความสนับสนุน สร้างระบบนิเวศน์ทางเศรษฐกิจที่พึ่งพาอาศัยกัน
บทความที่น่าสนใจ

บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตบางเขน
บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตบางเขน
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 Sakid ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิดให้กับการไฟฟ้านครหลวง เขตบางเขน ในกิจกรรม Fun for Fit เพื่อแนะนำการเข้าร่วมโครงการ “MEA เบิร์นเกินร้อย” เปิดศึกการแข่งกันระหว่างทีมเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี ด้วยการส่งภารกิจสุขภาพผ่านแอพสะกิด และลุ้นรับของรางวัลในแต่ละเดือน

Employee Engagement เทคนิคสานสัมพันธ์ของพนักงานและองค์กร
การสานสัมพันธ์ของพนักงานและองค์กร ถือเป็นโจทย์ที่น่าขบคิดอีกหนึ่งอย่างสำหรับ HR และผู้บริหารภายในองค์กร Employee Engagement จึงเข้ามามีบทบาทที่สำคัญในจุดนี้

WORKSHOP ONLINE กินเป็นลืมป่วย กับ นักกำหนดอาหาร
กิจกรรม “กินเป็นลืมป่วย”
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop online “กินเป็นลืมป่วย” ให้กับบริษัทเอสพี อินเตอร์แมค โดยนักกำหนดอาหารวิชาชีพได้ให้ความรู้เรื่องการจัดเก็บอาหารและของสด การเลือกอาหารที่เสริมสร้างสุขภาพ ไม่ให้เจ็บป่วย

รวม 5 หลักการปรับ “ท่านั่งทํางานที่ถูกต้อง” ลดออฟฟิศซินโดรม
ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง ต้องนั่งยังไง? นั่งแบบไหนให้ไกลออฟฟิศซินโดรม? แนะนำ 5 หลักการที่ต้องปรับท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง พร้อมวิธีเลือกเก้าอี้และโต๊ะถูกหลัก Ergonomics

EAP คือ ? รู้จักกับเครื่องมือสำคัญในการช่วยเหลือสุขภาพใจพนักงานให้ดียิ่งขึ้น
ปัญหาสุขภาพจิตของพนักงานเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่องค์กรไม่ควรมองข้าม เครื่องมือสำหรับช่วยเหลือในปัญหาสุขภาพจิตอย่าง EAP จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะมีไว้ในองค์กร

WORKSHOP ONLINE HIIT ทำน้อยได้มาก
กิจกรรม “HIIT ทำน้อยได้มาก” ฉบับคนไม่มีเวลา
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop “HIIT ทำน้อยได้มาก” ให้กับบริษัทเอสพี อินเตอร์แมค โดยผู้เข้าร่วม Workshop Online จะได้รู้เรื่องการใช้พลังงานของร่างกายส่วนต่างๆ และท่าออกกำลังกายที่ทำได้ โดยไม่ต้องใช้เวลาเยอะในการออกกำลังกาย