Well Being
URL Copied!

Well Being คืออะไร สร้างสุขให้พนักงานด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี

ตั้งแต่สถานการณ์ COVID-19 เริ่มต้นขึ้น ปัญหาการทำงานของพนักงานในปัจจุบันก็เริ่มเด่นชัดขึ้นให้เห็นภายในองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องปรับตัวกับภาวะวิกฤตดังกล่าว ทั้งชีวิตส่วนตัวของพวกเขา และการงานที่ทำอยู่ Well Being จึงถูกยกขึ้นมาให้กลายเป็นประเด็นสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ที่องค์กรจะต้องหาทางออกให้กับพนักงานของตน จากสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบัน

 

Well Being คืออะไร ? หนทางสร้างความสุข ที่ไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพร่างกายอีกต่อไป

 

Happy Worker

 

Well Being คือ “สุขภาวะ” ซึ่งหากแปลในด้านความหมายการใช้งาน จะแปลได้ว่าการมีสุขภาวะที่ดีในทุก ๆ ด้านของมนุษย์ ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงสุขภาวะด้านต่าง ๆ ของพนักงานภายในองค์กรที่ต้องทำงานร่วมกัน เพราะความเครียดจากการทำงานนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นได้แค่จากการที่ต้องทำงานร่วมกันกับผู้อื่น แต่ยังเป็นทั้งสภาพแวดล้อมที่ทำงาน, สุขภาพร่างกายของเขา, หน้าที่การงานของตัวเอง และการใช้จ่ายเงินของตน

 

ซึ่ง Well Being นี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ “ควรมี” ในองค์กรต่าง ๆ เพราะในงานวิจัยที่ต่างประเทศได้ระบุเอาไว้ว่า เหตุผลจากการลาและขาดงานที่เกิดจากความเครียดในการทำงานนั้น มีสูงถึง 57% ในประเทศอังกฤษ และสูงถึง 83% ในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงเป็นสิ่งที่ฝ่ายบริหารขององค์กรต่าง ๆ จำเป็นจะต้องหันมาสนใจ

 

ปัจจัยของ Well Being หนทางสร้างความสุข ที่ไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพร่างกายอีกต่อไป

 

สุขภาวะทางกาย (Physical Well Being)

 

Physical Well Being คือ สิ่งที่ไม่ได้หมายถึงเพียงสุขภาพร่างกายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง “พลังชีวิต” ที่มากพอที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เหลือในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

 

สุขภาวะทางหน้าที่การงาน (Career Well Being)

 

Career Well Being คือ การรับรู้ถึงคุณค่าในงานที่ตนเองนั้นทำอยู่ ชัดเจนว่าสิ่งทำนั้นทำอะไร และทำไปเพื่ออะไร รวมไปถึงการมีใจรักในการทำงานที่ตนกำลังทำอยู่ด้วย

 

สุขภาวะทางการเงิน (Financial Well Being)

 

Financial Well Being คือ สุขภาวะทางการเงินที่ไม่ได้หมายถึงการมีรายได้ที่มาก แต่เป็นความมั่นคงต่อรายได้ในระยะยาว และการมีเงินเพียงพอกับรายจ่ายโดยไม่สร้างความเครียดให้กับตนนั่นเอง

 

สุขภาวะทางสังคม (Social Well Being)

 

Teamwork

 

Social Well Being คือ การที่ได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานที่ไว้วางใจกันได้ และมีทัศนคติที่ดี ที่ไม่ทำให้ต้องมานั่งระแวง หรือประสาทเสียใส่กัน

 

สุขภาวะทางสภาพแวดล้อม (Community Well Being)


Community Well Being คือ พื้นที่ทำงานที่ปลอดโปร่ง, ไม่แออัด, ถ่ายเทอากาศได้สะดวก รวมไปถึงส่งเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จัดว่าเป็นสุขภาวะทางสภาพแวดล้อมทั้งสิ้น

 

4 หลักการบริหารและสรรค์สร้าง Well Being ภายในองค์กร

 

Well Being Worker

 

หลักการสำคัญในการพัฒนา Well Being ในองค์กรนั้น หลัก ๆ มี 4 หลักการด้วยกัน ที่สามารถนำไปปรับไปใช้กับองค์กรต่าง ๆ โดยทั้ง 4 หลักการนี้มีจุดประสงค์ร่วมกันคือ เพื่อให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรอันมีค่า ที่เรียกว่าสุขภาพของพนักงานได้อย่างดีขึ้น โดยมีดังนี้

 

1. Encourage individuality


ช่วยพนักงานออกแบบโปรแกรมสุขภาวะของตัวเอง ให้เขาได้เลือกทัศนคติ หรือพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม และมีความหมายกับตัวเขาในการนำไปปรับใช้ ซึ่งความยืดหยุ่นถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมจากพนักงานให้เกิดขึ้นจริงเป็นอย่างมาก


2. Inclusive teams are essential to success


มอบอำนาจให้กับพนักงานด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมของการมีส่วนร่วม, การเป็นส่วนหนึ่ง รวมไปถึงการสร้างทีมที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และทำพฤติกรรมสุขภาพร่วมกัน ซึ่งจะช่วยทำให้พฤติกรรมเหล่านั้นกลายเป็นนิสัยได้ง่ายขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกันเองภายในทีมอีกด้วย


3. Show that wellbeing matters


ให้ Well Being เป็นมากกว่าคำพูด โดยการให้ความสำคัญกับมันในฐานะผลประโยชน์ทางธุรกิจ การที่จะสร้างสุขภาวะให้ประสบความสำเร็จได้ องค์กรต้องเห็นตรงกันตั้งแต่บนสุดลงมา ถึงประโยชน์ของสุขภาวะพนักงานในฐานะทรัพยากรขององค์กร


4. Up the engagement

 


ให้เทคโนโลยีมีส่วนช่วยส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพ จะเป็นตัวช่วยให้การเพิ่มความสำเร็จกับพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะเทคโนโลยีจะทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจน ให้ทุกคนเห็นได้ว่ามีการสนับสนุน Well Being อยู่ แม้เทคโนโลยีจะไม่ใช่ปัจจัยหลัก แต่มันมีส่วนช่วยในการสร้างความเป็นเจ้าของ และปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานในหัวข้อด้านสุขภาพ


กลยุทธ์ 3 ขั้นตอนในการสร้างวัฒนธรรมที่ช่วยส่งเสริม Well Being ในองค์กร


การจะสร้าง Well Being ขึ้นมาในองค์กรได้นั้น จำเป็นจะต้อง “เริ่มจากคน” เป็นหลัก โดยใช้กลยุทธ์ 3 ขั้นตอนนี้ ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริม Well Being จากภายในขึ้นมา ได้แก่


1. อบรมผู้บริหารและผู้จัดการ


โดยอบรมตั้งแต่ระดับสูงไปจนระดับล่าง ในเรื่องของการพัฒนา EQ หรือ ความฉลาดทางอารมณ์ ให้พัฒนาลูกน้องในเชิงการสร้างแรงจูงใจ การชื่นชม ไม่ใช่การจ้องจับผิด และมีความไว้วางใจมากพอที่จะให้อิสระในการทำงาน ทำให้พนักงานรู้สึกถึงความสามารถตนเองมากขึ้น และมีความรู้สึกของการควบคุมสิ่งที่ตนเองทำ⁣


2. ความยืดหยุ่นในการทำงาน

 

Happy Employee

 

พนักงานหลายคนเป็นพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูก หรือ มีพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดู หรืออาจมีภาวะบางอย่างที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และไม่อาจทำงานตามเงื่อนไขเวลาได้อย่างสะดวกสบายนัก ซึ่งเทคโนโลยีนั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนสามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น


องค์กรเองก็ควรปรับตัวให้ความยืดหยุ่นเหล่านี้เช่นกัน ซึ่งนี่ก็ไม่ได้หมายความถึงการปล่อยปะละเลยพนักงานคนอื่น แต่ใจความหลักก็คือการให้อิสระเพียงพอ ที่พนักงานไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการอยู่กับหน้าจอคอมตลอดเวลา และในเวลาที่จำกัดเท่านั้น⁣


3. ข้อตกลงร่วมเรื่องการสื่อสาร


นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะกับการตอบอีเมลล์ หรือ สื่อสารนอกเวลางาน การที่เราไม่ได้กำหนดเวลาในการตอบอีเมลล์นั้น อาจทำให้เกิดภาวะหมดไฟกับพนักงานภายในองค์กรได้ โดยให้ความรู้สึกถึงความจำเป็นต้องอยู่หน้างาน หรือ ไม่สามารถแบ่งเวลาส่วนตัวออกมาจากเวลางานได้นั่นเอง


การที่หัวหน้า หรือ ผู้บริหารออกแบบนโยบายการทำงานที่มีเวลาที่ควรตอบอีเมลล์ กับเวลาที่ไม่จำเป็นต้องตอบนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และองค์กรหลาย ๆ แห่งเองก็มักจะละเลยกระบวนการเหล่านี้ ซึ่งหากองค์กรสร้างข้อตกลงที่ชัดเจนแล้ว พนักงานก็จะสามารถแบ่งเวลาพักผ่อนได้ดียิ่งขึ้น และลดความเครียดจากการทำงานลงได้ด้วย⁣


สรุป


ด้วยภาวะ COVID-19 ที่มีในปัจจุบัน ทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า การนำ Well Being หรือสุขภาวะนั้นเข้ามาใช้ภายในองค์กรนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะสำหรับพนักงานอันเป็นทรัพยากรที่สำคัญขององค์กร สุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจนั้นมีผลเป็นอย่างมากกับประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา จึงเป็นอีกหนึ่งการปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรที่เรียกได้ว่าคุ้มค่า และเป็นประโยชน์ในระยะยาวให้แก่ตัวองค์กรเป็นอย่างมาก

 

เช่นเดียวกันกับแอปพลิเคชัน SAKID ที่เป็นนวัตกรรมดูแลสุขภาพพนักงานแบบองค์รวมครอบคลุม 4 มิติ ที่ช่วยทำให้ทุกภาคส่วนขององค์กรใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นด้วยระบบสะกิดแก๊ง พร้อมการวิเคราะห์ผลสุขภาพรายบุคคล บนพื้นฐานข้อมูลงานวิชาการทั้งระดับชาติและนานาชาติ รวมถึงยังสามารถเรียกดูได้ทุกเมื่อจากการจัดเก็บที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์

บทความที่น่าสนใจ

MEA-Fatty-2025-SAKID

SAKID with MEA Fatty Model

สำหรับกิจกรรม MEA Fatty Model ปี 2025 ที่แข่งขันลดน้ำหนักกับ SAKID application ระยะเวลา พฤษภาคม-กรกฎาคม โดยคัดเลือกจากผู้ที่มีความเสี่ยงสูงคือดัชนีมวลกาย ≥25 kg/m2 และมีผลตรวจไขมันในเลือดสูง มีการออกแบบภารกิจสุขภาพทั้งลดไขมัน เพิ่มผักใย และออกกำลังกายให้เหมาะสม พร้อมด้วยโค้ชนักกำหนดอาหารวิชาชีพดูแลเป็นรายบุคคล และมีการประเมินอาหารโภชนาการรายบุคคลเพื่อปรับเปลี่ยนตามไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการกิน

อ่านต่อ »
แพลตฟอร์มสื่อสาร-SAKID

แพลตฟอร์ม สื่อสารพูดคุยในบริษัทที่น่าสนใจ

 การแยกเรื่องงานออกกจากความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะจำให้เรารู้จัก Work Life Balance เวลาได้เป็นอย่างดี ในการใช้แพลตฟอร์มที่มีความเป็นส่วนตัวมาทำงาน สั่งงาน ตามงาน อาจจะไม่เหมาะสักเท่าไรในบริษัท ส่วนลูกค้าถ้าจะทำให้ติดต่อง่ายอาจจะใช้เป็นช่องทางLine officialของบริษัทในการพูดคุยกับลูกค้าได้ มีเวลาทำการที่ชัดเจนโดยไม่ใช้ไลน์ส่วนตัวในการพูดคุย

อ่านต่อ »
_เก็บออม-หรือเพิ่มรายได้-จุดไหนเราควรจะโฟกัส-SAKID

เก็บออมหรือเพิ่มรายได้ จุดไหนเราควรจะโฟกัส

 ในสถานการณ์ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2565 ที่มีจำนวนผู้สูงอายุราวร้อยละ 20-30 และไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอดเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 28 ในปี 2574 จึงเป็นส่วนหนึ่งให้คนวัยทำงานเริ่มวางแผนทางการเงิน เพื่อให้พร้อมรับกับวัยเกษียณที่จะมาถึง ซึ่งมีทั้งเก็บออมเงินจากการทำงานในปัจจุบัน หรือเลือกที่จะหาช่องทางเพิ่มรายได้ แล้วแบบไหนที่ควรจะเลือกดี

อ่านต่อ »
Cover-burnout-SAKID

Workshop How to understand burnout

กิจกรรม Workshop “การจัดการความเครียด”

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 Sakid ได้จัดกิจกรรม Workshop “การจัดการความเครียด”  ให้กับบริษัทเอสพี อินเตอร์แมคและการไฟฟ้านครหลวง  โดยวิทยากรนักจิตวิทยาองค์กร ครูรักอมยิ้ม คุณอานนท์ ตั้งกิตติทรัพย์ ภายในงานผู้เข้าร่วมได้รับเทคนิคการจัดการความเครียด และการบริหารการทำงานให้มี Work-life balance

อ่านต่อ »

HRIS คืออะไร ทำไมถึงจำเป็นกับการบริหารทรัพยากรบุคคล

HRIS คืออุปกรณ์สำคัญในการช่วยทำให้ HR สามารถทำงานได้อย่างสะดวกขึ้น เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้สามารถตรวจเช็คข้อมูลพนักงานได้อย่างง่ายดาย แต่มันคืออะไรกันล่ะ

อ่านต่อ »
Cooking-kabab-SAKID

WORKSHOP Cooking class เคบับ

กิจกรรม  Cooking class เคบับ

วันที่ 6 สิงหาคม  2567 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Cooking class เคบับ ที่บริษัท CBRE โดยพนักงานได้เข้าร่วมจำนวน 40 คน ซึ่งนักกำหนดอาหารวิชาชีพ ได้เป็นผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบและมีทริคการดูแลสุขภาพด้านอาหารสำหรับชาวออฟฟิศให้เล่นเกมสุขภาพพร้อมรับของรางวัลกันอีกด้วย คลาสสอนทำเคบับ จะสอนให้ทุกคนทำซัลซาซอสจากมะเขือเทศสด แทนการใช้ซอสมะเขือเทศ การปรุงวัตถุดิบไก่และผักและการห่อม้วนแรป ทำกินเองอร่อยได้ง่ายๆ ที่บ้าน

อ่านต่อ »