
Well Being คืออะไร สร้างสุขให้พนักงานด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี
- 23/09/22
ตั้งแต่สถานการณ์ COVID-19 เริ่มต้นขึ้น ปัญหาการทำงานของพนักงานในปัจจุบันก็เริ่มเด่นชัดขึ้นให้เห็นภายในองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องปรับตัวกับภาวะวิกฤตดังกล่าว ทั้งชีวิตส่วนตัวของพวกเขา และการงานที่ทำอยู่ Well Being จึงถูกยกขึ้นมาให้กลายเป็นประเด็นสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ที่องค์กรจะต้องหาทางออกให้กับพนักงานของตน จากสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบัน
Well Being คืออะไร ? หนทางสร้างความสุข ที่ไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพร่างกายอีกต่อไป

Well Being คือ “สุขภาวะ” ซึ่งหากแปลในด้านความหมายการใช้งาน จะแปลได้ว่าการมีสุขภาวะที่ดีในทุก ๆ ด้านของมนุษย์ ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงสุขภาวะด้านต่าง ๆ ของพนักงานภายในองค์กรที่ต้องทำงานร่วมกัน เพราะความเครียดจากการทำงานนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นได้แค่จากการที่ต้องทำงานร่วมกันกับผู้อื่น แต่ยังเป็นทั้งสภาพแวดล้อมที่ทำงาน, สุขภาพร่างกายของเขา, หน้าที่การงานของตัวเอง และการใช้จ่ายเงินของตน
ซึ่ง Well Being นี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ “ควรมี” ในองค์กรต่าง ๆ เพราะในงานวิจัยที่ต่างประเทศได้ระบุเอาไว้ว่า เหตุผลจากการลาและขาดงานที่เกิดจากความเครียดในการทำงานนั้น มีสูงถึง 57% ในประเทศอังกฤษ และสูงถึง 83% ในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงเป็นสิ่งที่ฝ่ายบริหารขององค์กรต่าง ๆ จำเป็นจะต้องหันมาสนใจ
ปัจจัยของ Well Being หนทางสร้างความสุข ที่ไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพร่างกายอีกต่อไป
สุขภาวะทางกาย (Physical Well Being)
Physical Well Being คือ สิ่งที่ไม่ได้หมายถึงเพียงสุขภาพร่างกายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง “พลังชีวิต” ที่มากพอที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เหลือในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
สุขภาวะทางหน้าที่การงาน (Career Well Being)
Career Well Being คือ การรับรู้ถึงคุณค่าในงานที่ตนเองนั้นทำอยู่ ชัดเจนว่าสิ่งทำนั้นทำอะไร และทำไปเพื่ออะไร รวมไปถึงการมีใจรักในการทำงานที่ตนกำลังทำอยู่ด้วย
สุขภาวะทางการเงิน (Financial Well Being)
Financial Well Being คือ สุขภาวะทางการเงินที่ไม่ได้หมายถึงการมีรายได้ที่มาก แต่เป็นความมั่นคงต่อรายได้ในระยะยาว และการมีเงินเพียงพอกับรายจ่ายโดยไม่สร้างความเครียดให้กับตนนั่นเอง
สุขภาวะทางสังคม (Social Well Being)

Social Well Being คือ การที่ได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานที่ไว้วางใจกันได้ และมีทัศนคติที่ดี ที่ไม่ทำให้ต้องมานั่งระแวง หรือประสาทเสียใส่กัน
สุขภาวะทางสภาพแวดล้อม (Community Well Being)
Community Well Being คือ พื้นที่ทำงานที่ปลอดโปร่ง, ไม่แออัด, ถ่ายเทอากาศได้สะดวก รวมไปถึงส่งเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จัดว่าเป็นสุขภาวะทางสภาพแวดล้อมทั้งสิ้น
4 หลักการบริหารและสรรค์สร้าง Well Being ภายในองค์กร

หลักการสำคัญในการพัฒนา Well Being ในองค์กรนั้น หลัก ๆ มี 4 หลักการด้วยกัน ที่สามารถนำไปปรับไปใช้กับองค์กรต่าง ๆ โดยทั้ง 4 หลักการนี้มีจุดประสงค์ร่วมกันคือ เพื่อให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรอันมีค่า ที่เรียกว่าสุขภาพของพนักงานได้อย่างดีขึ้น โดยมีดังนี้
1. Encourage individuality
ช่วยพนักงานออกแบบโปรแกรมสุขภาวะของตัวเอง ให้เขาได้เลือกทัศนคติ หรือพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม และมีความหมายกับตัวเขาในการนำไปปรับใช้ ซึ่งความยืดหยุ่นถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมจากพนักงานให้เกิดขึ้นจริงเป็นอย่างมาก
2. Inclusive teams are essential to success
มอบอำนาจให้กับพนักงานด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมของการมีส่วนร่วม, การเป็นส่วนหนึ่ง รวมไปถึงการสร้างทีมที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และทำพฤติกรรมสุขภาพร่วมกัน ซึ่งจะช่วยทำให้พฤติกรรมเหล่านั้นกลายเป็นนิสัยได้ง่ายขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกันเองภายในทีมอีกด้วย
3. Show that wellbeing matters
ให้ Well Being เป็นมากกว่าคำพูด โดยการให้ความสำคัญกับมันในฐานะผลประโยชน์ทางธุรกิจ การที่จะสร้างสุขภาวะให้ประสบความสำเร็จได้ องค์กรต้องเห็นตรงกันตั้งแต่บนสุดลงมา ถึงประโยชน์ของสุขภาวะพนักงานในฐานะทรัพยากรขององค์กร
4. Up the engagement
ให้เทคโนโลยีมีส่วนช่วยส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพ จะเป็นตัวช่วยให้การเพิ่มความสำเร็จกับพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะเทคโนโลยีจะทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจน ให้ทุกคนเห็นได้ว่ามีการสนับสนุน Well Being อยู่ แม้เทคโนโลยีจะไม่ใช่ปัจจัยหลัก แต่มันมีส่วนช่วยในการสร้างความเป็นเจ้าของ และปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานในหัวข้อด้านสุขภาพ
กลยุทธ์ 3 ขั้นตอนในการสร้างวัฒนธรรมที่ช่วยส่งเสริม Well Being ในองค์กร
การจะสร้าง Well Being ขึ้นมาในองค์กรได้นั้น จำเป็นจะต้อง “เริ่มจากคน” เป็นหลัก โดยใช้กลยุทธ์ 3 ขั้นตอนนี้ ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริม Well Being จากภายในขึ้นมา ได้แก่
1. อบรมผู้บริหารและผู้จัดการ
โดยอบรมตั้งแต่ระดับสูงไปจนระดับล่าง ในเรื่องของการพัฒนา EQ หรือ ความฉลาดทางอารมณ์ ให้พัฒนาลูกน้องในเชิงการสร้างแรงจูงใจ การชื่นชม ไม่ใช่การจ้องจับผิด และมีความไว้วางใจมากพอที่จะให้อิสระในการทำงาน ทำให้พนักงานรู้สึกถึงความสามารถตนเองมากขึ้น และมีความรู้สึกของการควบคุมสิ่งที่ตนเองทำ
2. ความยืดหยุ่นในการทำงาน

พนักงานหลายคนเป็นพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูก หรือ มีพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดู หรืออาจมีภาวะบางอย่างที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และไม่อาจทำงานตามเงื่อนไขเวลาได้อย่างสะดวกสบายนัก ซึ่งเทคโนโลยีนั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนสามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น
องค์กรเองก็ควรปรับตัวให้ความยืดหยุ่นเหล่านี้เช่นกัน ซึ่งนี่ก็ไม่ได้หมายความถึงการปล่อยปะละเลยพนักงานคนอื่น แต่ใจความหลักก็คือการให้อิสระเพียงพอ ที่พนักงานไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการอยู่กับหน้าจอคอมตลอดเวลา และในเวลาที่จำกัดเท่านั้น
3. ข้อตกลงร่วมเรื่องการสื่อสาร
นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะกับการตอบอีเมลล์ หรือ สื่อสารนอกเวลางาน การที่เราไม่ได้กำหนดเวลาในการตอบอีเมลล์นั้น อาจทำให้เกิดภาวะหมดไฟกับพนักงานภายในองค์กรได้ โดยให้ความรู้สึกถึงความจำเป็นต้องอยู่หน้างาน หรือ ไม่สามารถแบ่งเวลาส่วนตัวออกมาจากเวลางานได้นั่นเอง
การที่หัวหน้า หรือ ผู้บริหารออกแบบนโยบายการทำงานที่มีเวลาที่ควรตอบอีเมลล์ กับเวลาที่ไม่จำเป็นต้องตอบนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และองค์กรหลาย ๆ แห่งเองก็มักจะละเลยกระบวนการเหล่านี้ ซึ่งหากองค์กรสร้างข้อตกลงที่ชัดเจนแล้ว พนักงานก็จะสามารถแบ่งเวลาพักผ่อนได้ดียิ่งขึ้น และลดความเครียดจากการทำงานลงได้ด้วย
สรุป
ด้วยภาวะ COVID-19 ที่มีในปัจจุบัน ทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า การนำ Well Being หรือสุขภาวะนั้นเข้ามาใช้ภายในองค์กรนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะสำหรับพนักงานอันเป็นทรัพยากรที่สำคัญขององค์กร สุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจนั้นมีผลเป็นอย่างมากกับประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา จึงเป็นอีกหนึ่งการปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรที่เรียกได้ว่าคุ้มค่า และเป็นประโยชน์ในระยะยาวให้แก่ตัวองค์กรเป็นอย่างมาก
เช่นเดียวกันกับแอปพลิเคชัน SAKID ที่เป็นนวัตกรรมดูแลสุขภาพพนักงานแบบองค์รวมครอบคลุม 4 มิติ ที่ช่วยทำให้ทุกภาคส่วนขององค์กรใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นด้วยระบบสะกิดแก๊ง พร้อมการวิเคราะห์ผลสุขภาพรายบุคคล บนพื้นฐานข้อมูลงานวิชาการทั้งระดับชาติและนานาชาติ รวมถึงยังสามารถเรียกดูได้ทุกเมื่อจากการจัดเก็บที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์
บทความที่น่าสนใจ

SAKID with MEA Fatty Model
สำหรับกิจกรรม MEA Fatty Model ปี 2025 ที่แข่งขันลดน้ำหนักกับ SAKID application ระยะเวลา พฤษภาคม-กรกฎาคม โดยคัดเลือกจากผู้ที่มีความเสี่ยงสูงคือดัชนีมวลกาย ≥25 kg/m2 และมีผลตรวจไขมันในเลือดสูง มีการออกแบบภารกิจสุขภาพทั้งลดไขมัน เพิ่มผักใย และออกกำลังกายให้เหมาะสม พร้อมด้วยโค้ชนักกำหนดอาหารวิชาชีพดูแลเป็นรายบุคคล และมีการประเมินอาหารโภชนาการรายบุคคลเพื่อปรับเปลี่ยนตามไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการกิน

แพลตฟอร์ม สื่อสารพูดคุยในบริษัทที่น่าสนใจ
การแยกเรื่องงานออกกจากความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะจำให้เรารู้จัก Work Life Balance เวลาได้เป็นอย่างดี ในการใช้แพลตฟอร์มที่มีความเป็นส่วนตัวมาทำงาน สั่งงาน ตามงาน อาจจะไม่เหมาะสักเท่าไรในบริษัท ส่วนลูกค้าถ้าจะทำให้ติดต่อง่ายอาจจะใช้เป็นช่องทางLine officialของบริษัทในการพูดคุยกับลูกค้าได้ มีเวลาทำการที่ชัดเจนโดยไม่ใช้ไลน์ส่วนตัวในการพูดคุย

เก็บออมหรือเพิ่มรายได้ จุดไหนเราควรจะโฟกัส
ในสถานการณ์ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2565 ที่มีจำนวนผู้สูงอายุราวร้อยละ 20-30 และไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอดเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 28 ในปี 2574 จึงเป็นส่วนหนึ่งให้คนวัยทำงานเริ่มวางแผนทางการเงิน เพื่อให้พร้อมรับกับวัยเกษียณที่จะมาถึง ซึ่งมีทั้งเก็บออมเงินจากการทำงานในปัจจุบัน หรือเลือกที่จะหาช่องทางเพิ่มรายได้ แล้วแบบไหนที่ควรจะเลือกดี

Workshop How to understand burnout
กิจกรรม Workshop “การจัดการความเครียด”
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 Sakid ได้จัดกิจกรรม Workshop “การจัดการความเครียด” ให้กับบริษัทเอสพี อินเตอร์แมคและการไฟฟ้านครหลวง โดยวิทยากรนักจิตวิทยาองค์กร ครูรักอมยิ้ม คุณอานนท์ ตั้งกิตติทรัพย์ ภายในงานผู้เข้าร่วมได้รับเทคนิคการจัดการความเครียด และการบริหารการทำงานให้มี Work-life balance

HRIS คืออะไร ทำไมถึงจำเป็นกับการบริหารทรัพยากรบุคคล
HRIS คืออุปกรณ์สำคัญในการช่วยทำให้ HR สามารถทำงานได้อย่างสะดวกขึ้น เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้สามารถตรวจเช็คข้อมูลพนักงานได้อย่างง่ายดาย แต่มันคืออะไรกันล่ะ

WORKSHOP Cooking class เคบับ
กิจกรรม Cooking class เคบับ
วันที่ 6 สิงหาคม 2567 SAKID ได้จัดกิจกรรม Cooking class เคบับ ที่บริษัท CBRE โดยพนักงานได้เข้าร่วมจำนวน 40 คน ซึ่งนักกำหนดอาหารวิชาชีพ ได้เป็นผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบและมีทริคการดูแลสุขภาพด้านอาหารสำหรับชาวออฟฟิศให้เล่นเกมสุขภาพพร้อมรับของรางวัลกันอีกด้วย คลาสสอนทำเคบับ จะสอนให้ทุกคนทำซัลซาซอสจากมะเขือเทศสด แทนการใช้ซอสมะเขือเทศ การปรุงวัตถุดิบไก่และผักและการห่อม้วนแรป ทำกินเองอร่อยได้ง่ายๆ ที่บ้าน