
สร้างสถานที่ทำงานให้ดีต่อใจด้วย Workplace Wellness Program
- 19/09/22
สุขภาพของพนักงาน คืออีกหนึ่งส่วนที่ส่งผลต่อกำลังการผลิตขององค์กรอย่างมหาศาล ทั้งในด้านของสุขภาพร่างกายอันเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด และสุขภาพของจิตใจที่เป็นส่วนภายใน การดูแลสิ่งเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริหารและ HR ไม่ควรมองข้าม ฉะนั้น จึงควรรู้จัก Workplace Wellness Program ที่เป็นที่หนึ่งตัวแปรสำคัญในการดูแลสุขภาพของพนักงานภายในองค์กรว่าคืออะไรกันแน่
Workplace Wellness Program โปรแกรมสุขภาพที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของพนักงาน
Workplace Wellness Program หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า โปรแกรมสุขภาพในที่ทำงาน เป็นโปรแกรมที่มุ่งเน้นในการรักษาสุขภาพด้านต่าง ๆ ของพนักงานภายในองค์กร ซึ่งมีส่วนสำคัญในกลยุทธ์การพัฒนาองค์กรเพื่อหนุนธุรกิจของตนให้ยั่งยืน และขับเคลื่อนให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวนั้น มุ่งเน้นไปที่สุขภาพของพนักงานอย่างรอบด้าน ไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพทางด้านร่างกายเท่านั้น แต่สุขภาพทางจิตใจเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญ รวมไปถึงสุขภาพด้านอื่น ๆ ของพนักงานอย่างครอบคลุม เพราะชีวิตส่วนใหญ่ของพวกเขาในแต่ละสัปดาห์จะอยู่กับงานที่ทำภายในองค์กร จึงไม่แปลกที่จะเกิดปัญหากับสุขภาพในด้านต่าง ๆ นั่นเอง
โครงสร้าง 8 มิติของ Workplace Wellness Program
1.Emotional Wellness (สุขภาพทางด้านอารมณ์)
เป็นการเข้าใจความรู้สึกของตนเอง และจัดการกับความเครียดที่มีของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.Physical Wellness (สุขภาพทางด้านร่างกาย)
เป็นการรักษาสุขภาพร่างกา ยและมองหาการดูแลสุขภาพร่างกายที่จำเป็นต่อตน
3.Spiritual Wellness (สุขภาพทางด้านจิตใจ)
เป็นการพัฒนาที่ช่วยให้ตนเองสามารถมองหาความหมายและจุดมุ่งหมายของชีวิต
4.Intellectual Wellness (สุขภาพทางด้านสติปัญญา)
เป็นการเปิดรับกับความคิดใหม่ ๆ และการขยายองค์ความรู้ของตนอย่างต่อเนื่อง
5.Social Wellness (สุขภาพทางด้านสังคม)
เป็นการมีบทบาททางสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ และกระทำด้วยความรู้สึกสะดวกใจ รวมถึงการสร้างเครือข่ายสนับสนุนตนเอง
6.Environmental Wellness (สุขภาพทางด้านสิ่งแวดล้อม)
เป็นการมีสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่ดี ปลอดโปร่ง และเป็นมิตรต่อตนเองทั้งในแง่ร่างกายและจิตใจ
7.Financial Wellness (สุขภาพทางด้านการเงิน)
เป็นการมีสุขภาพทางการเงินที่ดี ด้วยการวางแผน และบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพ ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสอดคล้องกับที่ตนเองต้องการอย่างพอเหมาะ
8.Occupation Wellness (สุขภาพทางด้านอาชีพ)
เป็นการมีความสุขในอาชีพการทำงาน ด้วยการมีความเข้มแข็งทางจิตใจ สามารถบริหารอารมณ์ ความเครียดตัวเอง และดูแลอารมณ์คนรอบตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของ Workplace Wellness Program ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กรได้
การทำ Workplace Wellness Program ในแง่หนึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากสำหรับหลาย ๆ องค์กร เพราะบางครั้ง อาจจะจำเป็นต้องมีการปรับวัฒนธรรมขององค์กร ให้สอดคล้องกับโปรแกรมสุขภาพในที่ทำงานที่ต้องการจะใช้ แต่มันก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพื่อพัฒนาองค์กรของเราให้ยั่งยืนยิ่ง ๆ ขึ้นไป ซึ่งประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนนั้นเลยก็คือ
1.ช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพของพนักงานภายในองค์กรลงได้
2.ช่วยลดอัตราการขาดงานเนื่องจากการเจ็บป่วยของพนักงาน ทั้งที่เกิดจากในการทำงาน และชีวิตประจำวันของเขา
3.เพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพของพนักงานในการผลิตตัวงานให้กับองค์กร
4.ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการชดเชยพนักงานจากการบาดเจ็บ และพิการที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุในการทำงานที่อาจเกิดขึ้น
5.เพิ่มความผูกพันและภักดี (Employee Loyalty and Engagement) ให้กับองค์กรที่ตนเองทำงานอยู่
6.เพิ่มความสุขในการทำงานของพนักงานในองค์กรให้มากยิ่งขึ้น
อยากทำ Workplace Wellness Program ควรจะวางแผนอย่างไรดี ?
หากองค์กรจะต้องการทำ Workplace Wellness Program แล้ว จำเป็นจะต้องมีการวางแผนให้ดีเสียก่อนที่จะลงมือทำ จึงจะต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อวางแผนการทำงาน ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้
1.ประเมินสุขภาพภายในองค์กร จากข้อมูลผลการตรวจสุขภาพ, การขาดงานหยุดงานเนื่องจากการเจ็บป่วย และสิ่งแวดล้อมภายในที่ทำงานที่อาจมีผลต่อสุขภาพ
2.ออกแบบขอบเขตและเป้าหมายของโปรแกรมสุขภาพในที่ทำงานภายในองค์กร
3.จัดทำงบประมาณ และแผนการดำเนินงานสร้างโปรแกรมสุขภาพในที่ทำงาน
4.จัดกิจกรรมและวางแผนสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานที่สามารถปรับปรุงสุขภาพให้ดีขึ้น
5.ทำการสื่อสาร และติดตามวัดผล สร้างจนเกิดเป็นวัฒนธรรมสุขภาพภายในองค์กร
ตัวอย่างของ Workplace Wellness Program ที่ยอดนิยมทั้งในและต่างประเทศ
1.โรงอาหารเพื่อสุขภาพของพนักงาน
เป็นโปรแกรมสุขภาพในที่ทำงานที่เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่สามารถให้บริการโรงอาหารภายในสถานที่ทำงานได้ การดูแลสุขภาพโดยการจัดโปรแกรมโรงอาหารเพื่อสุขภาพ ที่มีการตรวจสอบ และ ดูแลคุณภาพของอาหารที่ผลิตจากแม่ครัวที่ผ่านการอบรมโดยตรงจากนักกำหนดอาหาร จะทำให้พนักงานได้รับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการและมีคุณค่าทางสารอาหารครบถ้วน
2.ศูนย์ออกกำลังกายสำหรับพนักงาน
เป็นโปรแกรมสุขภาพในที่ทำงานที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดอันหนึ่ง มันคือการสร้างพื้นที่สำหรับการออกกำลังกายให้แก่พนักงาน เพื่อให้พวกเขาได้ดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้แข็งแรง ซึ่งบางครั้ง อาจจะเป็นการทำสัญญาสถานออกกำลังกายบางแห่ง เพื่อให้พนักงานภายในองค์กรได้เข้าไปใช้บริการก็ได้เช่นเดียวกัน แต่หากทำไม่ได้ ก็สามารถที่จะจัดเป็นกิจกรรมเล็ก ๆ ที่สอนเกี่ยวกับวิธีการขยับร่างกาย รวมถึงการเพิ่มกิจกรรมในที่ทำงาน จากนักกายภาพบำบัดและนักวิทยาศาสตร์การกีฬาที่จ้างมาช่วยดูแลพนักงานของตน
3.โครงการเลิกบุหรี่
เป็นโปรแกรมสุขภาพที่มุ่งเน้นในการรักษาและบำบัดสุขภาพร่างกายและการเงินของพนักงาน เนื่องจากบุหรี่นั้นก่อให้เกิดปัญหากับสุขภาพอย่างเรื้อรัง รวมไปถึงในผู้ที่สูบจนติด และกลายเป็นปัญหาทางด้านการเงิน ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลรักษา และบำบัดพนักงานที่มีปัญหาเหล่านั้น ทั้งนี้ การเข้าร่วมโครงการดังกล่าว จำเป็นจะต้องเป็นโดยการสมัครใจของพนักงานคนนั้น ๆ
4.การขนส่งสาธารณะ
เป็นโปรแกรมสุขภาพที่มุ่งเน้นในการช่วยอำนวยความสะดวกในการมาทำงานของพนักงาน เพราะการเดินทางที่ยากลำบากนั้นจะส่งผลกับสุขภาพจิตของพนักงานได้เป็นอย่างมาก การเข้าไปซัพพอร์ตตรงนี้โดยการมีรถรับส่งขององค์กร หรือช่วยในค่าเดินทางที่สามารถทำให้พวกเขาสามารถเดินทางมาทำงานได้เร็ว, สะดวก และง่ายขึ้นจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เหมาะสม
5.อาหารกลางวันและของว่างเพื่อสุขภาพ (Healthy Break)
เป็นโปรแกรมสุขภาพที่มุ่งเน้นในการรักษาสุขภาพร่างกายของพนักงานภายในองค์กรจากอาหารการกิน โดยการจัดการมื้อเที่ยงและของว่างระหว่างการประชุม เพื่อสุขภาพให้กับพนักงานของตนเอง เพราะบางครั้ง พนักงานบางคนที่ต้องการดูแลรักษาสุขภาพเอง ก็ใช่ว่าจะมีเวลามาจัดการเตรียมมื้ออาหารเหล่านั้น โครงการนี้จึงจะเข้ามาดูแลในส่วนนี้ให้กับพวกเขา
6.Employee Assistance Program (EAP)
เป็นโปรแกรมสุขภาพที่มุ่งเน้นในการรักษาสุขภาพจิตใจของพนักงานภายในองค์กรจากปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต ด้วยการใช้นักจิตวิทยาให้คำปรึกษามืออาชีพมาคอยกำกับดูแล ให้แก่พนักงานที่ต้องการแก้ปัญหาของตน โดยไม่เปิดเผยข้อมูลของพวกเขา ซึ่งโครงการดังกล่าวเอง ในปัจจุบันก็เริ่มเป็นที่นิยมในหลาย ๆ องค์กรแล้วเช่นกัน
สรุป
Workplace Wellness Program หรือโปรแกรมสุขภาพในที่ทำงาน เป็นการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ระยะยาวที่จะสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับองค์กร ซึ่งการดูแลทั้งสุขภาพกายและใจของพนักงานให้ดีนั้น ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จ จึงเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่ผู้บริหารจำเป็นจะต้องนำไปขบคิดให้ถี่ถ้วนนั่นเอง
ซึ่งการที่มีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาคอยดูแลแอปพลิเคชัน SAKID ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเราคือนวัตกรรมดูแลสุขภาพพนักงานแบบองค์รวมครอบคลุม 4 มิติ ได้แก่ อาหาร, ออกกำลังกาย, อารมณ์ และสังคม ที่จะช่วยซัพพอร์ตองค์กรด้วยโปรแกรมที่ออกแบบจากความเชี่ยวชาญของนักกำหนดอาหาร นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และ นักจิตวิทยา สามารถดูแลสุขภาพของพนักงานอย่างครบครัน และครอบคลุมในทุก ๆ ส่วน เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืนของพนักงานทุกคนในองค์กร
บทความที่น่าสนใจ

WFH ในหน้าร้อนอย่างไร สบายกายและกระเป๋า
สภาวะฝุ่นPM 2.5 ซึ่งเป็นสถานการณ์วิกฤติมลพิษทางอากาศที่หลายพื้นที่ในประเทศไทยกำลังเผชิญมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) สูงถึง 372 ณ วันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2566 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับอันตรายมีผลกระทบต่อสุขภาพ จังหวัดเชียงใหม่จึงกลายเป็นเมืองที่มีอากาศแย่อันดับหนึ่งของโลก จนผู้ว่าฯต้องออกประกาศขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน Work from Home

การเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้ดีขึ้น ด้วยแนวคิดแบบสตาร์ทอัพ
วัฒนธรรมองค์กรแบบสตาร์ทอัพ ถือเป็นวัฒนธรรมองค์กรแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จึงไม่แปลกที่ใคร ๆ จะรู้สึกสนใจในสิ่งนี้

ทำไมบริษัทควรมีโปรแกรมดูแลสุขภาพพนักงาน
URL Copied! หน้าหลักบทความCorporate Wellness โรคไม่ติดต่อเรื้อรังทําให้ประสิทธิภาพในการทํางานลดลง จากที่ผ่านมาส่วนใหญ่เราได้อยู่ในช่วงเวลาการลดดวามเสี่ยงการติดไวรัสโควิท-19 (COVID-19) ด้วยการ ปฏิบัติงานอยู่ที่บ้าน (Work from home) อาจทำให้หลายคนเริ่มมีความสนใจในการดูแลรักษาสุขภาพตนเองเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากเรื่องการดูแลรักษา สุขภาพให้ปลอดภัยจากการติดไวรัสโควิท-19 (COVID-19) แล้วการรักษาตนเองให้ปลอดภัยจากโรคไติดต่อเรื้อรังชนิดตาง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรดไขมันในเลือดสูง โรดหัวใจ โรดเบาหวาน ก็ยังเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ควรดูแลจากการรับประทานอาหารที่ดี เพิ่มการออกกำลังกาย รวมถึงรักษาสภาพจิตใจไว้ตลอดเวลา

เพิ่มสุขภาพที่ดีในบริษัทด้วย “กิจกรรมลดน้ำหนักพนักงาน”
แนะนำ 5 แนวทางจัดกิจกรรมพนักงานลดน้ำหนัก ในบริษัท ที่เน้นสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้กับพนักงาน ตัวชี้วัดผลที่น่าใช้ เครื่องมือติดตามผล พร้อมตัวอย่างกิจกรรม

บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตสมุทรปราการ
บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตสมุทรปราการ
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 Sakid ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิดให้กับการไฟฟ้านครหลวง เขตสมุทรปราการ ในกิจกรรม Fun for Fit เพื่อแนะนำการเข้าร่วมโครงการ “MEA เบิร์นเกินร้อย” เปิดศึกการแข่งกันระหว่างทีมเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี ด้วยการส่งภารกิจสุขภาพผ่านแอพสะกิด และลุ้นรับของรางวัลในแต่ละเดือน

HR tech Thailand 2022
กิจกรรมออกบูธ HR tech Thailand 2022
วันที่ 19-20 ตุลาคม 2565 SAKID ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์แอพลิเคชั่น “สะกิด” ในงาน HR Tech เพื่อแนะนำให้รู้จักกับแอพว่าใช้ออกแบบกิจกรรมสุขภาพอย่างไร และเปิดให้ทดลองใช้ ฟรี 7 วัน เพื่อให้คนในองค์กรสามารถเล่นภารกิจสุขภาพดีได้ โดยมีโค้ชนักกำหนดอาหารคอยให้คำปรึกษาในแอพสะกิดตลอด 7วัน