จัด Workshop อย่างไร ให้โดนใจ
- 23/06/23
การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยจุดเริ่มต้นที่สามารถทำได้คือการจัดอบรมเกี่ยวกับสุขภาพในด้านต่างๆการจัดอบรมจะช่วยปูพื้นความรู้การดูแลสุขภาพทั้งด้านกายและจิตให้กับพนักงาน ให้สามารถนำไปใช้ดูแลสุขภาพของตัวเองได้ โดยทีมผู้จัด สามารถเริ่มต้นทำได้ ตามขั้นตอนดังนี้
1.เก็บข้อมูล จากปัญหา หรือความต้องการของพนักงาน
ลองทำการสำรวจหรือจัดกลุ่มเพื่อประเมินความสนใจและความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของพนักงานในที่ทำงาน การรวบรวมความคิดเห็นจะช่วยในการปรับเนื้อหาของการอบรมให้เหมาะสมและเพิ่มความสนใจในการเข้าร่วมได้ รวมไปถึงเก็บข้อมูลจากปัญหาสุขภาพของพนักงาน โดยสามารถดูข้อมูลได้จาก
– ผลตรวจสุขภาพประจำปี ของพนักงาน
– ข้อมูลการเบิกค่าใช้จ่ายจากบริษัทประกัน
– เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ มากำหนดวัตถุประสงค์ ของพนักงานได้ตรงจุดมากขึ้น
2. กำหนดวัตถุประสงค์ของการอบรม
จากข้อมูล ปัญหาหรือความต้องการของพนักงาน จะทำให้เราทราบว่า ควรจะกำหนดวัตถุประสงค์ในการจัดการอบรมในด้านใด และเป็นหัวข้อไหน เช่น โภชนาการ การจัดการความเครียด การออกกำลังกาย หรือสุขภาพจิต การระบุเป้าหมายชัดเจนจะช่วยในการวางแผนและให้การอบรมตอบสนองต่อความต้องการของพนักงานให้เหมาะสม
3.เลือกผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญ
จากการกำหนดวัตถุประสงค์ และความต้องการเสร็จแล้ว จำเป็นต้องมองหา ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อสุขภาพนั้นๆ เช่น
-หัวข้อด้านโภชนาการ ควรเป็นนักกำหนดอาหาร หรือนักโภชนาการ
-หัวข้อด้านออกกำลังกาย ควรเป็น ผู้ผู้สอนการออกกำลังกาย นักวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือ Certified Trainer
-หัวข้อด้านจิตวิทยา ควรเป็น นักจิตวิทยา จิตแพทย์ หรือโค้ชด้านสุขภาพและความเป็นอยู่
โดยควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้จัดกิจกรรมมีประสบการณ์ในการจัดอบรมแบบปฏิสัมพันธ์และสามารถสื่อสารความรู้ได้อย่างเหมาะสมกับผู้ฟังที่มีลักษณะหลากหลายได้
4.กำหนดระยะเวลาและรูปแบบการอบรม
พิจารณาเวลาที่สามารถใช้ได้และความสามารถในการใส่ใจของพนักงานเมื่อกำหนดระยะเวลาของการอบรม ตัวเลือกที่พบบ่อยคือการอบรมครึ่งวันหรือทั้งวัน เลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเป้าหมายของคุณ เช่น การนำเสนอ, กิจกรรมแบบปฏิสัมพันธ์, การสาธิต หรือการอภิปราย การผสมผสานรูปแบบต่าง ๆ สามารถเสริมความสนุกสนานและการจำได้ของความรู้
รวมไปถึงเลือกสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับจำนวนผู้เข้าร่วมอบรมให้อยู่ในสภาพที่สบาย ตรวจสอบว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เครื่องเสียง กระดานขาว และที่นั่งเพียงพอ จัดหาทรัพยากรที่จำเป็น เช่น หนังสือประกอบการเรียนการสอน เอกสารการศึกษา หรือของแถมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความเป็นอยู่ หรือ จัดอบรมออนไลน์ ที่สามารถใช้เวลาสั้นๆ สัก 1 – 2 ชั่วโมง ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ใช้กันประจำ เช่น MS Teams , Zoom หรือ Google meet เป็นต้น
5.ออกแบบAgenda ให้ชัดเจน และ น่าสนใจ
การออกแบบ Agenda ควรควรจัดให้สมดุลระหว่างการส่งเสริมความรู้และกิจกรรมปฏิสัมพันธ์ ผสมผสานการสนทนากลุ่ม, การถาม-ตอบ, หรือลงมือปฏิบัติจริง เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการแบ่งปันความรู้
6.ส่งเสริมการเข้าร่วมอบรม
การประชาสัมพันธ์ให้ทราบล่วงหน้าเพื่อสร้างความตื่นเต้นและเพิ่มการเข้าร่วม ใช้ช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ เช่น อีเมล สื่อสารภายในบริษัท กระดานป้ายประกาศ และการประชุมทีม อาจเพิ่มประโยชน์ของการอบรมและเน้นให้เห็นถึงว่ามีความสอดคล้องกับการมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างสุขภาพของพนักงาน หรือ ของรางวัลต่างๆ ให้พนักงานอยากเข้าร่วมอบรมมากขึ้นได้
7.หากมีอาหารว่าง ควรจัดเป็นอาหารว่างสุขภาพ
เพื่อเสริมสร้างความสำคัญของสุขภาพในขณะที่จัดอบรม สามารถจัดอาหารว่างและอาหารมื้อหลักในระหว่างการอบรมให้เป็นอาหารที่มีโภชนาการที่ถูกต้อง โดยใช้หลักควบคุมพลังงาน เพิ่มโปรตีนใยอาหาร และลดน้ำตาล เช่น ผลไม้ กับน้ำเปล่า , เมนูยำ กับผักที่หลากหลาย เป็นต้น ทั้งนี้ ควรคำนึงถึงความจำเป็นทางสุขภาพ การแพ้อาหาร หรือจัดให้ตรงตามศาสนา เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมทำการเลือกอาหารที่เหมาะสมตลอดงานอบรม
8.การติดตามและประเมินผลอบรม
ระหว่างการจัดกิจกรรม ควรติดตามการจัดกิจกรรม เพื่อจัดการปัญหาทางด้านเทคนิคต่าง ๆ และหลังจัดกิจกรรม ควรสำรวจข้อมูลจากผู้เข้าร่วมในรูปแบบแบบสอบถามหรือการการสัมภาษณ์เพื่อประเมินผลของการอบรม วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการปรับปรุงและประเมินประสิทธิภาพของการอบรมในอนาคต ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อวางแผนและปรับปรุงการอบรมในอนาคตให้สอดคล้องกับความต้องการและความพึงพอใจของพนักงานในสุขภาพต่อไป
ตัวอย่างการจัด workshop สุขภาพให้กับพนักงานในกลุ่มต่างๆ
สายโรงงาน ปฏิบัติการ
สำหรับ สายปฏิบัติการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ผู้ชาย หรือ ผู้หญิง ที่ต้องทำงานหนัก กับเครื่องจักร หรือสายพาน สามารถจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ได้ดังนี้
1.Workshopเรื่อง การป้องกันอุบัติเหตุและการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย
เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับเทคนิคการยกของที่ถูกต้อง, การปฏิบัติงานที่ปลอดภัย, และมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน นอกจากนี้ Workshop ยังสอนพนักงานเกี่ยวกับวิธีการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสถานที่ทำงานและสร้างความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
2.Workshop เรื่อง การออกกำลังกายและความแข็งแรงทางกาย
เน้นเนื้อหาด้านการออกกำลังกายและการฝึกความแข็งแรงสำหรับการทำงานที่ต้องใช้กำลังมาก ให้คำแนะนำทางปฏิบัติเกี่ยวกับการฝึกและการทำกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม เช่น การเดินเร็ว, การเล่นกีฬา, หรือการฝึกความแข็งแรงตามลักษณะงานที่ทำ
3.Workshop เรื่อง การดูแลสุขภาพด้านการกิน หรือการดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ
เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการบำรุงร่างกายในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ เมื่อต้องใช้กำลังแรงมาก หรือ การทำงานเป็นกะ รวมถึงการดูแลร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อ สอนเกี่ยวกับการดูแลเรื่องอาหารที่มีประโยชน์และน้ำหนักที่เหมาะสม เช่น การเลือกอาหารที่เหมาะสม และการดื่มน้ำเพียงพอ
4.Workshop การจัดการกับความเครียดและสุขภาพจิต
เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดการกับความเครียดและสุขภาพจิตที่ดี สอนเทคนิคการลดความเครียดและสร้างความผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังเสนอกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การผ่อนคลายใจ การนั่งสมาธิ การฝึกการหายใจ หรืองานอดิเรกที่ช่วยลดความเครียดและปรับสมดุลทางจิตใจ เช่น การจัดสวนขวด ศิลปะบำบัด เป็นต้น
สายออฟฟิศ
สำหรับ สายออฟฟิศ ที่มีชายและหญิง ที่นั่งทำงานใช้สมอง หน้าคอมพิวเตอร์ สามารถจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ได้ดังนี้
1.Workshop การบริหารจัดการสุขภาพทางกายในสถานที่ทำงาน
เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพทางกายในสถานที่ทำงาน สอนเทคนิคการทำงานที่นั่งในท่าที่ถูกต้อง, การเคลื่อนไหวตัวให้ถูกวิธี, และการจัดการพื้นที่ที่ทำงานให้เป็นมิตรต่อสุขภาพ ป้องกันปัญหาออฟฟิศซินโดรม เช่น การติดตั้งโต๊ะทำงานสำหรับยืน, การสร้างพื้นที่สำหรับการเคลื่อนไหวเบา ๆ ระหว่างการทำงาน เป็นต้น
2.Workshop การบริหารจัดการความเครียดและการสร้างสมดุลในชีวิต
เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับเทคนิคการบริหารจัดการความเครียดและสร้างสมดุลในชีวิตระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว สอนเทคนิคการพักผ่อนและการสร้างสมดุลในชีวิต เช่น การออกกำลังกาย, การปฏิบัติธรรมชาติ เช่น โยคะ, การตั้งเป้าหมายและการวางแผนสำหรับความสำเร็จในทั้งด้านส่วนตัวและการทำงาน
3.Workshop การจัดการสุขภาพทางจิต
เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพทางจิตของพนักงาน ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบริหารจัดการความเครียด, การสร้างสมดุลทางอารมณ์, และการพักผ่อนที่เพียงพอ เน้นไปที่การให้ความสำคัญกับการดูแลทางจิตใจ และการสร้างการมีความสุขและความพึงพอใจในการทำงาน
4.Workshop ที่สนับสนุนด้านการพัฒนาตนเอง
เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการสนับสนุนการพัฒนาทักษะและการเติบโตสายงานในบริษัท ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนอนาคตอาชีพ, การพัฒนาทักษะเชิงบุคลิก, การสร้างความมั่นคงด้านอาชีพ หรือ การเงินให้กับตัวเอง รวมไปถึงการวางแผนเกษียณในอนาคต
สายบริหาร
สำหรับ สายบริหาร ที่ต้องใช้ทักษะหลากหลายด้าน เพื่อจัดการทีมและบริหารทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ซึ่งต้องเผชิญความท้าทายมากมายในแต่ละวัน การดูแลสุขภาพตัวเอง เป็นการสร้างสมดุลอย่างหนึ่งในผู้บริหารมีแรงต่อเพื่อไปจัดการกับปัญหารายวัน ที่ต้องประสบพบเจอ ดังนี้ การจัด Workshop สำหรับสายบริหาร จึงมีหลากหลายรูปแบบที่สามารถจัดได้ เช่น
1.Workshop ด้านการบริหารจัดการความเครียดและความสมดุลในชีวิต
เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับเทคนิคการบริหารจัดการความเครียดและสร้างความสมดุลในชีวิตระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว สอนเทคนิคการจัดการเวลา, การกำหนดขอบเขต, และการกำหนดลำดับความสำคัญในการดูแลสุขภาพและผ่อนคลายในชีวิตประจำวัน
2.Workshop ด้านการฝึกฝนทักษะการเป็นผู้นำที่ดี
เน้นเนื้อหาที่เกี่ยวกับการปรับตัวและการพัฒนาทักษะในการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ ให้การแนะนำเกี่ยวกับการสร้างความรับผิดชอบ, การวางแผนกลยุทธ์, การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับทีมงาน
3.Workshop เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพกาย
เน้นเนื้อหาด้านการสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพทางกายของผู้บริหารระดับสูง โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทางกายด้วยการออกกำลังกาย, การรับประทานอาหารที่เหมาะสม, และการพักผ่อนที่เพียงพอ เน้นไปที่การสร้างนิสัยที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น การมีระเบียบวินัยในการออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ
4.Workshop ที่เสริมสร้างการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
เน้นเนื้อหาด้านสร้างทักษะในการสร้างความร่วมมือ, การให้คำปรึกษา, การพัฒนาทีม, การสื่อสาร รวมไปถึงทักษะการฟังอย่างเข้าใจ (Deep listening)
5.Workshop ที่ช่วยส่งเสริมพนักงานใต้บังคับบัญชา
ผู้บริหารสามารถเป็นหนึ่งในการสร้างกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพให้กับพนักงาน โดยสามารถสนับสนุนให้มีกิจกรรมที่ช่วยติดตามและกระตุ้นให้เกิดการดูแลสุขภาพที่ดีของพนักงานในระยะยาว เช่น โปรแกรมวิ่ง, การจัดกิจกรรมการพักผ่อนหรือการสนับสนุนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ อย่าง SAKID application
Workshop เหล่านี้สามารถช่วยให้ผู้บริหารระดับหัวหน้าฝ่ายหรือผู้บริหารระดับ C-level ในบริษัท สามารถเข้าถึงและเข้าใจการดูแลสุขภาพ มีความพร้อมที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่คนในองค์กรในเรื่องของการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีทั้งทางกายและทางจิตใจ และสามารถสนับสนุนให้พนักงานมีการพัฒนาตนเอง รวมไปถึงเติบโตในทุกด้านของชีวิต สร้างประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นในองค์กร
ดังนั้น การจัดอบรมสุขภาพพนักงาน จึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพได้ง่าย ใช้เวลาไม่นานมากนัก หากวางแผนได้ดีและมีกำหนดวัตถุประสงค์ชัดเจน และเป็นไปตามความต้องการของพนักงานส่วนใหญ่ แน่นอนว่าจะช่วยทำให้การจัดกิจกรรมเป็นประโยชน์ และได้ผลลัพธ์ตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่ถ้าหากคิดไม่ออกว่าจะจัดกิจกรรมอย่างไร หรือหัวข้ออะไรบ้าง สามารถปรึกษาทีมงาน SAKID application เพื่อช่วยวางแผนและดำเนินงานให้องค์กรของคุณได้ โดยที่ตอบโจทย์ทั้งพนักงาน ลดเวลาการทำงานของ HR และตรงใจผู้บริหารได้แน่นอน
บทความที่น่าสนใจ
สวัสดิการพนักงาน โจทย์ใหญ่สำหรับผู้บริหารองค์กรยุคปัจจุบัน
สวัสดิการพนักงาน ถือเป็นโจทย์สำคัญของผู้บริหารแต่ละองค์กรที่ช่วยดึงดูดพนักงานใหม่เข้ามา และทำให้พนักงานเก่าไม่ให้ลาออกไป จึงเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องขบคิดให้ดีนั่นเอง
Work from Home เทรนด์การทำงานยุคใหม่ที่ทุกบริษัทต้องรู้
บริษัทจะจัดนโยบาย Work From Home อย่างไร? แนะนำวิธีปรับใช้ WFH ในองค์กร ข้อดี-ข้อเสียของการ WFH สวัสดิการที่บริษัทควรมี เมื่อพนักงานไม่ได้มาทำงานที่ออฟฟิศ
บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตมีนบุรี
บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตมีนบุรี
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 Sakid ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิดให้กับการไฟฟ้านครหลวง เขตมีนบุรี ในกิจกรรม Fun for Fit เพื่อแนะนำการเข้าร่วมโครงการ “MEA เบิร์นเกินร้อย” เปิดศึกการแข่งกันระหว่างทีมเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี ด้วยการส่งภารกิจสุขภาพผ่านแอพสะกิด และลุ้นรับของรางวัลในแต่ละเดือน
HRIS คืออะไร ทำไมถึงจำเป็นกับการบริหารทรัพยากรบุคคล
HRIS คืออุปกรณ์สำคัญในการช่วยทำให้ HR สามารถทำงานได้อย่างสะดวกขึ้น เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้สามารถตรวจเช็คข้อมูลพนักงานได้อย่างง่ายดาย แต่มันคืออะไรกันล่ะ
ทำอย่างไร เมื่อคนในองค์กรน้ำหนักเกิน
ปัจจุบันในประเทศไทยพบว่าแนวโน้มภาวะ น้ำหนักเกิน และ ภาวะอ้วนเพิ่งสูงขึ้น ซึ่งสาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป ร่วมกับ activity ที่ลดลง เป็นตัวส่งเสริมให้เรามีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพนักงงาน office อย่างเราๆ ที่ Activity นั้นแสนจะน้อยนิด ส่วนใหญ่ก็นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ จนหลายคนเกิดปัญหาเรื่อง Office syndrome ตามมา
WORKSHOP เริ่มต้นสุขภาพดี กับ SAKID
กิจกรรม Workshop “คลาสโยคะ”
ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 – 21 กันยายน 2566 SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop “คลาสโยคะ ” กันทุกสัปดาห์เป็นสวัสดิการที่เสริมสร้างร่างกายให้แข้งแรง โดยนักวิทยาศาสตร์การกีฬามาเป็นครูสอนโยคะที่จะพาพนักงานบริษัท ROCHE มายืดเหยียดร่างกายให้ผ่อนคลายเมื่อยจากการนั่งทำงานและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้มีความยืดหยุ่นอีกด้วย
WORKSHOP Cooking class เคบับ
กิจกรรม Cooking class เคบับ วันที่ 6 สิงหาคม 2567 SAKID ได้จัดกิจกรรม...
บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตยานนาวา
กิจกรรม “Healthy Workshop” เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 Sakid ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิดให้กับการไฟฟ้านครหลวง เขตยานนาวา...
workshop การยศาสตร์ในการทำงาน (Ergonomics Training)
กิจกรรม Workshop “Meditationand Deep relaxation ” เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 SAKID ได้จัดกิจกรรม...
WORKSHOP ONLINE Supermarket tour กับ นักกำหนดอาหาร
กิจกรรม “Supermarket Tour” เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop...
WORKSHOP สวนขวดจิ๋ว
กิจกรรม “จัดสวนขวด Terrarium” เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop...
บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตคลองเตย
กิจกรรม “Healthy Workshop” เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 Sakid ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิดให้กับการไฟฟ้านครหลวง เขตคลองเตย...