Cover-Sakid--9_โลกยุค-VUCA-เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว-รับมือทางการเงินอย่างไรดี
URL Copied!

เก็บออมหรือเพิ่มรายได้ จุดไหนเราควรจะโฟกัส

             ในสถานการณ์ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2565 ที่มีจำนวนผู้สูงอายุราวร้อยละ 20-30 และไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอดเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 28 ในปี 2574 จึงเป็นส่วนหนึ่งให้คนวัยทำงานเริ่มวางแผนทางการเงิน เพื่อให้พร้อมรับกับวัยเกษียณที่จะมาถึง ซึ่งมีทั้งเก็บออมเงินจากการทำงานในปัจจุบัน หรือเลือกที่จะหาช่องทางเพิ่มรายได้ แล้วแบบไหนที่ควรจะเลือกดี

โดยแนะนำว่าควรเริ่มจากสมการนี้ก่อนเสมอ

” รายได้ – เงินออม = รายจ่าย “

เพราะสมการการออมนี้ มันมีนัยยะแฝงอยู่หลายแง่มุมด้วยกัน คือ

1.ถ้าพูดถึงเรื่องความ ‘รวย’ หรือ ‘ความมั่งคั่ง’

ลองสังเกตดูว่าเวลาที่เราเห็นการเปรียบเทียบทำเนียบเศรษฐีตามสื่อต่าง ๆ นั้น คำว่า ‘รวย’ หรือ ‘เศรษฐี’ นั้นก็ไม่ได้วัดกันว่าใครมีรายได้เยอะกว่ากันเลย แต่วัดกันที่สินทรัพย์สุทธิ (Net Worth หรือสินทรัพย์ลบด้วยหนี้สิน) ต่างหาก ดังนั้น ส่วนที่สร้างความมั่งคั่งหรือสร้างสินทรัพย์ที่เป็นของเราเองนั้นคือเงินออม จะเปรียบเงินออมเป็นประตูสู่ความมั่งคั่งก็ว่าได้

 

2.จากสมการง่าย ๆ ข้างบนแล้ว การที่จะเพิ่มเงินออมนั้นมีสองวิธี คือ

(1) เพิ่มรายได้ หรือ (2) ลดรายจ่าย หรือทำมันทั้งคู่ ซึ่งก็ไม่ได้มีกฎหรือบทบัญญัติใด ๆ ระบุว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง หรือทำพร้อมกันหรือไม่ แต่สิ่งที่สำคัญคือ เมื่อเราให้ความสำคัญในการสร้างความมั่งคั่ง เงินออมจึงสำคัญกว่ารายจ่าย ดังนั้นเงินออมจึงเป็นจุดมุ่งหมายแรกของรายได้ ก่อนจะตกไปถึงรายจ่าย

 

3.วิธีการลดรายจ่าย ส่วนตัวถือเป็นการเพิ่มเงินออมในระยะสั้นเท่านั้น

(จะว่าเป็นการแก้ปัญหาในระยะสั้นก็ได้) เนื่องจากเราสามารถเลือกตัดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย สิ้นเปลือง เกินตัว หรือไม่จำเป็นต่อการดำรงชีพออกไปได้ทันที ลดรายจ่ายวันนี้ เงินออมก็เพิ่มวันนี้เลย แต่มันก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะว่าบางครั้งบางกรณีมันก็อาจจะกระทบกับคุณภาพชีวิตด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วก็มักจะไม่แนะนำให้ใครลดระดับคุณภาพชีวิตเลยหากไม่จำเป็น

 

4.วิธีการเพิ่มรายได้ ให้มีรายได้หลายช่องทาง

จึงถือเป็นการเพิ่มเงินออมในระยะยาว (หรือการแก้ปัญหาในระยะยาว) เพราะเราต้องใช้เวลากับมันในการสร้างรายได้ขึ้นมา ไม่สามารถหามาได้ในเร็ววัน เริ่มหารายได้วันนี้อาจจะไม่ได้มีรายได้จริงเข้ามาวันนี้ก็ได้ เช่น การทำงานเสริม การทำธุรกิจ การลงทุน ฯ กว่าจะผลิตสินค้า กว่าจะเตรียมการบริการ กว่าจะหาลูกค้า มันก็ใช้เวลาทั้งนั้น แต่พอหาได้แล้ว มันก็มีโอกาสที่จะอยู่กับเราไปได้อีกนานแสนนาน และอาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ได้อีกด้วย ทั้งนี้ มันก็มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกันเพราะเราเองก็ไม่สามารถการันตีว่าจะได้มันมาจริง 100% ชัวร์ ๆ หรือไม่

 

5.ประกอบกันทั้ง 2 แง่มุมแล้ว ทั้งสองวิธีนั้นสำคัญทั้งคู่ครับ

แต่มันขึ้นอยู่กับภาวะการเงินและความพร้อมของแต่ละบุคคลว่าสามารถทำอะไรได้ตอนไหน เรื่องนี้มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์เลยครับ ไม่มีสูตรตายตัวใด ๆ มาใช้ได้เลย อย่างเก่งก็แค่ rule-of-thumb หรือกฎง่าย ๆ ที่ให้เราออมอย่างน้อย 10% ของรายได้ (ย้ำนะว่าอย่างน้อย) เท่านั้น การจะบอกว่าใครต้องหารายได้เท่าไหร่ ลดรายได้เท่าไหร่ ต้องทำอย่างละเอียดจริง ๆ ถึงจะรู้ได้

 

6.พอเพิ่มเงินออมแล้ว จะเอาเงินออมนี้ไปทำอะไรต่อ

ดองไว้เฉย ๆ ในบัญชีออมทรัพย์ ซื้อสลากออมสิน จัดพอร์ตลงทุนกองทุนรวม ทำธุรกิจเอง ซื้อหุ้น เหมาที่ดิน ตุนทอง แลกเป็น Bitcoin ฯลฯ อะไรก็ว่ากันไป แล้วแต่ความเสี่ยงที่รับได้และอัตราผลตอบแทนที่ต้องการตามแผนที่วางไว้

 

ลองเก็บไปนอนคิดดูเล่น ๆ กัน ว่าเรานั้นต้องเน้นจุดไหน โฟกัสเรื่องไหน เพื่อให้เรามีเงินเก็บพร้อมใช้ในวัยเกษียณ หรือหากไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี ไลฟ์สไตล์แบบนี้ ควรโฟกัสแบบไหน ก็สามารถให้ทาง Sakid ช่วยแนะนำได้ ด้วย Workshop ทางการวางแผนการเงิน

ขอขอบคุณข้อมูลที่ปรึกษาการจัดการเงินจาก Siam Wealth Management

Cover Sport day-SAKID

Sport Day กีฬาสี

กิจกรรม  Workshop “Meditationand Deep relaxation ” เมื่อวันที่ 29  กันยายน 2566 SAKID  ได้จัดกิจกรรม...

Cover-การใช้อาหารรักษาภาวะคลอเลสเตอรอล-Sakid

WORKSHOP การใช้อาหารรักษาภาวะคลอเลสเตอรอล (ลดไขมันด้วยอาหาร)

กิจกรรม  “การใช้อาหารรักษาภาวะคลอเลสเตอรอล” เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop  “การใช้อาหารรักษาภาวะคลอเลสเตอรอล"...