URL Copied!

สัญญาณเตือนพนักงานเสี่ยง คาโรชิซินโดรม โรคเสียชีวิตจากงานหนัก

คาโรชิซินโดรม (Karoshi Syndrome) หรือ โรคเสียชีวิตจากงานหนัก มีจุดเริ่มต้นในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เมื่อมีพนักงานเสียชีวิตกะทันหันจากโรคหัวใจและหลอดเลือดที่สัมพันธ์กับการทำงานหนักเกินไป องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุว่า “การทำงานเกิน 55 ชั่วโมงต่อสัปดาห์” เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองถึง 35% เมื่อเทียบกับผู้ที่ทำงานในชั่วโมงมาตรฐาน

 

แม้จะฟังดูไกลตัว แต่ปัจจุบันพนักงานไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะ พนักงานออฟฟิศ และผู้จัดการระดับกลาง ก็กำลังเผชิญความเสี่ยงจากภาวะนี้เช่นกัน ทั้งจากการโอทีต่อเนื่อง ความกดดันในเป้าหมายงาน และการขาด Work-life balance ที่เหมาะสม

สัญญาณเตือนพนักงานมีความเสี่ยง

แม้คาโรชิซินโดรมจะไม่ใช่โรคที่ตรวจพบได้จากผลแล็บโดยตรง แต่มี “สัญญาณเตือน” หลายอย่างที่สามารถบ่งบอกได้ว่าพนักงานกำลังเสี่ยง โรคเสียชีวิตจากงานหนัก HR ควรใส่ใจทั้ง กาย จิตใจ และพฤติกรรมการทำงาน ดังนี้

 

อาการทางกาย

พนักงานที่ทำงานหนักเกินไปมักเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่บ่งชี้ถึงความผิดปกติ เช่น

• อ่อนเพลียเรื้อรัง แม้จะนอนพักแล้วก็ยังรู้สึกเหนื่อย

• ไมเกรนหรือปวดศีรษะบ่อย บางครั้งรุนแรงจนต้องหยุดงาน

• ความดันโลหิตสูงผิดปกติ เมื่อเช็กซ้ำหลายครั้งยังคงสูง

• หัวใจเต้นผิดจังหวะ ใจสั่น ร่วมกับอาการหายใจติดขัด

• อาการทางเดินอาหาร เช่น กรดไหลย้อน ปวดท้องเรื้อรัง ท้องเสียจากความเครียด

ตัวอย่างที่ HR ควรระวัง: พนักงานที่เคยมีสุขภาพแข็งแรงแต่เริ่มลาป่วยบ่อยขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจหรือความดัน ควรรีบส่งต่อให้พบแพทย์

 

อาการทางจิตใจ

ความเครียดสะสมเป็นปัจจัยหลักของคาโรชิซินโดรม และสามารถสังเกตได้จากการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น

• หงุดหงิดง่าย โมโหเร็ว กับเรื่องเล็กน้อย

• วิตกกังวลตลอดเวลา แม้ในเรื่องที่ไม่สำคัญ

• หมดไฟ (Burnout) ไม่อยากทำงาน ไม่รู้สึกมีคุณค่า

• สมาธิสั้น ความจำถดถอย ทำงานผิดพลาดมากขึ้น

• อาการซึมเศร้า เงียบลง ไม่พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเหมือนเดิม

ตัวอย่างที่ HR ควรสังเกต: พนักงานที่เคยกระตือรือร้นกลับเงียบขรึม ไม่ร่วมกิจกรรม หรือร้องไห้บ่อยโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน

 

พฤติกรรมการทำงานผิดปกติ

นอกจากสุขภาพกายและใจแล้ว พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในที่ทำงานเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจน เช่น

• ทำงานล่วงเวลาบ่อย แม้ไม่มีความจำเป็น

• ไม่ใช้สิทธิลาพักผ่อน แม้จะมีวันลาคงเหลือ

• หมกมุ่นกับงานตลอดเวลา ตอบอีเมล/ไลน์งานแม้นอกเวลางาน

• คุณภาพงานตกลง มีความผิดพลาดเพิ่มขึ้น ทั้งที่เคยทำได้ดี

• มีปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน เช่น ขัดแย้งหรือเลี่ยงการทำงานร่วมทีม

ตัวอย่างที่ HR ควรสังเกต: พนักงานที่ชอบอยู่ดึกเป็นคนสุดท้ายของออฟฟิศบ่อย ๆ หรือปฏิเสธกิจกรรมสันทนาการทั้งหมด เพราะเลือกทุ่มเวลาให้งานเพียงอย่างเดียว

ปัจจัยเสี่ยงในองค์กรที่กระตุ้นคาโรชิซินโดรม

1.ชั่วโมงการทำงานเกินมาตรฐาน (>55 ชม./สัปดาห์)

2.วัฒนธรรมองค์กรที่ให้รางวัลกับ “การอยู่ดึก”

3.ขาดนโยบายสนับสนุนสุขภาพ เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี หรือการพักร้อน

4.ภาระงานที่เกินกำลัง และเป้าหมายงานที่ไม่สมจริง

5.ขาดระบบช่วยเหลือด้านจิตใจ เช่น Employee Assistance Program (EAP)

คำถาม

 

ใช่ไม่ใช่
พนักงานทำงานเกิน 55 ชั่วโมง/สัปดาห์หรือไม่  ☐     ☐
มีอัตราการลาออกหรือลาป่วยสูงผิดปกติหรือไม่  ☐     ☐
พนักงานใช้สิทธิวันลาพักร้อนครบหรือไม่  ☐     ☐
มีนโยบายสนับสนุน Work-life balance หรือไม่  ☐     ☐
มีระบบตรวจสุขภาพและ EAP ภายในองค์กรหรือไม่  ☐     ☐

วิธีที่องค์กรสามารถป้องกันโรคจากการทำงานหนัก

การสร้าง Work-life balance

• กำหนดนโยบาย “No meeting after 6 PM”

• ส่งเสริมวันหยุดและการทำงานแบบยืดหยุ่น

• จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เช่น Workplace Wellness Program

 

โปรแกรมตรวจสุขภาพและการให้คำปรึกษา

• ตรวจสุขภาพประจำปีโดยเน้นโรคหัวใจและความดันโลหิต

• ใช้บริการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาออนไลน์

• ใช้ EAP เพื่อช่วยพนักงานที่มีปัญหาความเครียดเรื้อรัง

 

การใช้แอพติดตามสุขภาพพนักงาน

แอปพลิเคชัน SAKID สามารถช่วยพนักงานติดตามสุขภาพพนักงานทั้ง 4 มิติ (อาหาร, ออกกำลังกาย, อารมณ์, สังคม) พร้อมระบบ Health Challenge และ Personal Coach 

คาโรชิซินโดรม โรคเสียชีวิตจากงานหนัก ไม่เพียงเป็นภัยเงียบต่อชีวิตพนักงาน แต่ยังสร้างต้นทุนด้านบุคลากร ชื่อเสียง และกฎหมายให้กับองค์กร การสร้าง Work-life balance และการสนับสนุนสุขภาพจึงไม่ใช่เพียง “สวัสดิการ” แต่เป็น “การลงทุนเพื่อความยั่งยืน” ขององค์กร

         บริษัทไหนที่กำลังมองหา Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม เรื่องโภชนาการอาหารเฉพาะโรค ทำอาหารสุขภาพ Cooking class นักกายภาพดูออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้

แหล่งอ้างอิง

  • Ministry of Health, Labour and Welfare Japan. (2019). Karoshi: Death from overwork in Japan. Tokyo: MHLW.

  • World Health Organization. (2021). Long working hours and risk of heart disease and stroke. WHO.

  • กรมอนามัย. (2564). แนวทางการสร้างสมดุลชีวิตการทำงาน. กระทรวงสาธารณสุข.

  • สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). (2565). Work-life balance กับสุขภาพการทำงานของคนไทย.

บทความที่น่าสนใจ

จัดการอย่างไร ให้ห่างไกล ความเครียด

หากเราพูดถึงคำว่า “ความเครียด” เรานั้นมักจะนึกถึง และบรรยายความรู้สึกว่าเหมือนถูก “บีบคั้น กดดัน อึดอัด” ทำให้เราใช้ชีวิตได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร โดยที่ความเครียดนั้นจะเป็นภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเราต้องเจอกับสถานการณ์ที่รับมือได้ยาก หรือถูกกดดันจากปัจจัยภายนอก จนทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ หรือวิตกกังวลขึ้นมาได้

อ่านต่อ »
ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง-SAKID

ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง ปรับนิดเดียว สุขภาพดีทั้งวัน

หากคุณต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์วันละ 6–8 ชั่วโมงขึ้นไป อาการปวดหลัง ปวดคอ หรือชาที่มืออาจเป็นสัญญาณเตือนของ “ออฟฟิศซินโดรม” โดยไม่รู้ตัว! แต่ข่าวดีคือ…เพียงแค่ “ปรับท่านั่งให้เหมาะสม” ก็สามารถลดอาการไม่พึงประสงค์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ทันที

อ่านต่อ »
Sakid thumbnail -ประกันกลุ่ม

ทำประกันกลุ่มให้พนักงานอย่างไรให้คุ้มกับเงินในกระเป๋า

หลายครั้งที่พนักงานในบริษัทมีความเจ็บป่วย อุบัติเหตุ เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน ทำให้ต้องพักรักษาตัว และอาจจะทำงานได้มีประสิทธิภาพลดลง ดังนั้นหลายๆบริษัทมีความจำเป็นต้องมองหาสวัสดิการให้กับพนักงานในองค์กร ดังนั้นเราจึงต้องมาทำความเข้าใจคำว่าประกันกลุ่มคืออะไร

อ่านต่อ »
Healthy canteen Cu-thumbnail SAKID

WORKSHOP Healthy Canteen CU

กิจกรรม  “Workshop Healthy Canteen”

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568  SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop  “Workshop Healthy Canteen” ให้กับผู้เข้าร่วมที่สนใจด้านการทำอาหารให้ผู้อื่น หรือร้านค้า โดยนักกำหนดอาหาร

อ่านต่อ »
workshop การยศาสตร์ในการทำงาน-SAKID

workshop การยศาสตร์ในการทำงาน (Ergonomics Training)

กิจกรรม  Workshop “Meditationand Deep relaxation ”

เมื่อวันที่ 9  มกราคม  2567 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop “กายศาสตร์ในการทำงาน” โดยนักกายภาพบำบัดที่จะมาสอนความรู้เรื่องกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายเบื่้องต้น อาหารแบบไหนที่เจ็บแล้วอันตรายควรไปพบคุณหมอ การปรับท่านั่งการทำงานให้ถูกต้องตามสรีระของแต่คน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ หรือตัวเอง การยืดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ที่ถูกใช้บ่อย ๆ สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เมื่อย ล้า ให้บรรเทาลง ปรับท่าแก้ปัญหาไหล่ห่อ คอยื่น และเรื่องที่ควรระวังในการยกของหนัก ท่าที่ถูกต้อง สำหรับการยกของหนัก และการนั่งทำงานที่ใช้โน๊ตบุ๊คเป็นหลัก

อ่านต่อ »
MEA-Fatty-2025-SAKID

SAKID with MEA Fatty Model

สำหรับกิจกรรม MEA Fatty Model ปี 2025 ที่แข่งขันลดน้ำหนักกับ SAKID application ระยะเวลา พฤษภาคม-กรกฎาคม โดยคัดเลือกจากผู้ที่มีความเสี่ยงสูงคือดัชนีมวลกาย ≥25 kg/m2 และมีผลตรวจไขมันในเลือดสูง มีการออกแบบภารกิจสุขภาพทั้งลดไขมัน เพิ่มผักใย และออกกำลังกายให้เหมาะสม พร้อมด้วยโค้ชนักกำหนดอาหารวิชาชีพดูแลเป็นรายบุคคล และมีการประเมินอาหารโภชนาการรายบุคคลเพื่อปรับเปลี่ยนตามไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการกิน

อ่านต่อ »