
สัญญาณเตือนพนักงานเสี่ยง คาโรชิซินโดรม โรคเสียชีวิตจากงานหนัก
- 20/09/25
คาโรชิซินโดรม (Karoshi Syndrome) หรือ โรคเสียชีวิตจากงานหนัก มีจุดเริ่มต้นในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เมื่อมีพนักงานเสียชีวิตกะทันหันจากโรคหัวใจและหลอดเลือดที่สัมพันธ์กับการทำงานหนักเกินไป องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุว่า “การทำงานเกิน 55 ชั่วโมงต่อสัปดาห์” เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองถึง 35% เมื่อเทียบกับผู้ที่ทำงานในชั่วโมงมาตรฐาน
แม้จะฟังดูไกลตัว แต่ปัจจุบันพนักงานไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะ พนักงานออฟฟิศ และผู้จัดการระดับกลาง ก็กำลังเผชิญความเสี่ยงจากภาวะนี้เช่นกัน ทั้งจากการโอทีต่อเนื่อง ความกดดันในเป้าหมายงาน และการขาด Work-life balance ที่เหมาะสม
สัญญาณเตือนพนักงานมีความเสี่ยง
แม้คาโรชิซินโดรมจะไม่ใช่โรคที่ตรวจพบได้จากผลแล็บโดยตรง แต่มี “สัญญาณเตือน” หลายอย่างที่สามารถบ่งบอกได้ว่าพนักงานกำลังเสี่ยง โรคเสียชีวิตจากงานหนัก HR ควรใส่ใจทั้ง กาย จิตใจ และพฤติกรรมการทำงาน ดังนี้
อาการทางกาย
พนักงานที่ทำงานหนักเกินไปมักเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่บ่งชี้ถึงความผิดปกติ เช่น
• อ่อนเพลียเรื้อรัง แม้จะนอนพักแล้วก็ยังรู้สึกเหนื่อย
• ไมเกรนหรือปวดศีรษะบ่อย บางครั้งรุนแรงจนต้องหยุดงาน
• ความดันโลหิตสูงผิดปกติ เมื่อเช็กซ้ำหลายครั้งยังคงสูง
• หัวใจเต้นผิดจังหวะ ใจสั่น ร่วมกับอาการหายใจติดขัด
• อาการทางเดินอาหาร เช่น กรดไหลย้อน ปวดท้องเรื้อรัง ท้องเสียจากความเครียด
ตัวอย่างที่ HR ควรระวัง: พนักงานที่เคยมีสุขภาพแข็งแรงแต่เริ่มลาป่วยบ่อยขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจหรือความดัน ควรรีบส่งต่อให้พบแพทย์
อาการทางจิตใจ
ความเครียดสะสมเป็นปัจจัยหลักของคาโรชิซินโดรม และสามารถสังเกตได้จากการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น
• หงุดหงิดง่าย โมโหเร็ว กับเรื่องเล็กน้อย
• วิตกกังวลตลอดเวลา แม้ในเรื่องที่ไม่สำคัญ
• หมดไฟ (Burnout) ไม่อยากทำงาน ไม่รู้สึกมีคุณค่า
• สมาธิสั้น ความจำถดถอย ทำงานผิดพลาดมากขึ้น
• อาการซึมเศร้า เงียบลง ไม่พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเหมือนเดิม
ตัวอย่างที่ HR ควรสังเกต: พนักงานที่เคยกระตือรือร้นกลับเงียบขรึม ไม่ร่วมกิจกรรม หรือร้องไห้บ่อยโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน
พฤติกรรมการทำงานผิดปกติ
นอกจากสุขภาพกายและใจแล้ว พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในที่ทำงานเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจน เช่น
• ทำงานล่วงเวลาบ่อย แม้ไม่มีความจำเป็น
• ไม่ใช้สิทธิลาพักผ่อน แม้จะมีวันลาคงเหลือ
• หมกมุ่นกับงานตลอดเวลา ตอบอีเมล/ไลน์งานแม้นอกเวลางาน
• คุณภาพงานตกลง มีความผิดพลาดเพิ่มขึ้น ทั้งที่เคยทำได้ดี
• มีปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน เช่น ขัดแย้งหรือเลี่ยงการทำงานร่วมทีม
ตัวอย่างที่ HR ควรสังเกต: พนักงานที่ชอบอยู่ดึกเป็นคนสุดท้ายของออฟฟิศบ่อย ๆ หรือปฏิเสธกิจกรรมสันทนาการทั้งหมด เพราะเลือกทุ่มเวลาให้งานเพียงอย่างเดียว
ปัจจัยเสี่ยงในองค์กรที่กระตุ้นคาโรชิซินโดรม
1.ชั่วโมงการทำงานเกินมาตรฐาน (>55 ชม./สัปดาห์)
2.วัฒนธรรมองค์กรที่ให้รางวัลกับ “การอยู่ดึก”
3.ขาดนโยบายสนับสนุนสุขภาพ เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี หรือการพักร้อน
4.ภาระงานที่เกินกำลัง และเป้าหมายงานที่ไม่สมจริง
5.ขาดระบบช่วยเหลือด้านจิตใจ เช่น Employee Assistance Program (EAP)

คำถาม
| ใช่ | ไม่ใช่ |
---|---|---|
พนักงานทำงานเกิน 55 ชั่วโมง/สัปดาห์หรือไม่ | ☐ | ☐ |
มีอัตราการลาออกหรือลาป่วยสูงผิดปกติหรือไม่ | ☐ | ☐ |
พนักงานใช้สิทธิวันลาพักร้อนครบหรือไม่ | ☐ | ☐ |
มีนโยบายสนับสนุน Work-life balance หรือไม่ | ☐ | ☐ |
มีระบบตรวจสุขภาพและ EAP ภายในองค์กรหรือไม่ | ☐ | ☐ |
วิธีที่องค์กรสามารถป้องกันโรคจากการทำงานหนัก
การสร้าง Work-life balance
• กำหนดนโยบาย “No meeting after 6 PM”
• ส่งเสริมวันหยุดและการทำงานแบบยืดหยุ่น
• จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เช่น Workplace Wellness Program
โปรแกรมตรวจสุขภาพและการให้คำปรึกษา
• ตรวจสุขภาพประจำปีโดยเน้นโรคหัวใจและความดันโลหิต
• ใช้บริการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาออนไลน์
• ใช้ EAP เพื่อช่วยพนักงานที่มีปัญหาความเครียดเรื้อรัง
การใช้แอพติดตามสุขภาพพนักงาน
แอปพลิเคชัน SAKID สามารถช่วยพนักงานติดตามสุขภาพพนักงานทั้ง 4 มิติ (อาหาร, ออกกำลังกาย, อารมณ์, สังคม) พร้อมระบบ Health Challenge และ Personal Coach
คาโรชิซินโดรม โรคเสียชีวิตจากงานหนัก ไม่เพียงเป็นภัยเงียบต่อชีวิตพนักงาน แต่ยังสร้างต้นทุนด้านบุคลากร ชื่อเสียง และกฎหมายให้กับองค์กร การสร้าง Work-life balance และการสนับสนุนสุขภาพจึงไม่ใช่เพียง “สวัสดิการ” แต่เป็น “การลงทุนเพื่อความยั่งยืน” ขององค์กร
บริษัทไหนที่กำลังมองหา Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม เรื่องโภชนาการอาหารเฉพาะโรค ทำอาหารสุขภาพ Cooking class นักกายภาพดูออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้
แหล่งอ้างอิง
Ministry of Health, Labour and Welfare Japan. (2019). Karoshi: Death from overwork in Japan. Tokyo: MHLW.
World Health Organization. (2021). Long working hours and risk of heart disease and stroke. WHO.
กรมอนามัย. (2564). แนวทางการสร้างสมดุลชีวิตการทำงาน. กระทรวงสาธารณสุข.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). (2565). Work-life balance กับสุขภาพการทำงานของคนไทย.
บทความที่น่าสนใจ

จัดการอย่างไร ให้ห่างไกล ความเครียด
หากเราพูดถึงคำว่า “ความเครียด” เรานั้นมักจะนึกถึง และบรรยายความรู้สึกว่าเหมือนถูก “บีบคั้น กดดัน อึดอัด” ทำให้เราใช้ชีวิตได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร โดยที่ความเครียดนั้นจะเป็นภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเราต้องเจอกับสถานการณ์ที่รับมือได้ยาก หรือถูกกดดันจากปัจจัยภายนอก จนทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ หรือวิตกกังวลขึ้นมาได้

ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง ปรับนิดเดียว สุขภาพดีทั้งวัน
หากคุณต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์วันละ 6–8 ชั่วโมงขึ้นไป อาการปวดหลัง ปวดคอ หรือชาที่มืออาจเป็นสัญญาณเตือนของ “ออฟฟิศซินโดรม” โดยไม่รู้ตัว! แต่ข่าวดีคือ…เพียงแค่ “ปรับท่านั่งให้เหมาะสม” ก็สามารถลดอาการไม่พึงประสงค์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ทันที

ทำประกันกลุ่มให้พนักงานอย่างไรให้คุ้มกับเงินในกระเป๋า
หลายครั้งที่พนักงานในบริษัทมีความเจ็บป่วย อุบัติเหตุ เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน ทำให้ต้องพักรักษาตัว และอาจจะทำงานได้มีประสิทธิภาพลดลง ดังนั้นหลายๆบริษัทมีความจำเป็นต้องมองหาสวัสดิการให้กับพนักงานในองค์กร ดังนั้นเราจึงต้องมาทำความเข้าใจคำว่าประกันกลุ่มคืออะไร

WORKSHOP Healthy Canteen CU
กิจกรรม “Workshop Healthy Canteen”
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop “Workshop Healthy Canteen” ให้กับผู้เข้าร่วมที่สนใจด้านการทำอาหารให้ผู้อื่น หรือร้านค้า โดยนักกำหนดอาหาร

workshop การยศาสตร์ในการทำงาน (Ergonomics Training)
กิจกรรม Workshop “Meditationand Deep relaxation ”
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop “กายศาสตร์ในการทำงาน” โดยนักกายภาพบำบัดที่จะมาสอนความรู้เรื่องกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายเบื่้องต้น อาหารแบบไหนที่เจ็บแล้วอันตรายควรไปพบคุณหมอ การปรับท่านั่งการทำงานให้ถูกต้องตามสรีระของแต่คน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ หรือตัวเอง การยืดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ที่ถูกใช้บ่อย ๆ สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เมื่อย ล้า ให้บรรเทาลง ปรับท่าแก้ปัญหาไหล่ห่อ คอยื่น และเรื่องที่ควรระวังในการยกของหนัก ท่าที่ถูกต้อง สำหรับการยกของหนัก และการนั่งทำงานที่ใช้โน๊ตบุ๊คเป็นหลัก

SAKID with MEA Fatty Model
สำหรับกิจกรรม MEA Fatty Model ปี 2025 ที่แข่งขันลดน้ำหนักกับ SAKID application ระยะเวลา พฤษภาคม-กรกฎาคม โดยคัดเลือกจากผู้ที่มีความเสี่ยงสูงคือดัชนีมวลกาย ≥25 kg/m2 และมีผลตรวจไขมันในเลือดสูง มีการออกแบบภารกิจสุขภาพทั้งลดไขมัน เพิ่มผักใย และออกกำลังกายให้เหมาะสม พร้อมด้วยโค้ชนักกำหนดอาหารวิชาชีพดูแลเป็นรายบุคคล และมีการประเมินอาหารโภชนาการรายบุคคลเพื่อปรับเปลี่ยนตามไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการกิน