
ลดน้ำหนัก แต่ไม่อยากอดอาหาร หรือออกกำลังกาย ฉบับองค์กร
- 06/08/24
ในยุคที่การทำงานหนักและการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบเป็นเรื่องปกติ ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานที่มักมีเวลาน้อยในการดูแลสุขภาพตัวเอง ซึ่งภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนเป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง เป็นต้น นอกจากนี้เรายังพบความสัมพันธ์ระหว่างโรคอ้วนและโรคมะเร็งบางชนิดอีกด้วย ถึงเวลาแล้วหรือยังคะที่เราจะเริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพกันเพิ่มมากขึ้น
ทำไมการดูแลน้ำหนักถึงสำคัญ?
ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
น้ำหนักเกินทำให้เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคข้ออักเสบ เพิ่มมากขึ้น การรักษาน้ำหนักให้ปกติจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคเหล่านี้ได้
เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
สุขภาพที่ดีทำให้มีพลังงานและสมาธิในการทำงานมากขึ้น ทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การมีน้ำหนักที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกดีเกี่ยวกับตัวเอง แต่ยังทำให้เรามีชีวิตที่มีคุณภาพมากขึ้น มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
เคล็ดลับลดน้ำหนักที่ไม่ต้องอดอาหารหรือออกกำลังกาย
เรามีเคล็ดลับง่ายๆสำหรับการลดน้ำหนัก ที่จะช่วยให้คนทำงานอย่างเราๆ สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องอดอาหารหรือออกกำลังกายมาฝากกัน
1.เลือกอาหารที่มีประโยชน์
การเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงจะช่วยให้เราอิ่มนานขึ้นและลดความอยากอาหารระหว่างวันได้ เช่น
• เพิ่มผักและผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำแต่มีไฟเบอร์สูง ช่วยทำให้อิ่มนานขึ้น ช่วยลดการกินของจุกจิกระหว่างวัน
• เลือกโปรตีนที่ดี เช่น ไก่ ปลา หมูไม่ติดมัน ไข่ และเต้าหู้ การกินโปรตีนที่เพียงพอทำให้เราอิ่มได้นานมากขึ้น
• บริโภคคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ข้าว กข.43 และธัญพืชที่มีไฟเบอร์สูง
2.ปรับพฤติกรรมการกิน
การปรับพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ สามารถช่วยลดปริมาณการบริโภคแคลอรีได้ เช่น
• กินอาหารช้าๆ ให้สมองมีเวลาส่งสัญญาณว่าอิ่มแล้ว ทำให้เราไม่กินเกินกว่าความต้องการของร่างกาย
• ใช้จานขนาดเล็กเพื่อลดปริมาณอาหารที่กินโดยไม่รู้ตัว
• หลีกเลี่ยงการกินอาหารขณะทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น ดูทีวีหรือทำงาน เนื่องจากทำให้เราไม่รู้สึกถึงปริมาณที่กินเข้าไป ทำให้เรามีแนวโน้มในการกินอาหารมากขึ้น
3.ดื่มน้ำเปล่าเพิ่มมากขึ้น
การดื่มน้ำมากๆ ไม่เพียงช่วยลดความหิวแต่ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลองดื่มน้ำแก้วใหญ่ก่อนมื้ออาหารเพื่อช่วยลดปริมาณอาหารที่เราจะกินได้
4.หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
ลดการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ขนมหวาน และขนมขบเคี้ยว ซึ่งมีพลังงานสูง แต่ไม่ให้คุณค่าทางโภชนาการ
5.เลือกของว่างที่ดีต่อสุขภาพ
หากคุณรู้สึกหิวระหว่างมื้ออาหาร เลือกของว่างที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผลไม้สด ถั่ว โยเกิร์ตไขมันต่ำ หรือน้ำเปล่า แทนเครื่องดื่มและขนมหวาน
6.จัดการกับความเครียด
ความเครียดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้หลายคนหันมากินอาหารมากขึ้น กินเพื่อลดความเครียด กินเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น ดังนั้นหากเราสามารถการจัดการความเครียดได้ ก็สามารถควบคุมพฤติกรรมการกินของเราได้เช่นเดียวกัน
• ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การฝึกหายใจลึกๆ หรือการฟังเพลงผ่อนคลาย
• หาเวลาผ่อนคลายจิตใจ : ให้เวลากับตัวเองในการทำกิจกรรมที่ชอบเพื่อผ่อนคลายและลดความเครียด
7.นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับที่เพียงพอช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนความหิวและความอิ่ม ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน และลดความเครียดของร่างกายได้ เช่น
• รักษาตารางการนอน : พยายามนอนและตื่นในเวลาเดียวกันทุกวัน
• หลีกเลี่ยงการใช้หน้าจอก่อนนอน : การใช้โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ก่อนนอนสามารถรบกวนการนอนหลับ และทำให้คุณภาพของการนอนลดลง
8.เพิ่มกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
แม้จะไม่มีเวลาออกกำลังกายหนัก แต่การเพิ่มกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรีได้เช่นเดียวกัน เช่น
• เพิ่มการเดินระหว่างการประชุม : หากมีการประชุมทางโทรศัพท์ ลองเดินไปด้วยแทนการนั่ง
• ใช้บันไดแทนลิฟต์ : การขึ้นลงบันไดเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายและมีประโยชน์
• สลับยืนนั่งทำงาน : ลองใช้โต๊ะทำงานที่สามารถปรับระดับให้ยืนทำงานได้ จะช่วยเผาผลาญแคลอรีมากกว่าการนั่ง
กิจกรรมร่วมส่งเสริมสุขภาพพนักงานในองค์กรกับ SAKID
SAKID สามารถช่วยให้พนักงานในองค์กรของคุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ โดยทำให้พนักงานสามารถปรับพฤติกรรมการกินได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนุกไปกับภารกิจที่เรามอบให้ในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นภารกิจด้านอาหาร โดยไม่จำเป็นต้องงดอาหาร สามารถช่วยให้การปรับพฤติกรรมและการลดน้ำหนักเป็นไปอย่างสนุกและไม่น่าเบื่อเหมือนเคย ร่วมกับการส่งภารกิจก้าวเดินในแต่ละวัน โดยคะแนนที่ได้จากการทำภารกิจและกิจกรรมในอื่นๆที่เรามีให้ในแอพพลิเคชั่น สามารถนำไปเลี้ยง “น้องสะกิด” ของเราให้โต แข็งแรง เต็มวัยได้ด้วยค่ะ หรืออยากจัดให้มีการแข่งขันระหว่างทีม เพื่อกระตุ้นให้พนักงานในองค์กรมีแรงกระตุ้นเพิ่มมากขึ้น ก็สามารถทำได้แช่นเดียวกัน
หากพนักงานในองค์กรของเรามีสุขภาพที่ดีขึ้น มีพฤติการณ์กินที่เหมาะสม จะสามารถช่วยให้เขาเหล่านั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานได้มากขึ้นเช่นเดียวกันค่ะ สามารถ ทดลองใช้ SAKID application ได้ เพื่อสนุกกับภารกิจสุขภาพ จนลดน้ำหนักได้ แบบไม่ต้องอดอาหาร
บทความที่น่าสนใจ

WORKSHOP เริ่มต้นดูแลสุขภาพดี เริ่มต้นที่ตัวเรา
กิจกรรม Workshop “เรื่มต้นดูแลสุขภาพดี เริ่มต้นที่ตัวเรา”
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop “เริ่มต้นดูแลสุขภาพดี เริ่มต้นที่ตัวเรา ” โดยนักกำหนดอาหาร มีการทำแบบประเมินตัวเองและเข้าใจสุขภาพตัวเอง เทคนิคการปรับมื้ออาหารให้สุขภาพดีและลดน้ำหนักได้ และมีคลาสแนะนำการออกกำลังกายทำเมื่อไรก็ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายพัฒนาระบบไหลเวียนเลือด หัวใจ กล้ามเนื้อ ลดอาการoffice syndrome โดยนักวิทยาศาสตร์การกีฬา

[Case Study] ตัวอย่างสวัสดิการพนักงานจากทั่วโลก
เพราะ ‘คนทำงาน’ เป็นสิ่งที่องค์กรควรลงทุนมากที่สุด และการลงทุนนั้นก็คือสวัสดิการที่จะช่วยให้พนักงานมีชีวิตที่ดีได้ ชวนไปสำรวจตัวอย่างสวัสดิการพนักงานจากทั่วโลกกัน

ทำอย่างไร เมื่อคนในองค์กรมีไขมันในเลือดสูง
ทุกธุรกิจ ทุกองค์กร มีการจัดการคนทำงานในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ถ้าวันนี้ลองสังเกตดูว่า พนักงานของเรา ยังมีความสุขในการทำงานหรือไม่ การทำงานของแต่ละคนมีประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์องค์กรมากแค่ไหน และคุณภาพชีวิตของพนักงานดีขึ้นทุกด้านรึเปล่า หากผู้นำหรือผู้บริหารสามารถมองจุดนี้ได้ ธุรกิจก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน

บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตสมุทรปราการ
บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตสมุทรปราการ
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 Sakid ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิดให้กับการไฟฟ้านครหลวง เขตสมุทรปราการ ในกิจกรรม Fun for Fit เพื่อแนะนำการเข้าร่วมโครงการ “MEA เบิร์นเกินร้อย” เปิดศึกการแข่งกันระหว่างทีมเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี ด้วยการส่งภารกิจสุขภาพผ่านแอพสะกิด และลุ้นรับของรางวัลในแต่ละเดือน

เก็บออมหรือเพิ่มรายได้ จุดไหนเราควรจะโฟกัส
ในสถานการณ์ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2565 ที่มีจำนวนผู้สูงอายุราวร้อยละ 20-30 และไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอดเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 28 ในปี 2574 จึงเป็นส่วนหนึ่งให้คนวัยทำงานเริ่มวางแผนทางการเงิน เพื่อให้พร้อมรับกับวัยเกษียณที่จะมาถึง ซึ่งมีทั้งเก็บออมเงินจากการทำงานในปัจจุบัน หรือเลือกที่จะหาช่องทางเพิ่มรายได้ แล้วแบบไหนที่ควรจะเลือกดี

How to วางงบจัดกิจกรรม บริษัท องค์กร ให้คุ้มค่าและได้ผลลัพธ์สุดปัง
ในปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญการดูแลด้าน Well-being หรือสุขภาวะที่ดีของพนักงาน เพราะเล็งเห็นว่าพนักงานเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดขององค์กร ในการดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร หากพนักงานมีความสุขก็จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน และมีความผูกพันต่อองค์กร แต่ทราบหรือไม่ว่านอกจากนี้ยังสามารถขอรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้องได้หลายมาตรฐาน ซึ่งทำให้มั่นใจว่ากิจกรรมด้าน Well-being ที่จัดให้พนักงานมีความครบถ้วนหรือไม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด และหากองค์กรได้รับรางวัลมาตรฐานเหล่านี้ ยังเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่องค์กร สร้างภาพลักษณ์ต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งพนักงาน ลูกค้า และบุคคลภายนอกในการเป็นองค์ที่มีความใส่ใจพนักงาน