“แพคเกจตรวจสุขภาพ” เลือกอย่างไรให้เหมาะสมที่สุด
- 19/12/22
ในวันที่เกิดอาการป่วย หรือรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว สิ่งหนึ่งที่ส่งผลกระทบแบบเห็นผลทันทีก็คือการทำงานที่ทำได้น้อยลง ประสิทธิภาพลดลง และอาจส่งผลต่อทีมที่ทำงานด้วยกัน หรือแม้แต่ระดับภาพใหญ่อย่างองค์กร
แม้ว่าความป่วยไข้จะเป็นสิ่งที่คนในองค์กรไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่อย่างน้อยการป้องกันหรือลดความเสี่ยงก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไป เพื่อให้คนในองค์กรได้มีสุขภาพที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี และส่งต่อให้เกิดงานที่มีประสิทธิภาพต่อองค์กร
หนึ่งในสวัสดิการที่องค์กรควรมอบให้แก่พนักงานจึงเป็นเรื่องของการตรวจสุขภาพประจำปี หรือการมอบแพคเกจตรวจสุขภาพให้กับพนักงาน เพื่อให้คนในองค์กรได้เช็กสุขภาพของตนอยู่เสมอ
ปัจจุบันมีแพคเกจตรวจสุขภาพมากมาย แต่เราจะเลือกอย่างไรให้เหมาะสม ชวนไปดูผ่านบทความนี้กัน
แพคเกจตรวจสุขภาพคืออะไร
สิ่งที่คนไทยมักไม่ค่อยเห็นความสำคัญคือการตรวจสุขภาพประจำปี เพราะมักมีความรู้สึกว่าหากร่างกายยังแข็งแรง ก็แปลว่าสุขภาพดี ไม่ได้มีโรคร้ายแรงอะไร แต่จริงๆ การตรวจสุขภาพนั้นเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลร่างกายไม่ให้ป่วยไข้หนักไปกว่าเดิม เพราะบางโรค หรือบางอาการอาจไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนจนกว่าจะเกิดอาการสาหัสซึ่งจะแก้ไขได้ยาก
ปัจจุบันจึงมีสถานพยาบาลหลากหลายแห่งเลือกออกแพคเกจตรวจสุขภาพ ซึ่งมีรายการตรวจสุขภาพที่คนทั่วไปควรตรวจเพื่อเช็กการทำงานของร่างกายขั้นพื้นฐาน แพคเกจเหล่านี้เป็นที่เห็นต้องกันว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่บุคคลทั่วไปควรตรวจทุกปีเพื่อเช็กร่างกาย
ทำไมเราควรตรวจสุขภาพประจำปี
เพราะในหนึ่งปีมีการเปลี่ยนแปลงมากมายกับร่างกายของคนเรา การตรวจสุขภาพประจำปีตามคำแนะนำของแพทย์หรือตามแพคเกจตรวจสุขภาพจึงควรทำปีละครั้ง เพราะมีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้ร่างกายของเราเสื่อมโทรมลง ไม่ว่าจะอายุ มลภาวะทางอากาศ เช่น PM 2.5 หรือควันจากท่อไอเสีย การไม่ได้ออกกำลังกาย การทานอาหารที่ไม่ถูกหลักตามโภชนาการ ความเครียดสะสม การพักผ่อนไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้สุขภาพเจ็บป่วยได้
การตรวจสุขภาพประจำปีจะทำให้หมอสามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกายและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ก่อนที่โรคร้ายจะลุกลามใหญ่โตจนสายเกินรักษา
แพคเกจตรวจสุขภาพเบื้องต้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
โดยทั่วไปแพคเกจตรวจสุขภาพจะเป็นการตรวจร่างกายพื้นฐาน ซึ่งอาจทำให้ค้นพบโรคยอดฮิตได้ล่วงหน้า เช่น เบาหวาน ความดัน โรคไต โรคตับ หรือโลหิตจาง
โดยจะมีการตรวจพื้นฐาน 4 ขั้นตอน ได้แก่
1. การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) เพื่อตรวจโรคโลหิตจางหรือธาลัสซีเมีย
2. การตรวจระดับน้ำตาล (FPG) เพื่อดูความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน
3. การตรวจระดับไขมันในเลือด เพื่อตรวจหาคอเรสเตอรอล และ ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดว่ามีเยอะเกินไปหรือไม่
4. การตรวจการทำงานของไต หรือตรวจหาครีเอตินีน (Creatinine) เพื่อวัดระดับการทำงานของไตว่าสามารถกำจัดของเสียได้เป็นปกติ
อย่างไรก็ตาม บางแพคเกจตรวจสุขภาพ หรือบางสถานพยาบาลก็จะมีการตรวจขั้นตอนอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ตรวจมะเร็งปากมดลูก ตรวจต่อมลูกหมาก
แพคเกจตรวจสุขภาพจำเป็นแค่ไหน ทำไมต้องตรวจหลายรายการ
หลายครั้งเราอาจสงสัยกับรายการแพคเกจตรวจสุขภาพที่ยาวเหยียด และไม่แน่ใจว่ารายการเหล่านั้นจำเป็นแค่ไหน
โดยทั่วไป การตรวจสุขภาพประจำปีมักจะเริ่มต้นด้วยการตรวจเลือด ตรวจระดับน้ำตาล ตรวจระดับไขมัน และตรวจการทำงานของไต บางครั้งอาจมีการเพิ่มเติมการตรวจการทำงานของปอดผ่านการเอกซเรย์ แต่ในรายการอื่นๆ นอกเหนือจากนี้มักจะขึ้นอยู่กับผู้เลือกซื้อแพคเกจตรวจสุขภาพ ที่มีหลากหลายปัจจัย หรือตามพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ซึ่งหากใช้โปรแกรมช่วยวิเคราะห์ ประเมินสุขภาพ อย่าง SAKID ก็จะช่วยให้สามารถเลือกแพคเกจตรวจสุขภาพ ได้ตรงจุดยิ่งขึ้น
เลือกแพคเกจตรวจสุขภาพยังไงดี?
– อายุ
ในแต่ละช่วงอายุจะมีความเสี่ยงของโรคแตกต่างกัน ช่วงอายุ 18 – 35 ปี อาจเป็นการตรวจสุขภาพพื้นฐานทั่วไป เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายยังสามารถซ่อมแซมหรือฟื้นฟูตัวเองได้ง่าย ช่วงอายุ 35 – 60 ปี อาจเป็นการตรวจสุขภาพที่เจาะลึกลงไปมากขึ้น เพราะอาจเกิดความเสื่อมของร่างกาย โดยมักจะตรวจหาโรคหัวใจ มะเร็ง เพิ่มเติม ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมีการตรวจร่างกายที่ละเอียดที่สุด เพราะเป็นช่วงที่สามารถเกิดโรคได้ง่ายด้วยความเสื่อมถอยของร่างกาย และหากเกิดโรคขึ้นอาจส่งผลร้ายแรง จึงต้องได้รับการรักษาให้ทันถ่วงที (ดูแบบละเอียดได้ที่นี่ : คลิก)
– เพศ
ร่างกายของแต่ละเพศสภาพจะมีความแตกต่างและก่อให้เกิดโรคคนละรูปแบบ โดยผู้หญิงอาจต้องตรวจตรวจเต้านม ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ตรวจความหนาแน่นของกระดูก ในส่วนของผู้ชายจะมีการตรวจคัดกรองความผิดปกติของต่อมลูกหมาก ตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย และตรวจระบบการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ
– ประวัติอาการเจ็บป่วยของคนในครอบครัว
สำหรับบางครอบครัวอาจมีโรคพันธุกรรมที่ถ่ายทอดกันมา จึงมักมีการซักถามประวัติอาการเจ็บป่วยของคนในครอบครัวเพื่อเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
– พฤติกรรมและอาชีพ
พฤติกรรมและอาชีพเองก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่นคนขับวินมอเตอร์ไซค์ คนกวาดขยะ อาจได้รับมลภาวะทางอากาศจึงมีโอกาสเกิดมะเร็งได้มากกว่าคนทั่วไป
– ความคุ้มค่าของโปรแกรม
สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกโปรแกรมให้เหมาะสมกับแต่ละคน โดยสังเกตผ่านปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น และเปรียบเทียบโปรแกรมในแต่ละสถานพยาบาลเพื่อให้ได้แพคเกจตรวจสุขภาพที่คุ้มค่าที่สุด
5 แพคเกจตรวจสุขภาพที่ได้รับคำแนะนำ
มีแพคเกจตรวจสุขภาพหลากหลายแพคเกจให้เลือกตามความเหมาะสม มีโปรแกรมครอบคลุมทุกช่วงวัยและทุกเพศ
แพคเกจแนะนำ : แพ็กเกจตรวจสุขภาพ Regular Program : ราคา 6,330
– ตรวจร่างกายทั่วไป
– การตรวจเลือด
– ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
– ตรวจน้ำตาลในเลือด
– ตรวจไขมันในเลือด
+ ตรวจระดับโคเลสเตอรอล /ไตรกลีเซอไรด์ /ไขมันความหนาแน่นสูง (HDL)
+ ตรวจอัตราส่วนโคเลสเตอรอลกับไขมันความหนาแน่นสูง (HDL)
+ ตรวจระดับไขมันความหนาแน่นต่ำ (LDL)
– ตรวจโรคเก๊าท์ (กรดยูริค)
– ตรวจการทำงานของไต
+ Creatinine
– ตรวจการทำงานของตับ
+ SGOT (AST) and SGPT (ALT)
– ตรวจปัสสาวะ
– ตรวจอุจจาระเพื่อหาพยาธิและความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร
– ตรวจเอกซเรย์ปอด
มีแพคเกจตรวจสุขภาพแบบละเอียดในราคาที่เข้าถึงได้ และมีแพคเกจตรวจสุขภาพที่แบ่งตามเพศได้
แพคเกจแนะนำ : Basic Check-up : 3,300 THB
– ตรวจร่างกายทั่วไป
– การตรวจเลือด
+ ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
+ ตรวจน้ำตาลในเลือด
– ตรวจไขมันในเลือด
+ ตรวจระดับโคเลสเตอรอล /ไตรกลีเซอไรด์
+ ตรวจระดับไขมันชนิดดีในเลือด (HDL)
+ ตรวจระดับไขมันชนิดไม่ดีในเลือด (LDL)
– ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
– ตรวจการทำงานของไต
+ Creatinine
+ eGFR
– ตรวจการทำงานของตับ
+ SGOT (AST)
+ SGPT (ALT)
– ตรวจปัสสาวะ
– ตรวจเอกซเรย์ปอด
– คูปองอาหาร 1 มื้อ
– ค่าบริการโรงพยาบาล
มีแพคเกจตรวจสุขภาพที่เลือกให้เหมาะสมได้ทั้งเพศและช่วงวัย ครอบคลุมในหลากหลายรูปแบบในราคาไม่แพง
แพคเกจแนะนำ : โปรแกรมตรวจสุขภาพผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี : 3,700
– การตรวจเลือด
+ ความสมบูรณ์เม็ดเลือด (CBC)
+ ตรวจหากรุ๊ปเลือด (BLOOD GROUP)
+ ระดับน้ำตาลในเลือด (FBS)
+ ระดับไขมัน (CHOLESTEROL)
+ ระดับไขมัน (TRIGLYCERIDE)
+ การทำงานของตับ (SGPT)
+ การทำงานของไต (CREATININE)
+ ตรวจไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg, Anti-HBc, Anti-HBs)
– ตรวจปัสสาวะอย่างสมบูรณ์ (URINE EXAM)
– เอกซเรย์ปอด (CXR)
– วิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายดูความสมดุลของสัดส่วนกล้ามเนื้อ ไขมัน และองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อกำหนดเป้าหมายในการออกกำลังกายและฟื้นฟูองค์ประกอบร่างกายอย่างเหมาะสม
– วางแผนโปรแกรมการออกกำลังกายเฉพาะบุคคล
– วัดสัญญาณชีพ เพื่อดูอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต วัดปริมาณออกซิเจนในเลือดและติดอุปกรณ์วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG เพื่อดูจังหวะการเต้นของหัวใจขณะพัก ว่าเต้นผิดปกติหรือไม่
– ออกกำลังกาย ตามโปรแกรมที่ผู้เชี่ยวชาญจัดให้
– ติดตามการทำงานของคลื่นหัวใจแบบ Real-Time ในขณะออกกำลังตามโปรแกรมฟื้นฟู ด้วยระบบ Telemetry Cardiac Rehab Management System เพื่อให้ได้ทั้งความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการออกกำลัง ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดโดยผู้เชี่ยวชาญ
– ติดตามการเปลี่ยนแปลงของร่างกายขณะออกกำลังกาย เพื่อนำมาวางแผนและปรับโปรแกรมการออกกำลังกายเฉพาะบุคคล
มีแพคเกจตรวจสุขภาพที่หลากหลาย เลือกได้ตามพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อดูแลร่างกายอย่างตรงจุด
แพคเกจแนะนำ : ALL YOU CAN CHECK 26 รายการ : 6,990 บาท
– ตรวจร่างกายทั่วไป
– การตรวจเลือด
+ ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
+ ตรวจน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar)
– ตรวจไขมันในเลือด
+ ตรวจระดับโคเลสเตอรอล /ไตรกลีเซอไรด์
+ ตรวจระดับไขมันชนิดดีในเลือด (HDL)
+ ตรวจระดับไขมันชนิดไม่ดีในเลือด (LDL)
– ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
– ตรวจการทำงานของไต
+ Creatinine
+ B.U.N
– ตรวจการทำงานของตับ
+ SGOT (AST)
+ SGPT (ALT)
– ตรวจปัสสาวะ
– ตรวจหากรดยูริคในเลือด
– ตรวจเอกซเรย์ปอด
– ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี (HBs Ag) และตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบ บี (Anti HBs)
– ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งตับ (Alpha-Fetoprotine)
– ตรวจหามะเร็งลำไส้ (CEA)
– ตรวจหาเชื้อ H.Pylori ในกระเพาะอาหาร (H.Pylori)
– ตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง 1 ส่วน
5. โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
มีแพคเกจตรวจสุขภาพตั้งแต่พื้นฐาน ไปจนถึงการแพคเกจตรวจหาภูมิแพ้และมะเร็งปอด
แพคเกจแนะนำ : ตรวจสุขภาพแบบพื้นฐาน อายุน้อยกว่า 40 ปี : 3,500 บาท
– ตรวจร่างกายทั่วไป
– เอกซเรย์ปอด
– การตรวจเลือด
+ ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
+ ตรวจน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar)
– ตรวจไขมันในเลือด
+ ตรวจระดับโคเลสเตอรอล /ไตรกลีเซอไรด์
+ ตรวจระดับไขมันชนิดดีในเลือด (HDL)
+ ตรวจระดับไขมันชนิดไม่ดีในเลือด (LDL)
– ตรวจปัสสาวะ
– ตรวจการทำงานของไต
+ Creatinine
– ตรวจการทำงานของตับ
+ SGOT (AST)
+ SGPT (ALT)
– คูปองอาหาร
– สมุดรายงานผลตรวจสุขภาพ
แพคเกจดูแลสุขภาพสำหรับคนทำงานโดยเฉพาะ
ปัจจุบันแพคเกจตรวจสุขภาพเป็นสวัสดิการที่องค์กรควรมอบให้พนักงาน เพราะถือเป็นการดูแลและใส่ใจคนทำงาน ทำให้เขาได้มีสุขภาพที่ดี ช่วยทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานไปพร้อมกัน ซึ่งสมัยก่อนอาจเป็นเรื่องยุ่งยากในการดูแลพนักงานอย่างทั่วถึง แต่ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มที่พร้อมเป็นผู้ช่วย เช่น SAKID
SAKID คือแอปพลิเคชันที่ส่งเสริมสุขภาพของคนในองค์กร โดยใช้ทฤษฎี Gamification, Cognitive Behavioral Therapy และ Nudge Theory เพื่อให้ผู้ใช้งานปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ไม่ว่าจะลดน้ำหนัก กินผักมากขึ้น เพิ่มการเดินหรือแข่งวิ่งภายในบริษัท โดยมีฟังก์ชั่นหลากหลาย ตั้งแต่การทำภารกิจสุขภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพรายบุคคล การทำปฏิทินความสุข การโค้ชชิ่งส่วนตัว ซึ่งจะส่งเสริมให้คนทำงานมีสุขภาพที่ดีขึ้น หรือแม้แต่การติดตามสุขภาพที่ส่งต่อไปสู่การเลือกแพคเกจตรวจสุขภาพอย่างตรงจุด
โดย SAKID มีเครื่องมือที่ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ (Health & Happiness Tool) ที่โดดเด่น ได้แก่ รายงานผลสุขภาพดิจิทัลรายบุคคลและเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพ ผ่านมือถืออัตโนมัติ
เครื่องมือนี้จะมีการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพและสามารถรายงานผลสุขภาพรายบุคคลได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเชื่อมกับโรงพยาบาลได้โดยตรง ทำให้สามารถติดตามปัญหาสุขภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อข้อมูลกิจกรรมเพื่อวิเคราะห์สุขภาพจากโทรศัพท์ ผ่าน Apple Health หรือ Google Fit ได้อัตโนมัติ ซึ่งนำไปสู่การบูรณาการในการให้คำปรึกษาจากผลการตรวจสุขภาพและ ออกแบบแพคเกจตรวจสุขภาพจากผลเลือดได้อย่างตรงจุด และเหมาะสมกับพนักงานรายบุคคล
SAKID จึงเป็นอีกแอปพลิเคชันที่จะช่วยให้คนในองค์กรได้เข้าถึงสวัสดิการด้านสุขภาพอย่างตรงจุด เลือกแพคเกจตรวจสุขภาพได้อย่างเหมาะสมจากการวิเคระาห์ข้อมูลและการโค้ชชิ่งรายบุคคล และยังช่วยลดภาระของ HR ในการจัดการเรื่องสุขภาพของพนักงาน นำไปสู่ศักยภาพขององค์กรที่จะเติบโตได้อีกไกล
สรุป
เพราะแพคเกจตรวจสุขภาพมีอยู่มากมายให้เราได้เลือกสรร การเลือกแพคเกจตรวจสุขภาพที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายเราเสื่อมโทรมโดยไม่ทันตั้งตัว เพราะเรามีเพียงร่างกายเดียว การดูแลรักษากายและใจให้ดี ก็จะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
ไปไกลกว่านั้น แพคเกจตรวจสุขภาพควรเป็นสวัสดิการในการทำงาน เพราะพนักงานต่างทุ่มเทการทำงานให้กับองค์กร การดูแลใส่ใจสุขภาพของพนักงาน จะช่วยเสริมให้พนักงานเห็นความสำคัญขององค์กร และอยากพัฒนาองค์กรให้เติบโตไปพร้อมกัน
แน่นอนว่าการดูแลพนักงานทั้งหมดอาจเป็นการจัดการที่ยาก แต่ทว่าปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีมากมายที่เข้ามาช่วยให้การจัดการง่ายขึ้น โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพพนักงานรายบุคคลอย่าง SAKID แอปพลิเคชันส่งเสริมสุขภาพในองค์กรที่พร้อมดูแลในทุกมิติทั้งกายและใจ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลพนักงาน วิเคราะห์สุขภาพ และนำข้อมูลไปเลือกแพคเกจตรวจสุขภาพได้อย่างตรงจุด
บทความที่น่าสนใจ
12 กิจกรรม สร้างทีมเวิร์คที่ออฟฟิศ
คุณเคยรู้สึกว่าบรรยากาศในที่ทำงานห่างเหิน ขาดพลังของการร่วมมือร่วมใจกันหรือไม่? ในโลกธุรกิจยุคใหม่ที่มีการแข่งขันสูง การสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จขององค์กร กิจกรรม Team Building คือเครื่องมือที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ความไว้วางใจ ความร่วมมือ และการทำงานเป็นทีมอย่างราบรื่น
WORKSHOP การใช้อาหารรักษาภาวะคลอเลสเตอรอล (ลดไขมันด้วยอาหาร)
กิจกรรม “การใช้อาหารรักษาภาวะคลอเลสเตอรอล”
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop “การใช้อาหารรักษาภาวะคลอเลสเตอรอล” โดยนักกำหนดอาหารที่ให้ความรู้และความเข้าใจเรื่องอาหารสำหรับคนที่เสียงคลอเรสเตอรอลสูง และผู้ที่เป็นอยู่แล้ว ว่ามีอาหารประเภทไหนบ้าง ที่ควรกินและไม่ควรกิน การเลือกอาหารและการปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม
Well-being ไม่ใช่แค่ดูแลพนักงาน แต่ขอรับรองมาตรฐานได้ด้วย
ในปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญการดูแลด้าน Well-being หรือสุขภาวะที่ดีของพนักงาน เพราะเล็งเห็นว่าพนักงานเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดขององค์กร ในการดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร หากพนักงานมีความสุขก็จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน และมีความผูกพันต่อองค์กร แต่ทราบหรือไม่ว่านอกจากนี้ยังสามารถขอรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้องได้หลายมาตรฐาน ซึ่งทำให้มั่นใจว่ากิจกรรมด้าน Well-being ที่จัดให้พนักงานมีความครบถ้วนหรือไม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด และหากองค์กรได้รับรางวัลมาตรฐานเหล่านี้ ยังเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่องค์กร สร้างภาพลักษณ์ต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งพนักงาน ลูกค้า และบุคคลภายนอกในการเป็นองค์ที่มีความใส่ใจพนักงาน
Workshop สายออฟฟิศ
Workshop สายพนักงานออฟฟิศ ที่นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ ไม่ลุกไปไหนย่อมมีผลต่อสุขภาพแน่นอน การเสริมความรู้ด้านสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญเป็นกลุ่มเป็นสิ่งที่จำเป็นแก่พนักงานเพื่อที่จะได้มีสุขภาพแข็งแรง
[เคล็ดลับ] สร้าง Smart Office ที่ดีเพื่อองค์กรของคุณ
ในยุคหลังโควิด เกิดการปรับตัวขององค์กรมากมาย หนึ่งในนั้นคือการปรับเปลี่ยนองค์กรให้เป็น Smart Office ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คนทำงานมากขึ้น แนะนำเคล็ดลับ
มารู้จัก Healthy Organization องค์กรสุขภาพดี
จากการสำรวจสุขภาพของประชากรไทยครั้งที่ 6 ซึ่งดำเนินการในปี 2562-2563 ซึ่งประเด็นในการสำรวจครอบคลุมในเรื่องพฤติกรรมสุขภาพ ภาวะโรคที่สามารถตรวจวัดพื้นฐาน ได้แก่ การวัดสัดส่วนร่างกาย ความดันโลหิต และการตรวจวัดน้ำตาล และไขมันในเลือด เป็นต้น โดยครอบคลุมทั้งในวัยทำงาน และผู้สูงอาย พบว่า ปัญหาอันดับต้นของสังคมในขณะนี้คือ โรคที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพ หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยเฉพาะภาวะอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงซึ่งมีผลต่ออุบัติการณ์โรคระบบหัวใจและหลอดเลือดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น เกิดภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการดูแลรักษา ในขณะที่ความสามารถในการทำงานก็ด้อยลงตามสภาพร่างกายส่งผลเสียเป็นวงกว้างทั้งแก่ตัวพนักงาน และองค์กร ดังนั้นมาตรการป้องกันและลดภาระโรคเหล่านี้จึงเป็นประเด็นสำคัญมาก