Hybrid-sakid head
URL Copied!

Hybrid Working โอกาส ความท้าทาย สำหรับองค์กร

         หลายปีที่ผ่านมาหลายคนอาจจะได้ยินหรือกำลังมองหางานที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศแต่งานบางประเภทก็ยังจำเป็นที่จะต้องเข้ามาออฟฟิศอยู่ การทำงานแบบ Hybrid Working  เป็นการทำงานคนละครึ่งทางที่เริ่มมีความนิยมมากขึ้นในหลายบริษัทและยังมีการดึงดูดพนักงานในการตัดสินใจร่วมทำงานกับบริษัทอีกด้วย ในยุคที่เทคโนโลยีและการสื่อสารพัฒนาอย่างก้าวกระโดด แนวคิดเกี่ยวกับการทำงานก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก หนึ่งในรูปแบบการทำงานที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบันคือ Hybrid Working Model หรือ รูปแบบการทำงานแบบไฮบริด ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการทำงานในสำนักงานและการทำงานจากระยะไกล (Remote Work) – แนวทางนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังตอบสนองความต้องการของพนักงานในด้านความยืดหยุ่นและสมดุลชีวิตส่วนตัวอีกด้วย

Hybrid Working Model คืออะไร?

Hybrid Working Model คือระบบการทำงานที่เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเลือกสถานที่ทำงานได้อย่างยืดหยุ่น โดยอาจแบ่งเวลาในการทำงานระหว่าง การทำงานในสำนักงาน (On-site) และ การทำงานจากที่บ้านหรือที่อื่นๆ (Remote Work) เช่น พนักงานอาจเข้ามาทำงานในออฟฟิศสัปดาห์ละ 2-3 วัน และทำงานที่บ้านในวันที่เหลือ รูปแบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับความหลากหลายของความต้องการและลักษณะงานในองค์กร

ข้อดีของการทำงานที่เปิดโอกาสให้พนักงานเลือก

 

 เพิ่มประสิทธิภาพและความพึงพอใจ พนักงานสามารถเลือกสถานที่และเวลาทำงานที่เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งช่วยให้พวกเขามีสมาธิและสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

 

• ลดค่าใช้จ่าย ทั้งองค์กรและพนักงานสามารถลดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเดินทาง ค่าเช่าสำนักงาน หรือค่าใช้จ่ายส่วนตัวในการเดินทางมาทำงาน

 

• การสนับสนุนสมดุลชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) การมีเวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้นช่วยให้พนักงานสามารถใช้เวลากับครอบครัวหรือทำกิจกรรมส่วนตัวได้ดีขึ้น ลดความเครียดจากการเดินทาง

ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับ

 

• ลดอัตราการขาดงานและลาออก: พนักงานที่ได้รับการดูแลสุขภาพจิตมักมีความสุขในการทำงาน และมีแนวโน้มที่จะอยู่กับองค์กรนานขึ้น

 

• เพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน: สุขภาพจิตที่ดีช่วยให้พนักงานรู้สึกพึงพอใจในงานและมีแรงจูงใจที่จะพัฒนาตนเอง

 

• ปรับปรุงภาพลักษณ์องค์กร: บริษัทที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของพนักงานจะได้รับการมองว่าเป็นองค์กรที่ทันสมัยและใส่ใจบุคลากร

ความท้าทายของ Hybrid Working Model

แม้ Hybrid Working Model จะได้รับการยอมรับในฐานะทางเลือกที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ยุคสมัย แต่การนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพยังคงมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ องค์กรและพนักงานจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจนำมาซึ่งปัญหาหลากหลายด้าน ทั้งในเรื่องของการสื่อสาร การบริหารทีม และการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน

 

1.การสื่อสารและการประสานงาน

การทำงานระยะไกลอาจทำให้การสื่อสารไม่ราบรื่นเหมือนการพบปะกันในออฟฟิศ องค์กรควรลงทุนในเทคโนโลยีสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เช่น แพลตฟอร์มสำหรับการประชุมออนไลน์ และส่งเสริมการประชุมทีมอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทุกคนได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน

 

2.ความรู้สึกโดดเดี่ยว

พนักงานบางคนอาจรู้สึกขาดการมีส่วนร่วมในทีมเมื่อไม่ได้เจอกันแบบตัวต่อตัวสร้างกิจกรรมทีมแบบออนไลน์ เช่น Virtual Coffee Break หรือจัดให้มีวันที่ทุกคนมาพบกันในออฟฟิศเป็นประจำเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน

 

3.การบริหารจัดการผลลัพธ์

ผู้จัดการอาจต้องปรับตัวเพื่อวัดผลการทำงานที่เน้นผลลัพธ์มากกว่าการตรวจสอบกระบวนการ

 

4.ความปลอดภัยของข้อมูล

การทำงานระยะไกลเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจากการใช้งานเครือข่ายส่วนตัวและอุปกรณ์ที่หลากหลาย องค์กรควรใช้ระบบความปลอดภัยไซเบอร์ เช่น VPN และการอบรมพนักงานเกี่ยวกับความปลอดภัยทางดิจิทัล

Hybrid Working-SAKID

แนวทางการนำ Hybrid Working Model ไปใช้ในองค์กร

 

สร้างนโยบายที่ชัดเจน องค์กรควรกำหนดนโยบายเกี่ยวกับวันและเวลาที่ต้องมาทำงานในสำนักงาน รวมถึงข้อกำหนดสำหรับการทำงานจากระยะไกล

 

• ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม นำเครื่องมือดิจิทัล เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับการประชุมออนไลน์ (Zoom, Microsoft Teams) และแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกัน (Slack, Monday) มาใช้เพื่อสนับสนุนการทำงาน

 

• สร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบยืดหยุ่น

สนับสนุนให้พนักงานมีอิสระในการจัดการงานของตัวเอง พร้อมทั้งส่งเสริมความไว้วางใจระหว่างทีม

 

• พัฒนาทักษะผู้จัดการ ผู้จัดการควรพัฒนาทักษะในการบริหารทีมที่กระจายตัวอยู่หลายที่ และเน้นการสร้างความผูกพันของทีม

 

อนาคตของการทำงานแบบ Hybrid 

          Hybrid Working Model ไม่ใช่เพียงกระแส แต่เป็นแนวทางที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในโลกของการทำงานยุคใหม่ ซึ่งมุ่งเน้นความยืดหยุ่นและความพึงพอใจของพนักงาน องค์กรที่สามารถปรับตัวและนำระบบนี้ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีความได้เปรียบในการดึงดูดและรักษาคนเก่ง รวมถึงสามารถตอบสนองต่อความท้าทายของโลกการทำงานในอนาคตได้อย่างมั่นคง

          ในท้ายที่สุด ความสำเร็จของ Hybrid Working Model ขึ้นอยู่กับการสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของพนักงานและเป้าหมายขององค์กร การออกแบบระบบที่ยืดหยุ่นแต่มุ่งเน้นผลลัพธ์จะช่วยให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างยั่งยืน

         การทำงานรูปแบบออนไลน์ก็สามารถจัด Workshop ออนไลน์ตอบโจทย์ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องอาหาร สุขภาพ ออกกำลังกาย  สุขภาพใจ โดยผู้เชี่ยวชาญนักกำหนดอาหาร นักวิทยาศาสตร์การกีฬา นักจิตวิทยา และนักกายภาพ นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญสุขภาพให้พนักงานแบบส่วนตัว ราคาพิเศษสำหรับบริษัทที่สามารถให้พนักงานพบกับผู้เชี่ยวชาญแบบ 1 ต่อ 1 ออนไลน์ตามปัญหาสุขภาพต่างๆได้อีกด้วย สุดท้ายแข่งขันสุขภาพดีด้วย SAKIDAPP ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สุขภาพดีกันได้ทั้งบริษัท ขอทดลองใช้ฟรี 7วัน

บทความที่น่าสนใจ

Workshop เริ่มต้นสุขภาพดีทำได้ทุกวัน #workshop3อ #อาหาร

ดูแลสุขภาพพนักงาน ด้วยการให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เรื่องอาหารการกิน , Workshop การกิน , Health talk update ความรู้ ด้านโภชนาการ หรือ Cooking class โดยนักกำหนดอาหารวิชาชีพที่มีประสบการณ์ ตัวอย่างหัวข้อ WORKSHOP ขอใบเสนอราคา วัตถุประสงค์    🟠 เข้าใจและรู้หลักการในการเลือกกินประเภทไขมันให้ดีต่อสุขภาพ  

อ่านต่อ »
Cover WS สุขภาพดีกับสะกิด

WORKSHOP เริ่มต้นสุขภาพดี กับ SAKID

กิจกรรม  Workshop “คลาสโยคะ”

ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม  2566 – 21 กันยายน 2566  SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop “คลาสโยคะ ” กันทุกสัปดาห์เป็นสวัสดิการที่เสริมสร้างร่างกายให้แข้งแรง โดยนักวิทยาศาสตร์การกีฬามาเป็นครูสอนโยคะที่จะพาพนักงานบริษัท ROCHE มายืดเหยียดร่างกายให้ผ่อนคลายเมื่อยจากการนั่งทำงานและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้มีความยืดหยุ่นอีกด้วย

อ่านต่อ »
สวัสดิการบริษัท

5 สวัสดิการบริษัทระดับโลกสุดเจ๋งที่คนรุ่นใหม่สนใจ

สวัสดิการบริษัทที่ดี มีประโยชน์ต่อองค์กรอย่างไรบ้าง? แนะนำ 5 สวัสดิการพนักงานที่น่าสนใจ ที่บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกใช้จูงใจให้คนรุ่นใหม่มาร่วมงานด้วย

อ่านต่อ »
Cover-sakid-เขตราษฎร์บูรณะ

บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตราษฎร์บูรณะ

บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตเขตราษฎร์บูรณะ

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 Sakid ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิดให้กับการไฟฟ้านครหลวง เขตเขตราษฎร์บูรณะ ในกิจกรรม Fun for Fit เพื่อแนะนำการเข้าร่วมโครงการ  “MEA เบิร์นเกินร้อย” เปิดศึกการแข่งกันระหว่างทีมเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี ด้วยการส่งภารกิจสุขภาพผ่านแอพสะกิด และลุ้นรับของรางวัลในแต่ละเดือน

อ่านต่อ »
ประเมินการยศาสตร์ Ergonomics-SAKID

ประเมินการยศาสตร์ Ergonomics Workshop

กิจกรรม  Workshop “ประเมินการยศาสตร์ Ergonomics Workshop”

เมื่อวันที่ 27  มีนาคม  2568  SAKID  ได้จัดกิจกรรม “ประเมินการยศาสตร์ Ergonomics Workshop” ที่สำนักงาน บริษัท ภิรัช โดยนักกายภาพบำบัดที่จะมาสอนความรู้เรื่องการจัดท่านั่งในการทำงานให้กับพนักงาน โดยอาการที่ส่งสัญญาณของออฟฟิศซินโดรมและวิธีในการป้องกันการบาดเจ็บกล้ามเนื้อในระยะยาว สาเหตุของการกระทำที่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ เมื่อย ล้า ให้บรรเทาลง ปรับท่าแก้ปัญหาไหล่ห่อ คอยื่น ท่ากายบริหารที่สามารถทำได้ในที่ทำงานเพื่อคลายกกล้ามเนื้อ ประเมินการยศาสตร์รายบุคคลเพื่อปรับการนั่งทำงานให้ถูกต้อง

อ่านต่อ »
ดูแลพนักงานGenZ-SAKID

การดูแลพนักงานเจนใหม่ Gen Z ด้วยแนวทางจิตวิทยา

ในยุคปัจจุบัน พนักงานกลุ่ม Gen Z และ Millennials กลายเป็นกำลังสำคัญขององค์กรทั่วโลก ด้วยความที่ทั้งสองกลุ่มเติบโตมาในยุคที่เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมีบทบาทสำคัญ พวกเขามีมุมมองต่อชีวิต การทำงาน และความสำเร็จที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน การจัดการคนกลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องเข้าใจจิตวิทยาและพฤติกรรมเฉพาะตัวของพวกเขา เพื่อสร้างความผูกพันและดึงศักยภาพออกมาให้ได้มากที่สุด

อ่านต่อ »