MBTI ถอดบุคลิกภาพ ไขความสำเร็จในการทำงานร่วมกัน
- 26/04/24
คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดกับเพื่อนร่วมงานที่มีบุคลิกตรงข้ามกับคุณไหม คุณอาจเป็นคนเปิดเผย ชอบความตื่นเต้น แต่ต้องมาทำงานกับคนเงียบขรึม ชอบทำอะไรคนเดียว บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัดแย้งและไม่เข้าใจกันได้ ความแตกต่างทางบุคลิกภาพเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ไม่ใช่อุปสรรคที่ทำให้เราทำงานร่วมกันไม่ได้ หากเรามีความเข้าใจและยอมรับซึ่งกันและกัน
MBTI คืออะไร
MBTI (Myers-Briggs Type Indicator) คือ แบบทดสอบบุคลิกภาพชื่อดังที่จะมาช่วยสร้างความเข้าใจนี้ได้ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินรูปแบบการรับรู้และตัดสินใจของบุคคล พัฒนาขึ้นโดย Katharine Cook Briggs และ Isabel Briggs Myers ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยอิงจากทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของ Carl Jung (The Myers & Briggs Foundation, 2021)
4 มิติหลักของ MBTI
MBTI แบ่งบุคลิกภาพออกเป็น 16 แบบ โดยจำแนกตามมิติหลัก 4 คู่ ได้แก่
1.Introversion (I) / Extraversion (E) หรือ การเน้นโลกภายใน/ภายนอก
▶Introvert จะให้ความสำคัญกับโลกภายในและความคิดของตนเอง ชอบใช้เวลาทำงานคนเดียว เครียดและรู้สึกสูญเสียพลังงานง่ายเมื่ออยู่ในท่ามกลางผู้คนจำนวนมากเป็นเวลานาน
▶Extravert จะให้ความสำคัญกับโลกภายนอกและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ชอบทำงานเป็นทีมและพบปะผู้คน กระปรี้กระเปร่าและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คน แต่หากอยู่คนเดียวนานๆจะรู้สึกเบื่อหงอย
2.Sensing (S) / Intuition (N) หรือ การรับรู้ผ่านประสาทสัมผัส/สัญชาตญาณ
▶Sensing จะให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เป็นรูปธรรม รับรู้ผ่านสิ่งที่มองเห็นและจับต้องได้ ชอบทำตามขั้นตอนและแก้ปัญหาด้วยวิธีที่เคยใช้ได้ผลและแก้ปัญหาด้วยวิธีที่เคยใช้ได้ผล
▶Intuition จะให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เป็นนามธรรม ความคิด จินตนาการ ความเป็นไปได้ในอนาคต ชอบคิดนอกกรอบแบบองค์รวม
3.Thinking (T) / Feeling (F) หรือ การตัดสินใจด้วยเหตุผล/ความรู้สึก
▶Thinking จะใช้เหตุผล ตรรกะ มาตรฐานเป็นเกณฑ์ตัดสินใจ ให้ความสำคัญกับความถูกต้องมากกว่าความรู้สึกของคน
▶Feeling จะใช้ความรู้สึก ค่านิยม ความเห็นอกเห็นใจเป็นเกณฑ์ตัดสินใจ ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และผลกระทบต่อคน
4.Judging (J) / Perceiving (P) หรือ การเน้นการตัดสินใจ/รับรู้ข้อมูล
▶Judging เน้นความมั่นคง แน่นอน ชัดเจน ชอบวางแผน ตัดสินใจเร็ว ไม่ชอบความเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอน
▶Perceiving เน้นความยืดหยุ่น ปรับตัว เปิดกว้าง ชอบความเป็นไปได้ใหม่ๆ เก็บข้อมูลนานกว่าจะตัดสินใจได้
จุดเด่นของ MBTI
จุดเด่นของ MBTI คือการอธิบายลักษณะเฉพาะและศักยภาพของแต่ละแบบบุคลิกภาพ ในเชิงบวกและเป็นกลาง ไม่ได้ตัดสินว่าแบบใดดีหรือเลวกว่ากัน เช่น คน Introvert ก็มีจุดแข็งในการคิดวิเคราะห์ส่วนตัวได้ลึกซึ้ง มีสมาธิจดจ่อ ส่วนคน Extravert จะมีจุดแข็งในการสื่อสาร ทำงานเป็นทีม สร้างแรงจูงใจ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็มีคุณค่าในตัวเอง
การประยุกต์ใช้ MBTI ในที่ทำงาน
• การประยุกต์ใช้ MBTI ในที่ทำงาน สามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น การใช้เป็นเครื่องมือในการรู้จักตนเองและผู้อื่นมากขึ้น
• การสื่อสารและปรับปฏิสัมพันธ์ให้เหมาะกับแต่ละคน
• การจัดทีมและมอบหมายงานตามจุดแข็ง
• การเลือกงานและพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับธรรมชาติของตน
• การพัฒนาภาวะผู้นำแบบรอบด้าน
เมื่อเรามีความเข้าใจบุคลิกภาพที่หลากหลายมากขึ้น ก็จะสามารถปรับตัว สื่อสาร และทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น นำไปสู่ความร่วมมือที่ราบรื่น บรรยากาศการทำงานที่ดี และทีมเวิร์คที่แข็งแกร่งในที่สุด (Montequín et al., 2012)
เคล็ดลับออกแบบกิจกรรมที่ตอบโจทย์ความหลากหลายทางบุคลิกภาพของพนักงาน
ในการจัดกิจกรรมสร้างทีมภายในองค์กร ก็ควรคำนึงถึงความชอบที่แตกต่างของแต่ละบุคลิกภาพด้วย สำหรับคนที่เป็น Extrovert ซึ่งชอบความตื่นเต้น ท้าทาย การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน กิจกรรมที่เหมาะกับพวกเขา ก็เช่น การเล่นเกมแข่งขันเป็นทีม การระดมสมอง การร่วมกิจกรรมกลางแจ้ง การสังสรรค์พูดคุย การนำเสนอผลงาน เป็นต้น (WorkStyle, 2019a)
ในทางกลับกัน คนที่เป็น Introvert ซึ่งชอบใช้เวลากับตัวเอง ทำงานที่ต้องใช้สมาธิ ไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง กิจกรรมที่เหมาะกับพวกเขา ก็เช่น การประชุมกลุ่มย่อย โปรเจกต์ที่ได้ทำคนเดียว การวิเคราะห์ข้อมูล การเขียนรายงาน การเล่นเกมไขปริศนา เป็นต้น (WorkStyle, 2019b)
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรแบ่งกิจกรรมแยกจากกันเสียทีเดียว แต่ควรสร้างสมดุล ออกแบบให้มีทั้งกิจกรรมที่ Introvert และ Extrovert ได้แสดงจุดแข็ง เรียนรู้จากกัน และหลอมรวมความแตกต่างให้กลายเป็นพลังของทีม เช่น เวลาที่ต้องประชุมงานกับทีมที่มีทั้งคน Introvert และ Extrovert เราอาจจัดเป็นการประชุมกลุ่มย่อย ให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น จดบันทึก แล้วค่อยนำมาอภิปรายร่วมกันทั้งทีมอีกครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้คน Introvert ได้มีเวลาคิดทบทวนตามลำพัง ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาต้องพูดต่อหน้าคนมาก ๆ ขณะเดียวกันคน Extrovert ก็ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนแบบเผชิญหน้าบ้าง เป็นการตอบโจทย์ทั้งสองแบบ
ข้อจำกัดของ MBTI ที่ควรระวัง
แม้ MBTI จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบุคลิกภาพที่น่าสนใจ แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรระวัง เช่น ผลการทดสอบอาจไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับอารมณ์และช่วงเวลาที่ทำ จึงควรลองทำซ้ำเพื่อยืนยัน และใช้เป็นแนวทางในการทำความเข้าใจตนเองมากกว่าเป็นการตีตราตายตัว (Gardner & Martinko, 1996) นอกจากนี้ MBTI อาจไม่ครอบคลุมความซับซ้อนและปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อบุคลิกภาพและพฤติกรรม เช่น ค่านิยม แรงจูงใจ ประสบการณ์ วัฒนธรรม เป็นต้น หากต้องการเข้าใจเชิงลึกมากขึ้น อาจต้องศึกษาทฤษฎีการทำงานของสมอง (Cognitive Functions) ที่อยู่เบื้องหลัง MBTI ซึ่งจะอธิบายกระบวนการรับรู้และตัดสินใจที่ซับซ้อนมากกว่าแค่ 4 มิติ
บทสรุป
สรุปแล้ว MBTI นับเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความเข้าใจและการทำงานร่วมกันท่ามกลางความหลากหลายในที่ทำงานได้เป็นอย่างดี ช่วยให้พนักงานรู้จักตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น ปรับตัวและสื่อสารได้อย่างเหมาะสม องค์กรก็ได้ประโยชน์จากการจัดกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทุกคน สร้างการมีส่วนร่วมและความสามัคคี อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องไม่ใช้ MBTI ในการตัดสินคุณค่าของใคร แต่ใช้เพื่อเรียนรู้ที่จะเข้าใจ เคารพ และให้เกียรติความเป็นปัจเจกบุคคลของกันและกัน เมื่อทุกคนในองค์กรเปิดใจยอมรับและร่วมมือกัน ว่าความแตกต่างทางบุคลิกภาพเป็นเรื่องธรรมชาติในที่ทำงาน ความแตกต่างจะกลายเป็นประโยชน์ในการสร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลาย ช่วยผลักดันให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป หรือหากอยากส่งเสริมความเข้าใจกันมากขึ้นให้ SAKID ช่วยจัด Workshop หรือใช้งาน SAKID application เพื่อทำภารกิจแข่งขันกันระหว่างทีม ตัวช่วยในการสร้างความรู้จักกัน
References:
-Gardner, W. L., & Martinko, M. J. (1996). Using the Myers-Briggs Type Indicator to study managers: A literature review and research agenda. Journal of Management, 22(1), 45–83. https://doi.org/10.1177/014920639602200103
-Montequín, V. R., Fernández, J. M., Balsera, J. V., & Nieto, A. G. (2012). Using MBTI for the success assessment of engineering teams in project-based learning. International Journal of Technology and Design Education, 23(4), 1127–1146. https://doi.org/10.1007/s10798-012-9229-1
-The Myers & Briggs Foundation. (2021). MBTI® Basics. The Myers & Briggs Foundation. https://www.myersbriggs.org/my-mbti-personality-type/mbti-basics/
-(2019a, September 20). 5 team building ideas for extroverts. WorkStyle. https://workstyle.io/5-team-building-ideas-extroverts/
-(2019b, September 27). 5 team building ideas for introverts. WorkStyle. https://workstyle.io/5-team-building-ideas-introverts/
บทความที่น่าสนใจ
7 สัญญาณพนักงานไม่แฮปปี้ที่ไม่ควรมองข้าม
ความสุขในที่ทำงานเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและความสำเร็จขององค์กร แต่เมื่อพนักงานเริ่มขาดรอยยิ้มในการทำงาน ผลกระทบด้านลบที่ตามมาอาจสร้างความเสียหายให้กับผลการดำเนินงานได้อย่างมหาศาล บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 7 สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกถึงความไม่แฮปปี้ของพนักงานในองค์กร ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมแนะนำวิธีการช่วยเหลือและจัดการกับปัญหาเหล่านี้ เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปี่ยมไปด้วยความสุข และนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน
การดูแลพนักงานเจนใหม่ Gen Z ด้วยแนวทางจิตวิทยา
ในยุคปัจจุบัน พนักงานกลุ่ม Gen Z และ Millennials กลายเป็นกำลังสำคัญขององค์กรทั่วโลก ด้วยความที่ทั้งสองกลุ่มเติบโตมาในยุคที่เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมีบทบาทสำคัญ พวกเขามีมุมมองต่อชีวิต การทำงาน และความสำเร็จที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน การจัดการคนกลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องเข้าใจจิตวิทยาและพฤติกรรมเฉพาะตัวของพวกเขา เพื่อสร้างความผูกพันและดึงศักยภาพออกมาให้ได้มากที่สุด
บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตคลองเตย
กิจกรรม “Healthy Workshop”
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 Sakid ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิดให้กับการไฟฟ้านครหลวง เขตคลองเตย ในกิจกรรม Fun for Fit เพื่อแนะนำการเข้าร่วมโครงการ “MEA เบิร์นเกินร้อย” เปิดศึกการแข่งกันระหว่างทีมเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี ด้วยการส่งภารกิจสุขภาพผ่านแอพสะกิด ภายในงานได้รับความสนใจจากพนักงานเป็นจำนวนมาก
8 ทริคดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้ว
การดื่มน้ำเป็นสิ่งที่หลายคนมักมองข้าม ทั้งๆ ที่น้ำคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำถึง 60% การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันไม่เพียงแค่ช่วยให้ทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น สมอง หัวใจ และกล้ามเนื้อ ทำงานได้อย่างปกติ แต่ยังช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น ผิวฉ่ำ ปากชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน ในทางกลับกัน หากเราดื่มน้ำน้อยเกินไป อาจส่งผลให้ท้องผูก ปวดหัว สมองทำงานช้าลง เหนื่อยล้า โฟกัสกับการทำงานได้ลดลง ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
SMART GOAL ตั้งเป้าหมายอย่างไร ให้สำเร็จ
รู้จักหลักการตั้งเป้าหมายแบบ SMART GOAL “ชัด วัดได้ ใกล้ ใช่ และมีละอ้างอิงเวลา”
เริ่มต้นเรื่องสุขภาพ หลายคนอาจมีเป้าหมายว่า อยากลดน้ำหนัก แต่ตั้งไว้แค่นั้น หากไม่ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม ก็จะทำให้เป้าหมายมีโอกาสสำเร็จได้น้อยลงมาได้ ดังนั้น เราสามารถตั้งเป้าหมายโดยใช้หลัก SMART GOAL ได้นั่นเลย
15 วิธีสังเกตภาวะหมดไฟภายในองค์กร (Burnout Syndrome)
ทุกวันนี้รูปแบบการทำงานที่รวดเร็วและแข่งขันกันสูง ทำให้พนักงานในองค์กรเกิดภาวะหมดไฟเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ลักษณะของภาวะหมดไฟอย่างความเหนื่อยหน่ายเรื้อรัง ความรู้สึกด้านชา เป็นสิ่งที่คอยบั่นทอนและลดประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงต่อทั้งพนักงานและองค์กร