URL Copied!

7 สัญญาณพนักงานไม่แฮปปี้ที่ไม่ควรมองข้าม

              ความสุขในที่ทำงานเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและความสำเร็จขององค์กร แต่เมื่อพนักงานเริ่มขาดรอยยิ้มในการทำงาน ผลกระทบด้านลบที่ตามมาอาจสร้างความเสียหายให้กับผลการดำเนินงานได้อย่างมหาศาล บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 7 สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกถึงความไม่แฮปปี้ของพนักงานในองค์กร ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมแนะนำวิธีการช่วยเหลือและจัดการกับปัญหาเหล่านี้ เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปี่ยมไปด้วยความสุข และนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

7-สัญญาณพนักงานที่ไม่แฮปปี้

7 สัญญาณพนักงานไม่แฮปปี้

 

  1. แสดงความไม่พอใจหรือบ่นเกี่ยวกับงานบ่อยครั้ง
    เมื่อพนักงานเริ่มแสดงความไม่พอใจ ไม่ว่าจะเป็นการบ่นหรือวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับงาน เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือบริษัทอยู่บ่อยๆ นั่นเป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งว่าพวกเขากำลังรู้สึกไม่มีความสุขและอาจกำลังคิดที่จะลาออกในอนาคตอันใกล้ (Branham, 2012) โดยเฉพาะหากความถี่หรือความรุนแรงของการแสดงความไม่พอใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้บริหารควรใส่ใจและรีบหาทางพูดคุยกับพนักงานเพื่อทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือแก้ไขอย่างเหมาะสม ก่อนที่พนักงานจะตัดสินใจลาออกไปจริงๆ

 

  1. ผลงานตกต่ำ

เมื่อพนักงานไม่มีแรงจูงใจหรือขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน ผลงานของพวกเขาก็มักจะตกต่ำตามไปด้วย พนักงานอาจจะเริ่มผลัดวันประกันพรุ่ง ส่งงานไม่ทันเวลา หรือทำผิดพลาดบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาความไม่แฮปปี้ของพนักงาน (Jex & Britt, 2014)

 

  1. ขาดงานบ่อย

ปัญหาการขาดงานบ่อยของพนักงานเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพนักงานมีอัตราการขาดงานที่สูงผิดปกติ นั่นอาจหมายความว่าพวกเขากำลังหลีกเลี่ยงที่จะมาทำงาน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านสุขภาพจิตหรือไม่พอใจในงานก็ตาม (Johns, 2008) 

 

  1. มีทัศนคติในแง่ลบ

เมื่อพนักงานแสดงทัศนคติเชิงลบ เช่น บ่นหรือวิพากษ์วิจารณ์บริษัท เพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้าอยู่บ่อยๆ แสดงว่าพวกเขากำลังมีความไม่พอใจหรือไม่มีความสุขกับบางสิ่งบางอย่างในที่ทำงาน ทัศนคติที่เป็นลบเช่นนี้อาจแพร่กระจายไปยังพนักงานคนอื่นๆ และสร้างบรรยากาศที่ไม่ดีในที่ทำงานได้ (Robbins & Judge, 2018)

 

  1. ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง

เมื่อองค์กรมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เช่น การปรับโครงสร้างองค์กร การเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงาน หรือการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ หากพนักงานแสดงท่าทีต่อต้านหรือไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าพวกเขากำลังรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือหวาดกลัวผลกระทบที่จะเกิดขึ้น (Oreg, 2003)

 

  1. แยกตัวหรือไม่มีส่วนร่วม

หากพนักงานที่เคยมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือการประชุมต่างๆ ขององค์กรเริ่มแยกตัว ไม่ยอมเข้าร่วมกิจกรรม หรือไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าพวกเขากำลังรู้สึกไม่มีส่วนร่วมหรือไม่มีความผูกพันกับองค์กรอีกต่อไป (Macey & Schneider, 2008)

 

  1. แสดงอาการเครียดหรือหมดไฟในการทำงาน

พนักงานที่แสดงอาการเครียด วิตกกังวล หรือหมดไฟในการทำงาน อาจส่งสัญญาณออกมาผ่านทางร่างกาย เช่น ง่วงนอนบ่อย ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หรือมีอารมณ์แปรปรวน สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ว่ากำลังเผชิญความเครียดสะสมจากที่ทำงาน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พนักงานไม่มีความสุข (O’Driscoll & Cooper, 2002)

       หากคุณสังเกตเห็นสัญญาณเตือนเหล่านี้เกิดขึ้นในหมู่พนักงานของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องให้ความสนใจและลงมือแก้ไขอย่างทันท่วงที หาโอกาสพูดคุยกับพนักงานเพื่อทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา

 

       การสื่อสารและรับฟังปัญหาของพนักงาน รวมถึงการให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างจริงใจ เช่น การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานและเพิ่มสวัสดิการ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าได้รับการดูแลและเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มความผูกพันของพนักงานและป้องกันไม่ให้ปัญหารุนแรงมากขึ้นในอนาคต

 

       นอกจากนี้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ สามารถช่วยให้คุณวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของปัญหา พร้อมวางแผนกลยุทธ์เพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาอย่างเป็นระบบ

       การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน การพัฒนาสวัสดิการ และการส่งเสริมการสื่อสารระหว่างผู้บริหารและพนักงาน ผ่านคำแนะนำจากทีมที่ปรึกษามืออาชีพด้านจิตวิทยาองค์กรจาก SAKID application จะนำไปสู่การสร้างความผูกพันและความสุขในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการและการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรในระยะยาว หรือเริ่มจากจัดกิจกรรม Workshop การจัดการความเครียด หรือสร้างสมดุลชีวิต เพื่อให้ได้สำรวจตนเอง และแนวทางการจัดการ หรือสวัสดิการปรึกษานักจิตวิทยาเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้ระบายความรู้สึก มีคนคอยรับฟังอย่างเข้าใจ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

 

        โดยสรุป 7 สัญญาณอันตรายของพนักงานที่ไม่มีความสุขที่ทุกองค์กรไม่ควรมองข้าม ได้แก่ การแสดงความไม่พอใจบ่อยครั้ง ผลงานตกต่ำ ขาดงานบ่อย มีทัศนคติด้านลบ ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง แยกตัวและไม่มีส่วนร่วม รวมถึงมีอาการเครียดและหมดไฟในการทำงาน หากองค์กรสังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องรีบหาทางแก้ไข ด้วยการสื่อสารและรับฟังพนักงาน พร้อมปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานและสวัสดิการ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความผูกพันและความสุขให้กับพนักงาน และส่งผลดีต่อความสำเร็จขององค์กรในระยะยาว

References:
Branham, L. (2012). The 7 hidden reasons employees leave: How to recognize the subtle signs and act before it’s too late (2nd ed.). AMACOM.

Jex, S. M., & Britt, T. W. (2014). Organizational psychology: A scientist-practitioner approach (3rd ed.). Wiley.

 

Johns, G. (2008). Absenteeism or presenteeism? Attendance dynamics and employee well-being. In S. Cartwright & C. L. Cooper (Eds.), The Oxford handbook of organizational well-being (pp. 7-30). Oxford University Press.

 

Macey, W. H., & Schneider, B. (2008). The meaning of employee engagement. Industrial and Organizational Psychology, 1(1), 3-30.

 

O’Driscoll, M. P., & Cooper, C. L. (2002). Job-related stress and burnout. In P. Warr (Ed.), Psychology at work (pp. 203-228). Penguin.

 

Oreg, S. (2003). Resistance to change: Developing an individual differences measure. Journal of Applied Psychology, 88(4), 680-693.

 

Robbins, S. P., & Judge, T. A. (2018). Organizational behavior (18th ed.). Pearson

 

บทความที่น่าสนใจ

Cover-จัดสวนขวด-sakid

WORKSHOP สวนขวดจิ๋ว

กิจกรรม  “จัดสวนขวด Terrarium”

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop “จัดสวนขวด Terrarium”  ให้กับบริษัทเอสพี อินเตอร์แมค โดย Green Terra Station ภายในงานผู้เข้าร่วมได้จัดสวนขวดด้วยตนเอง ได้ทั้งความสนุก และความผ่อนคลาย พร้อมทั้งรับสวนขวดตามแบบฉบับของตนเองกลับไปอีกด้วย  

อ่านต่อ »
เมื่อคนในองค์กรน้ำหนักเกิน-01-SAKID

ทำอย่างไร เมื่อคนในองค์กรน้ำหนักเกิน

 ปัจจุบันในประเทศไทยพบว่าแนวโน้มภาวะ น้ำหนักเกิน และ ภาวะอ้วนเพิ่งสูงขึ้น ซึ่งสาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป ร่วมกับ activity ที่ลดลง เป็นตัวส่งเสริมให้เรามีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพนักงงาน office อย่างเราๆ ที่ Activity นั้นแสนจะน้อยนิด ส่วนใหญ่ก็นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ จนหลายคนเกิดปัญหาเรื่อง Office syndrome ตามมา

อ่านต่อ »
กินอยู่อย่างไร ห่างไกล NCDs-SAKID

WORKSHOP กินอยู่อย่างไร ห่างไกล NCDs

กิจกรรม กินอยู่อย่างไร ห่างไกล NCDs

วันที่ 26 สิงหาคม  2567 SAKID  ได้จัดกิจกรรม กินอยู่อย่างไรห่างไกลโรคNCDs กับ SAKID ที่บริษัท ทาทาสตีล (การผลิต) จ.สระบุรี โดยจะมีกิจกรรมวัดองค์ประกอบร่างกาย และWorkshop เกี่ยวกับการเลือกอาหารในชีวิตประจำวันโดยจะเน้นไปที่การลดน้ำหนักและไขมันในเลือด ให้พนักงานได้นำไปใช้ได้จริง การอ่านฉลากแบบง่ายๆ การเลือกกินอาหารแบบ 2-1-1 เน้นโปรตีนและผัก การเลือกกินคาร์โบไฮเดรตในสัดส่วนที่ถูกต้อง เพื่อรักษาการกินที่สมดุลให้เหมาะกับสภาวะร่างกายของแต่คนให้ถูกต้อง

อ่านต่อ »
_เก็บออม-หรือเพิ่มรายได้-จุดไหนเราควรจะโฟกัส-SAKID

เก็บออมหรือเพิ่มรายได้ จุดไหนเราควรจะโฟกัส

 ในสถานการณ์ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2565 ที่มีจำนวนผู้สูงอายุราวร้อยละ 20-30 และไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอดเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 28 ในปี 2574 จึงเป็นส่วนหนึ่งให้คนวัยทำงานเริ่มวางแผนทางการเงิน เพื่อให้พร้อมรับกับวัยเกษียณที่จะมาถึง ซึ่งมีทั้งเก็บออมเงินจากการทำงานในปัจจุบัน หรือเลือกที่จะหาช่องทางเพิ่มรายได้ แล้วแบบไหนที่ควรจะเลือกดี

อ่านต่อ »
Cooking-Saladroll-SAKID

WORKSHOP Cooking class สลัดโรล

กิจกรรม  Cooking class สลัดโรล

วันที่ 20 สิงหาคม  2567 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Cooking class สลัดโรล ที่บริษัท CBRE โดยพนักงานได้เข้าร่วมจำนวน 40 คน ซึ่งนักกำหนดอาหารวิชาชีพ ได้เป็นผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบและมีทริคการดูแลสุขภาพด้านอาหารสำหรับชาวออฟฟิศให้เล่นเกมสุขภาพพร้อมรับของรางวัลกันอีกด้วย คลาสสอนทำสลัดโรลจะแบ่งทำเป็น 2เมนูคือ สลัดโรลเต้าหู้ กับ สลัดโรลปลาทูนึ่ง โดยทั้งสองเมนูจะใช้รสชาติจากผักและสมุนไพรเป็นหลักเพื่อสุขภาพที่ดีและน้ำจิ้มสูตรโซเดียมต่ำ อร่อยได้ง่ายๆ และสามารถนำกลับไปทำเองได้ที่บ้านได้

อ่านต่อ »
Office syndrome- ฉบับวัยทำงาน-SAKID

รู้เท่าทัน OFFICE SYNDROME ฉบับวัยทำงาน

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การทำงานในออฟฟิศกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับคนในสังคม ความสะดวกสบายที่เข้ามาแทนที่ ทำให้เราไม่ได้ปรับเปลี่ยนท่าทาง กลายเป็นต้องทำงานอยู่ในท่าใดท่าหนึ่ง ท่าเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานในบริษัท หรือองค์กร

อ่านต่อ »