
สร้าง Employee Wellbeing อย่างไร ให้พนักงานสุขภาพดี
- 07/10/25
Employee Wellbeing หรือ “สุขภาวะพนักงาน” หมายถึง สภาวะที่พนักงานมีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และการทำงานอย่างมีความสุข ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุว่า “สุขภาวะที่ดีไม่ใช่แค่การไม่มีโรค แต่คือการมีชีวิตที่สมบูรณ์ในทุกมิติ”
บทความนี้อยากชวนทุกคน โดยเฉพาะ HR และผู้บริหาร มาทำความเข้าใจว่า Employee Wellbeing หรือสุขภาวะพนักงานคืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับองค์กร และจะเริ่มสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดูแลกันมากขึ้นได้อย่างไร พร้อมแชร์ไอเดียกิจกรรมและแนวทางที่ทำได้จริงในทุกองค์กร
4 มิติสุขภาวะพนักงานที่องค์กรไม่ควรมองข้าม
1. Physical Wellbeing – สุขภาพกายที่แข็งแรง
พนักงานที่มีสุขภาพร่างกายดีจะมีพลังในการทำงานมากกว่า HR สามารถเริ่มจากกิจกรรมง่าย ๆ เช่น
• จัดโปรแกรม “อาหารสุขภาพในที่ทำงาน” โดยนักกำหนดอาหาร
• มีช่วง “Active Break” ให้พนักงานลุกยืดเส้นยืดสายทุกวัน
• ใช้แอปติดตามพฤติกรรมสุขภาพ เช่น SAKID เพื่อช่วยให้พนักงานเห็นพฤติกรรมสุขภาพของตัวเอง
อ่านต่อ: Workplace Wellness Program คืออะไร สร้างสถานที่ทำงานให้ดีต่อใจ
2. Mental Wellbeing – สุขภาพใจที่สมดุล
สุขภาพจิตของพนักงานมีผลโดยตรงต่อคุณภาพงาน การมีพื้นที่ให้พนักงานได้ระบายความเครียดและพูดคุยอย่างปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เช่น
• มีโปรแกรม EAP (Employee Assistance Program) ให้คำปรึกษาจากนักจิตวิทยา
• จัด Workshop mindfulness หรือ “คลายเครียดในที่ทำงาน”
• สนับสนุนวัฒนธรรม “เปิดใจพูดคุย” และ Feedback ที่สร้างสรรค์
อ่านต่อ: EAP คืออะไร เครื่องมือช่วยสุขภาพใจพนักงานในองค์กร
3. Social Wellbeing – ความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมในองค์กร
พนักงานที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานจะมีแรงจูงใจและความสุขมากขึ้น
องค์กรสามารถส่งเสริมได้ด้วยการ:
• จัดกิจกรรม Team Building หรือ Healthy Challenge
• ใช้ระบบ “สะกิดแก๊ง” ของ SAKID เพื่อสร้างกลุ่มเพื่อนดูแลสุขภาพร่วมกัน
• ส่งเสริมบรรยากาศทำงานแบบเปิดกว้างและไม่แบ่งชนชั้น
อ่านต่อ: Employee Engagement เทคนิคสานสัมพันธ์พนักงานและองค์กร
4. Career & Financial Wellbeing – สุขภาวะด้านอาชีพและการเงิน
เมื่อพนักงานรู้สึกมั่นคงและมีโอกาสเติบโตในงาน พวกเขาจะทุ่มเทกับองค์กรอย่างเต็มที่ HR สามารถช่วยได้โดย:
• จัดอบรมพัฒนาทักษะ (Skill Champion Program)
• สนับสนุนให้พนักงานวางแผนการเงินระยะยาว
• กำหนดเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพที่ชัดเจน

เปลี่ยนการดูแลสุขภาพให้กลายเป็นวัฒนธรรมของทีม
หลายองค์กรเริ่มมีกิจกรรมดูแลสุขภาพอยู่แล้ว เช่น ตรวจสุขภาพประจำปีหรือจัดออกกำลังกายเป็นครั้งคราว แต่สิ่งที่ทำให้ Employee Wellbeing เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนจริง ๆ ไม่ใช่ “กิจกรรมครั้งเดียว” — มันคือการทำให้ “สุขภาพ” กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการทำงาน
สิ่งที่ HR และหัวหน้างานสามารถเริ่มทำได้คือ
• เริ่มจากผู้นำก่อน
เมื่อหัวหน้าทีมหรือผู้บริหารแสดงให้เห็นว่าเรื่องสุขภาพสำคัญ เช่น ออกกำลังกายด้วยกัน เข้าร่วมกิจกรรมสุขภาพ หรือพูดถึงความเครียดได้อย่างเปิดใจ พนักงานก็จะรู้สึกว่าการดูแลตัวเองไม่ใช่เรื่องไกลตัว
• สร้างพื้นที่ให้พูดคุยได้อย่างปลอดภัย
พนักงานหลายคนไม่กล้าแชร์ว่ากำลังเหนื่อย หรือเครียดกับงาน เพราะกลัวถูกมองว่าไม่แข็งแกร่ง การมีพื้นที่พูดคุยที่ไม่ตัดสิน เช่น กล่องข้อความนิรนาม หรือวงพูดคุยสบาย ๆ เดือนละครั้ง จะช่วยให้พนักงานรู้ว่าพวกเขาไม่ต้องรับมือคนเดียว
• สอดแทรกสุขภาพในชีวิตประจำวัน
ไม่ต้องรอให้ถึงกิจกรรมใหญ่ ก็สามารถใส่ความใส่ใจเล็ก ๆ ได้ เช่น มีผลไม้สดในห้องพักพนักงาน ตั้งช่วง “ยืดเส้น 5 นาที” ในแต่ละวัน หรือส่งข้อความให้กำลังใจผ่านช่องทางภายในองค์กร
• ชื่นชมและให้รางวัลกับพฤติกรรมสุขภาพดี
แทนที่จะให้รางวัลเฉพาะยอดขาย ลองเพิ่มการชื่นชมคนที่ดูแลสุขภาพดีหรือชวนทีมออกกำลังกาย เพราะการได้รับการยอมรับจะช่วยให้พนักงานรู้ว่าการดูแลตัวเองก็มีคุณค่าไม่แพ้การทำงานหนัก
เมื่อองค์กรเริ่มมองสุขภาพเป็นเรื่องของ “ทีม” ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวของใครคนหนึ่ง Employee Wellbeing ก็จะค่อย ๆ กลายเป็นวัฒนธรรมที่ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนร่วมโดยธรรมชาติ
ตัวอย่างกิจกรรมและแนวทางวัดผล Employee Wellbeing
การสร้าง Employee Wellbeing ให้เกิดขึ้นจริงในองค์กร ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากโครงการใหญ่เสมอไป แต่อาจเริ่มจากกิจกรรมเล็ก ๆ ที่ต่อเนื่องและวัดผลได้ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้ HR และผู้บริหารเห็นความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสุขภาพและความสุขของพนักงานได้จริง
ตัวอย่างกิจกรรมที่องค์กรสามารถนำไปใช้ ได้แก่
• กิจกรรม Healthy Challenge
ส่งเสริมให้พนักงานลุกขึ้นมาเคลื่อนไหว เช่น เดินให้ครบ 10,000 ก้าวต่อวัน หรือแข่งออกกำลังกายภายในทีม เพื่อสร้างแรงจูงใจและความสัมพันธ์ที่ดีในทีม
• Workshop “อาหารสุขภาพในที่ทำงาน”
จัดเวิร์กช็อปสั้น ๆ ที่สอนหลักโภชนาการง่าย ๆ จากนักกำหนดอาหาร ช่วยให้พนักงานเข้าใจการเลือกอาหารในแต่ละวัน และเริ่มปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสมกับงานที่ทำ
• EAP Consultation หรือการให้คำปรึกษาสุขภาพจิต
เปิดช่องทางให้พนักงานได้พูดคุยกับนักจิตวิทยาหรือโค้ชสุขภาพ เพื่อระบายความเครียดและจัดการอารมณ์อย่างเหมาะสม องค์กรที่มีบริการลักษณะนี้มักพบว่าผลผลิตงานและความพึงพอใจของพนักงานเพิ่มขึ้น
• แบบสำรวจความสุขพนักงาน (Happiness Survey)
HR สามารถใช้แบบสอบถามประเมินระดับความสุข ความเครียด และแรงจูงใจของพนักงานเป็นระยะ เพื่อใช้ข้อมูลมาปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานและวัฒนธรรมองค์กรให้ตอบโจทย์มากขึ้น
สำหรับแนวทางวัดผล ควรดูทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เช่น การสังเกตการขาดงานที่ลดลง ผลงานที่ดีขึ้น หรือบรรยากาศการทำงานที่เป็นมิตรขึ้น รวมถึงฟีดแบ็กจากพนักงานโดยตรงว่ารู้สึกมีพลังและมีความสุขในการทำงานมากขึ้นหรือไม่

Checklist Employee Wellbeing
✅ ประเมินสุขภาพและความเครียดพนักงานผ่านแบบสำรวจ
✅ จัดตั้งทีมดูแล Workplace Wellness โดยเฉพาะ
✅ ออกแบบกิจกรรมให้ครอบคลุม 4 มิติ
✅ ตั้งเป้าหมายและตัวชี้วัด (KPI)
✅ ใช้เครื่องมือเทคโนโลยีติดตามผล เช่น SAKID
✅ สื่อสารต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานเห็นว่าการดูแลสุขภาพคือวัฒนธรรมองค์กร
การสร้าง Employee Wellbeing ไม่ได้หมายถึงการจัดกิจกรรมสุขภาพให้พนักงานเพียงไม่กี่ครั้ง แต่คือการทำให้ “การดูแลสุขภาพ” กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการทำงานในทุกวัน
เมื่อองค์กรใส่ใจสุขภาวะของพนักงานอย่างจริงจัง ตั้งแต่การออกแบบสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี มีพื้นที่ให้พักใจ ไปจนถึงการสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนกันและกัน พนักงานก็จะรู้สึกมีพลัง มีแรงบันดาลใจ และพร้อมจะเติบโตไปกับองค์กรอย่างมีความสุข
แล้วควรจัดกิจกรรมแบบไหนดี ระยะเวลานานเท่าใด คำตอบนี้ก็ต้องปรับให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละองค์กร แต่หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ปรึกษา SAKID ได้ เราไม่ใช่แค่ผู้นำกิจกรรมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาช่วยออกแบบกิจกรรมสุขภาพให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร รวมทั้งวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางสุขภาพให้จบครบในที่เดียว ทำให้คนในองค์กรมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ทำอาหารสุขภาพ Cooking class สุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม นักกายภาพออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้
แหล่งอ้างอิง
Deloitte Insights. (2022). Workplace well-being: How to build a culture of care. Deloitte Development LLC.
Harvard Business Review. (2023). How leaders can build a culture of well-being. Harvard Business Publishing.
Sakid.app. (2025). Workplace Wellness Workshop. Retrieved from https://www.sakid.app/workshop
Society for Human Resource Management. (2024). Creating a culture of wellbeing at work. SHRM Research Report.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). (2566). แนวทางการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะ (Healthy Organization Blueprint). กรุงเทพฯ: สสส.
World Health Organization. (2023). Workplace health promotion and wellbeing. World Health Organization.
บทความที่น่าสนใจ

รวม 5 หลักการปรับ “ท่านั่งทํางานที่ถูกต้อง” ลดออฟฟิศซินโดรม
ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง ต้องนั่งยังไง? นั่งแบบไหนให้ไกลออฟฟิศซินโดรม? แนะนำ 5 หลักการที่ต้องปรับท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง พร้อมวิธีเลือกเก้าอี้และโต๊ะถูกหลัก Ergonomics

SET Start healthy strong together with SAKID
จบไปแล้วสำหรับกิจกรรม SET Start healthy strong together ที่แข่งขันทำภาารกิจสุขภาพดี โดยผ่าน SAKID application ตลอดระยะเวลากันยายน– พฤศจิกายน 67 มีการออกแบบภารกิจสุขภาพทั้งปรับเรื่องอาหาร ลดไขมัน เพิ่มผักใย และออกกำลังกายให้เหมาะสมพร้อมด้วยโค้ชนักกำหนดอาหารวิชาชีพดูแลเป็นรายบุคคลในการปรับการกินอาหารตามภารกิจในแต่ละวัน โดยได้มีการจัดแบ่งทีมทั้งหมด 4 ทีมเพื่อแข่งขันสุขภาพดีและได้รับรางวัลโดยคนที่มีคะแนนสูงสุดในแต่ละทีมจะได้รางวัลพิเศษอีกด้วย ในกิจกรรมนี้ทุกคนได้ที่เข้าร่วมได้ปรับเปลี่ยนโดยการกินน้ำเปล่าเพิ่มมากขึ้น เดินกันเพิ่มมากขึ้น และส่งรูปอาหารที่กินมีผักเพิ่มขึ้นในแต่ละมื้อ

WORKSHOP Cooking class เฮลตี้ คิมบับ
กิจกรรม Cooking class คิมบับ กับ SAKID
วันที่ 5 มิถุนายน 2568 SAKIDได้จัดกิจกรรม Cooking class คิมบับสุขภาพดีสไตล์เกาหลี ให้กับพนักงานบริษัทภิรัช โดยนักกำหนดอาหารจะมาให้ความรู้ Health talk สุขภาพอาหารการกินอาหารสำหรับชาวออฟฟิศสั้นๆ แลให้ความรู้และความเข้าใจในการเลือกใช้วัตถุดิบประกอบอาหาร ก่อนเริ่มสอนทำคิมบับสุขภาพดีสไตล์เกาหลี โดยจะมีการสอนทำคิมบับแบบม้วน ใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่และทูน่าที่สามารถทำกินเองได้ง่ายๆจากที่บ้าน ซึ่งคิมบับประกอบไปด้วยวัตถุดิบที่มีปประโยชน์ต่อร่างกาย

WORKSHOP Cooking class สลัดโรล
กิจกรรม Cooking class สลัดโรล
วันที่ 20 สิงหาคม 2567 SAKID ได้จัดกิจกรรม Cooking class สลัดโรล ที่บริษัท CBRE โดยพนักงานได้เข้าร่วมจำนวน 40 คน ซึ่งนักกำหนดอาหารวิชาชีพ ได้เป็นผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบและมีทริคการดูแลสุขภาพด้านอาหารสำหรับชาวออฟฟิศให้เล่นเกมสุขภาพพร้อมรับของรางวัลกันอีกด้วย คลาสสอนทำสลัดโรลจะแบ่งทำเป็น 2เมนูคือ สลัดโรลเต้าหู้ กับ สลัดโรลปลาทูนึ่ง โดยทั้งสองเมนูจะใช้รสชาติจากผักและสมุนไพรเป็นหลักเพื่อสุขภาพที่ดีและน้ำจิ้มสูตรโซเดียมต่ำ อร่อยได้ง่ายๆ และสามารถนำกลับไปทำเองได้ที่บ้านได้

Workshop “เตรียมตัว เตรียมตังค์ก่อนเข้าสู่วัยอิสระ”
กิจกรรม Workshop “เตรียมตัว เตรียมตังค์ก่อนเข้าสู่วัยอิสระ”
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 Sakid ได้จัดกิจกรรม Workshop “เตรียมตัว เตรียมตังค์ก่อนเข้าสู่วัยอิสระ” ให้กับบริษัทเอสพี อินเตอร์แมค, รพ.กรุงเทพสิริโรจน์ และการไฟฟ้านครหลวง โดยวิทยากรนักวางแผนการเงิน คุณจิญาดา พฤกษาชลวิทย์ภายในงานผู้เข้าร่วมได้รับวิธีการวางแผนทางการเงินก่อนถึงวัยเกษียณ และได้ทดลองวางแผนสำหรับตัวเองให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์อีกด้วย

WORKSHOP เริ่มต้นดูแลสุขภาพดี เริ่มต้นที่ตัวเรา
กิจกรรม Workshop “เรื่มต้นดูแลสุขภาพดี เริ่มต้นที่ตัวเรา”
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop “เริ่มต้นดูแลสุขภาพดี เริ่มต้นที่ตัวเรา ” โดยนักกำหนดอาหาร มีการทำแบบประเมินตัวเองและเข้าใจสุขภาพตัวเอง เทคนิคการปรับมื้ออาหารให้สุขภาพดีและลดน้ำหนักได้ และมีคลาสแนะนำการออกกำลังกายทำเมื่อไรก็ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายพัฒนาระบบไหลเวียนเลือด หัวใจ กล้ามเนื้อ ลดอาการoffice syndrome โดยนักวิทยาศาสตร์การกีฬา