URL Copied!

รับออกแบบ เมนูอาหารพนักงานโรงงาน ให้สุขภาพดี Healthy canteen

พนักงานโรงงานส่วนใหญ่ใช้เวลาในโรงงานวันละ 8–12 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่า มื้อหลักเกือบทั้งหมดของพวกเขามาจากโรงอาหารโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า กลางวัน หรือแม้แต่เย็นในกรณีที่ทำโอที การมีเมนูที่สมดุลจึงเป็นสิ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพและพลังงานของพนักงาน

พฤติกรรมการกินของพนักงานโรงงาน

 

1.พึ่งพาโรงอาหารเกือบ 100%
พนักงานไม่สะดวกออกไปทานข้างนอกในเวลาทำงาน ทำให้โรงอาหารกลายเป็นแหล่งโภชนาการหลัก

 

2.มื้ออาหารคือการเติมพลังงานให้ทำงานต่อ
ต่างจากออฟฟิศที่อาจนั่งโต๊ะ พนักงานโรงงานใช้แรงงานร่างกายมาก หากอาหารไม่เพียงพอหรือไม่เหมาะสม จะทำให้เหนื่อยล้า ง่วง และเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุ

 

3.ความสะดวกและรวดเร็วสำคัญที่สุด
โรงอาหารมักมีเวลาพักสั้น ทำให้พนักงานเลือกอาหารตามความเร็ว ไม่ใช่คุณค่าทางโภชนาการ หากไม่มีเมนูสุขภาพที่เข้าถึงง่าย พวกเขามักเลือกอาหารทอดหรือข้าวราดแกงที่มีรสจัดเป็นหลัก

 

ทำไมโรงอาหารโรงงานถึงมีความสำคัญ

 

เป็นจุดควบคุมสุขภาพของทั้งองค์กร
ถ้าโรงอาหารจัดอาหารไม่สมดุล พนักงานทั้งร้อยหรือพันคนจะได้รับโภชนาการที่ผิดพลาดเหมือนกันทุกวัน แต่ถ้าโรงอาหารออกแบบดี ก็เท่ากับสร้างสุขภาพดีให้ทั้งองค์กร

 

• เป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการที่จับต้องได้
โรงอาหารที่สะอาด มีเมนูสุขภาพ และราคาเหมาะสม ทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจคุณภาพชีวิตจริง ไม่ใช่แค่พูด

 

• มีผลต่อความสุขและประสิทธิภาพงาน
พนักงานที่อิ่มอร่อยและได้สารอาหารครบถ้วน จะมีแรงทำงานมากขึ้น สมาธิดีขึ้น และลดการลาป่วยจากโรคเรื้อรังที่เกิดจากการกิน

หลักการออกแบบเมนูโรงอาหารโรงงานแบบ Healthy Canteen

 

การคัดเลือกวัตถุดิบ

การเลือกวัตถุดิบเป็นรากฐานสำคัญของการทำอาหารสุขภาพ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่ส่งผลต่อทั้งคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติ 

 

• ข้าวกล้องและธัญพืช: ให้ใยอาหารสูง ทำให้อิ่มนาน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ทำให้พนักงานง่วงหลับหลังมื้อกลางวัน ต่างจากข้าวขาวที่ย่อยเร็วและเพิ่มน้ำตาลในเลือดทันที

 

• โปรตีนคุณภาพ: เช่น ปลา ไก่ไม่ติดหนัง เต้าหู้ หรือถั่ว มีไขมันอิ่มตัวต่ำ ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อของพนักงานที่ใช้แรงงานหนัก

 

• ผักครึ่งจาน: นอกจากเพิ่มไฟเบอร์ ยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้สมดุล เช่น วิตามินซีช่วยลดความเหนื่อยล้า

 

• ลดเนื้อสัตว์แปรรูป: เช่น ไส้กรอก เบคอน แฮม ที่มักมีโซเดียมสูงและมีสารกันบูด ซึ่งหากรับประทานต่อเนื่องจะเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและมะเร็งลำไส้

 

แนวทางปฏิบัติจริง
HR อาจร่วมมือกับผู้จัดซื้อเพื่อเลือกซัพพลายเออร์ที่มีมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice) และกำหนดเกณฑ์คุณภาพวัตถุดิบ เช่น “ต้องใช้เนื้อสัตว์สด ไม่แช่แข็งนานเกิน 3 เดือน” หรือ “เลือกผักผลไม้ในฤดูกาลและปลอดสารในท้องถิ่น”

 

การลดโซเดียม น้ำตาล ไขมัน

การปรับรสชาติอาหารให้ “กลมกล่อมแต่ไม่จัด” ช่วยให้พนักงานได้รับโภชนาการที่ดีโดยไม่รู้สึกว่ากำลัง “ทานอาหารคลีน” จนเกินไป

 

• ใช้สมุนไพรแทนเครื่องปรุงรส: เช่น ขิง กระเทียม มะนาว พริกไทย ช่วยเพิ่มรสชาติหอมเผ็ดโดยไม่ต้องใส่เกลือหรือน้ำปลาเกินความจำเป็น

 

• ใช้น้ำมันคุณภาพ: น้ำมันรำข้าวและน้ำมันถั่วเหลืองมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ลดคอเลสเตอรอล และควรหลีกเลี่ยงการทอดซ้ำเพราะจะเกิดสารก่อมะเร็ง (Trans fat)

 

• ลดน้ำตาล: ลดการใช้น้ำตาลในเมนูเครื่องดื่ม และเปลี่ยนเป็นน้ำสมุนไพรไม่หวาน เช่น น้ำเก๊กฮวยไม่ใส่น้ำตาล หรือน้ำใบเตยแทนเครื่องดื่มชูกำลัง

 

ลดเครื่องดื่มหวาน: น้ำอัดลมหรือน้ำหวาน 1 แก้ว อาจมีน้ำตาลสูงถึง 6–8 ช้อนชา การลดหรือเลิกเสิร์ฟจะช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้มาก

 

แนวทางปฏิบัติจริง

• กำหนดสูตรมาตรฐาน เช่น “เมนูผัดใช้เกลือไม่เกิน ½ ช้อนชา ต่อ 5 ที่”

• จัดโซนน้ำดื่มเป็น “น้ำเปล่า” และ “น้ำสมุนไพรไม่หวาน” แทนการตั้งน้ำอัดลมเป็นตัวเลือกหลัก

• ให้แม่ครัวผ่านการอบรม โภชนาการอาหารสุขภาพ เพื่อเข้าใจผลกระทบของโซเดียม-น้ำตาลต่อร่างกาย

การสนับสนุนโรงอาหารสุขภาพดี-SAKID

สัดส่วนโภชนาการที่สมดุล

สิ่งที่โรงอาหารควรคำนึงถึงไม่ใช่แค่ปริมาณอาหาร แต่คือ ความสมดุลในแต่ละมื้อ

50% ผัก → ช่วยควบคุมน้ำหนักและให้ใยอาหาร

25% โปรตีน → เสริมพลังงานและซ่อมแซมร่างกาย

25% คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน → ให้พลังงานยั่งยืน

 

ตัวอย่าง
ข้าวกล้อง 1 ทัพพี + ไก่ผัดพริกไทยดำ + ต้มจืดผักกาดขาว + ผลไม้ 1 ชิ้น จะทำให้พนักงานได้พลังงานเพียงพอแต่ไม่หนักเกินไป

โรงอาหารโรงงานที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยองค์กรอย่างไร

1.ลดค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล  พนักงานป่วยน้อยลง องค์กรเสียค่าเบิกน้อยลง

2.เพิ่มประสิทธิภาพงาน  พนักงานมีพลังงาน ทำงานได้ต่อเนื่อง

3.สร้าง Employer Branding  การมีสวัสดิการอาหารโรงงานที่ดี ทำให้โรงงานดึงดูดแรงงานคุณภาพ

Checklist แนะนำ Healthy Canteen เบื้องต้น

 มีเมนูสุขภาพให้เลือกทุกมื้อ

 มีผลไม้เสิร์ฟทุกวัน

ลดอาหารทอดและมัน

มีป้ายแสดงคุณค่าทางโภชนาการ

มีเวิร์กช็อปให้ความรู้โภชนาการแก่พนักงาน

      การจัด เมนูอาหารพนักงานโรงงาน ที่ดีต่อสุขภาพ คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อความสุข โรงอาหารโรงงานที่ออกแบบอย่างเหมาะสมจะช่วยให้พนักงานแข็งแรง มีพลัง และพร้อมทุ่มเทกับงานเต็มที่ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ใส่ใจสุขภาพ และเป็นแรงดึงดูดให้คนรุ่นใหม่อยากทำงานกับองค์กรที่ดูแลคนของตนอย่างแท้จริง

       สนใจทำ Healthy Canteen แต่หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ปรึกษา SAKID ได้ เราไม่ใช่แค่ผู้นำกิจกรรมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาช่วยออกแบบกิจกรรมสุขภาพให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร รวมทั้งวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางสุขภาพให้จบครบในที่เดียว ทำให้คนในองค์กรมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

         Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ทำอาหารสุขภาพ Cooking class สุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม นักกายภาพออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้

แหล่งอ้างอิง

  • World Health Organization. (2020). Healthy diet. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/healthy-diet

  • Ministry of Public Health Thailand. (2021). แนวทางการจัดอาหารสุขภาพในสถานประกอบการ.

  • Centers for Disease Control and Prevention. (2022). Workplace health promotion.

  •  

บทความที่น่าสนใจ

Cover-burnout-SAKID

Workshop How to understand burnout

กิจกรรม Workshop “การจัดการความเครียด”

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 Sakid ได้จัดกิจกรรม Workshop “การจัดการความเครียด”  ให้กับบริษัทเอสพี อินเตอร์แมคและการไฟฟ้านครหลวง  โดยวิทยากรนักจิตวิทยาองค์กร ครูรักอมยิ้ม คุณอานนท์ ตั้งกิตติทรัพย์ ภายในงานผู้เข้าร่วมได้รับเทคนิคการจัดการความเครียด และการบริหารการทำงานให้มี Work-life balance

อ่านต่อ »

แบบประเมินความเครียด สำหรับพนักงานออฟฟิศ

ความเครียดกลายเป็น “โรคเงียบ” ของคนทำงานออฟฟิศ การมีเครื่องมือช่วยตรวจสอบและติดตามภาวะความเครียดของพนักงานจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะความเครียดไม่ได้เพียงทำลายสุขภาพจิต แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อ ประสิทธิภาพการทำงาน การขาดงาน และอัตราการลาออก

อ่านต่อ »

WORKSHOP การทานอาหารอย่างเหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันในเลือด

กิจกรรม  “การทานอาหารอย่างเหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันในเลือด”

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2566  SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop  “การทานอาหารอย่างเหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันในเลือด” โดยนักกำหนดอาหารที่ให้ความรู้และความเข้าใจเรื่องอาหารที่ควรกินและไม่ควรกิน การเลือกอาหารและปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันในเลือด

อ่านต่อ »
Sakid thumbnail -productivity

7 เคล็ดลับง่าย ๆ เพิ่ม Productivity ให้ปัง ทั้งเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว

คุณเคยรู้สึกไหมว่า ทำไมเพื่อนร่วมงานบางคนถึงได้ดูเก่งและประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว แถมยังมีเวลาไปเที่ยว ไปช็อปปิ้ง ไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ได้อีก คุณอยากรู้ไหมว่าพวกเขามีเคล็ดลับอะไรในการเพิ่ม Productivity ให้ชีวิตปังขนาดนั้น?

อ่านต่อ »
Cover deep relax-SAKID

Meditation and Deep relaxation workshop

กิจกรรม  Workshop “Meditationand Deep relaxation ”

เมื่อวันที่ 29  พฤศจิกายน  2566 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop “Meditationand Deep relaxation” โดยนักกายภาพบำบัดและนักจัดกระบวนการเรียนรู้สุขภาพที่ให้ความรู้และความเข้าใจโดยการให้ฟังเสียงร่างกายแต่ละจุดเพื่อให้รู้สึกและเป็นการรับฟังร่างกายของเรา เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายเต็มที่อย่างตรงจุด โดยให้เตรียมแก้วน้ำร้อนของตัวเองเพื่อมารับชาดอกไม้นั่งจิบชาร้อมวงเพื่อเปิดประสาทสัมผัสการรับรู้ของร่างกายทั้งรสชาติ กลิ่น  และจินตนาการ การฝึกหายใจเพื่อผ่อนคลาย พาตัวเองออกจากอารมณ์ต่างๆ และหันกลับมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น การรักตัวเองให้มากขึ้น การคิดให้กำลังใจเชิงบวก

อ่านต่อ »

รวม 5 หลักการปรับ “ท่านั่งทํางานที่ถูกต้อง” ลดออฟฟิศซินโดรม

ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง ต้องนั่งยังไง? นั่งแบบไหนให้ไกลออฟฟิศซินโดรม? แนะนำ 5 หลักการที่ต้องปรับท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง พร้อมวิธีเลือกเก้าอี้และโต๊ะถูกหลัก Ergonomics

อ่านต่อ »
URL Copied!

วิธีดึงพนักงานกลับมาเมื่อ หมดpassionในการทำงาน

      เคยสังเกตไหมว่า ทำไมพนักงานที่เคยเต็มไปด้วยไฟในการทำงาน เคยเป็นคนเสนอไอเดียใหม่ ๆ อย่างกระตือรือร้น กลับค่อย ๆ กลายเป็นคนที่นั่งเงียบ ไม่อยากออกความคิดเห็น และทำงานไปวัน ๆ เพียงเพื่อรอให้หมดเวลา? นี่ไม่ใช่เพียงแค่ “อาการเหนื่อย” ชั่วคราว แต่เป็นสัญญาณสำคัญของ หมดpassionในการทำงาน ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในองค์กรไทยและทั่วโลก

 

       ในประเทศไทยเอง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ก็เคยรายงานว่า พนักงานกว่า 1 ใน 3 เผชิญภาวะเครียดเรื้อรังจากการทำงาน และหลายกรณีกลายเป็น หมดไฟในการทำงาน ตามมา ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อทั้งสุขภาพพนักงานและผลประกอบการขององค์กร

ทำไมพนักงานถึง หมดpassionในการทำงาน

การที่พนักงานรู้สึกหมดไฟหรือหมด passion มักไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลรวมจากหลายปัจจัยที่สะสมจนทำให้แรงจูงใจและความสุขในการทำงานลดลง

 

1. ปัจจัยด้านตัวพนักงาน (Individual)

• ความไม่สมดุลชีวิต-งาน (Work-Life Imbalance): พนักงานที่ทำงานเกินเวลาตลอด ไม่เหลือเวลาส่วนตัว จะรู้สึกว่า “งานแย่งชีวิต” จนนำไปสู่ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง

• เป้าหมายส่วนตัวไม่สอดคล้องกับงาน: เมื่อสิ่งที่ทำไม่ตอบโจทย์เส้นทางชีวิตหรือคุณค่าที่ตนเองเชื่อ เช่น อยากทำงานสร้างคุณค่า แต่กลับเจองานเน้นผลกำไรเพียงอย่างเดียว ทำให้หมดแรงใจ

• สุขภาพกายและจิต: การพักผ่อนไม่เพียงพอ อาหารไม่ถูกหลัก หรือเผชิญความเครียดสะสม ล้วนทำให้ passion ดับลงได้ง่าย

 

2. ปัจจัยด้านงาน (Job Factor)

• งานซ้ำซาก ไม่มีความท้าทาย: เมื่อพนักงานทำงานแบบเดิมซ้ำ ๆ ไม่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือทักษะใหม่ ๆ จะรู้สึกว่างานไร้ความหมาย

• ขาดโอกาสการพัฒนา: หากองค์กรไม่สนับสนุนการเรียนรู้ใหม่ พนักงานจะรู้สึกว่าอนาคตตัน ไม่เห็นเส้นทางเติบโต

• ระบบวัดผลงานไม่เป็นธรรม: การที่ผลงานไม่ได้รับการยอมรับ หรือถูกประเมินไม่สอดคล้องกับความจริง ทำให้รู้สึกท้อและหมดกำลังใจ

 

3. ปัจจัยด้านองค์กร (Organizational Factor)

• วัฒนธรรมองค์กรไม่เอื้อต่อความสุข: องค์กรที่เน้นตัวเลขมากกว่าคน ไม่ฟังเสียงพนักงาน หรือไม่มีระบบสนับสนุนสุขภาพใจ มักทำให้พนักงานรู้สึกถูกมองข้าม

• ภาวะผู้นำที่กดดันมากเกินไป: หัวหน้างานที่สื่อสารเชิงลบ ใช้วิธีบังคับมากกว่าการโค้ช จะทำให้ทีมหมด passion เร็วกว่าที่คิด

• การเปลี่ยนแปลงที่ถี่เกินไป: การปรับโครงสร้าง ย้ายทีม หรือเปลี่ยน KPI บ่อย ๆ โดยไม่มีการสื่อสารที่ดี สร้างความไม่มั่นคงและลดแรงจูงใจ

 

จะเห็นว่า หมดpassionในการทำงาน ไม่ใช่ความผิดของพนักงานเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นเรื่องของ “ระบบในที่ทำงาน” ที่ HR และผู้บริหารต้องร่วมกันดูแล ทั้งการออกแบบงาน วัฒนธรรมองค์กร และการสนับสนุนสุขภาวะพนักงาน

สัญญาณเตือนเมื่อพนักงาน หมดpassionในการทำงาน

การที่พนักงาน หมดpassionในการทำงาน มักไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่จะมี “สัญญาณเตือน” เล็ก ๆ ที่สะสมและชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ หาก HR และผู้บริหารจับสังเกตได้เร็ว ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญลามไปสู่ ภาวะหมดไฟ (Burnout Syndrome) อย่างรุนแรง

 

1. ประสิทธิภาพงานลดลงอย่างต่อเนื่อง

• ผลงานไม่ตรงตามกำหนด ทั้งที่เคยทำได้

• งานออกมาคุณภาพต่ำลง ไม่ใส่ใจรายละเอียด

• ไม่เสนอนวัตกรรมหรือไอเดียใหม่เหมือนเดิม

‣ ตัวอย่าง: พนักงานเคยเสนอไอเดียระหว่างประชุมทุกครั้ง แต่พักหลังเลือกเงียบ หรือพูดสั้น ๆ เพื่อให้จบ

 

2. พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง

• มาสาย/ขาดงานบ่อย: อ้างเหตุผลสุขภาพหรือเรื่องส่วนตัวถี่ขึ้น

• ใช้เวลาพักมากขึ้น: เดินออกไปข้างนอกบ่อย หรือใช้เวลาพักเกินกำหนด

• แยกตัวจากทีม: ไม่เข้าร่วมกิจกรรมองค์กร ทั้งที่เคยกระตือรือร้น

‣ ตัวอย่าง: จากเดิมเป็นคนร่าเริง ชวนเพื่อนร่วมทีมคุย แต่ตอนนี้นั่งเงียบ ไม่สุงสิงกับใคร

 

3. อารมณ์และทัศนคติเปลี่ยนไป

• แสดงออกถึง ความเบื่อหน่าย บ่อยครั้ง เช่น ถอนหายใจ ทำสีหน้าล้า

• พูดเชิงลบเกี่ยวกับงานหรือองค์กร

• ขาดความกระตือรือร้นในการรับมอบหมายงานใหม่

‣ ตัวอย่าง: เมื่อได้รับงานใหม่ ตอบทันทีว่า “ก็ทำได้แหละ แต่คงไม่ต่างจากเดิมหรอก”

 

4. ปัญหาสุขภาพกายและจิต

• นอนน้อย เหนื่อยง่าย เจ็บป่วยบ่อย

• บ่นปวดหัว ปวดหลัง หรือเครียดตลอดเวลา

• มีอาการซึมเศร้า เช่น เศร้าบ่อย ร้องไห้ง่าย

‣ตัวอย่าง: พนักงานลาป่วยบ่อยขึ้น โดยแพทย์ไม่พบสาเหตุทางกายที่ชัดเจน

 

5. ความสัมพันธ์ในที่ทำงานแย่ลง

• หงุดหงิดง่าย ขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน

• ไม่เปิดใจสื่อสารกับหัวหน้า

• ขาดความร่วมมือเมื่อต้องทำงานเป็นทีม

‣ ตัวอย่าง: เคยเป็นคนกลางประสานงาน แต่กลับกลายเป็นผู้สร้างความขัดแย้งในทีม

นักจิตวิทยาหลังแผ่นดินไหว-SAKID

กลยุทธ์ดึงพนักงานกลับมาเมื่อหมด Passion

 

1. ฟังเสียงและเข้าใจปัญหา

เริ่มต้นจากการ เปิดพื้นที่พูดคุย ไม่ว่าจะผ่าน one-on-one meeting หรือแบบสอบถามออนไลน์ เพื่อให้พนักงานได้ถ่ายทอดสิ่งที่กดดันจริง ๆ HR ควรรับฟังอย่างจริงใจ พร้อมนำข้อมูลไปออกแบบนโยบายใหม่

 

2. ปรับงานและเพิ่มความท้าทาย

พนักงานจำนวนมากหมด passion เพราะรู้สึกว่างานไม่ท้าทาย การมอบหมายโครงการใหม่ ๆ หรือเปิดโอกาสให้หมุนเวียนงาน (Job Rotation) สามารถทำให้พนักงานกลับมามีแรงบันดาลใจ

 

3. สร้างแรงบันดาลใจในการทำงานผ่านการยอมรับและการชื่นชม

Recognition เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ แม้คำชื่นชมเล็ก ๆ ก็สามารถลดความรู้สึกหมดไฟได้ องค์กรควรมีระบบประกาศยกย่องผลงาน ทั้งรายบุคคลและทีม

 

4. ใช้โปรแกรม Wellbeing และ EAP

การดูแลสุขภาพกายและใจเป็นหัวใจหลักในการป้องกัน burnout องค์กรสามารถนำ Workplace Wellness Program หรือ Employee Assistance Program (EAP) มาใช้เพื่อสนับสนุนด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย และการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา

 

5. ออกแบบ Workshop และการเรียนรู้ใหม่

การสร้างโอกาสให้พนักงานเรียนรู้สิ่งใหม่ไม่เพียงพัฒนาทักษะ แต่ยังเติม passion ได้ เช่น Workshop จัดการความเครียดและสร้างแรงบันดาลใจ  Workshopที่ออกแบบโดยนักจิตวิทยา

Workshop นักจิตวิทยาและการปรึกษาออนไลน์สำหรับพนักงาน

หนึ่งในกลยุทธ์ที่องค์กรสามารถใช้เพื่อดูแล mental health ของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ คือการจัดให้มี Workshop ด้านสุขภาพจิต และการเปิดช่องทาง ปรึกษานักจิตวิทยาออนไลน์ ซึ่งตอบโจทย์พนักงานยุคใหม่ที่อาจไม่สะดวกเดินทางไปพบผู้เชี่ยวชาญด้วยตนเอง

 

ทำไม Workshop นักจิตวิทยาจึงสำคัญ

• ช่วยให้พนักงานเข้าใจ การจัดการความเครียด และเทคนิคปรับอารมณ์ในชีวิตประจำวัน

• เปิดพื้นที่ให้พนักงานได้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้ร่วมกัน

• เสริมสร้างความเข้าใจเรื่อง การป้องกัน burnout และการสร้างสมดุลชีวิต-งาน

• เป็นกิจกรรมที่แสดงให้องค์กรเห็นถึงความใส่ใจต่อสุขภาพจิตของบุคลากร

 

ตัวอย่างหัวข้อเวิร์กช็อปที่ได้รับความนิยมในองค์กร

• Mindfulness at Work  ฝึกสติในที่ทำงานเพื่อลดความเครียด

• Stress Management 101  เทคนิคจัดการความเครียดแบบง่าย ๆ

• Burn out  การรู้จักตัวเองและจัดการปัญหากับเหตุการณ์ต่างๆภายในจิตใจทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

 

ปรึกษานักจิตวิทยาออนไลน์: การเข้าถึงที่ง่ายขึ้น

ปัจจุบันหลายองค์กรเปิดบริการ Online Counseling ให้พนักงานสามารถพูดคุยกับนักจิตวิทยาได้ผ่าน วิดีโอคอล หรือแชทส่วนตัว ข้อดีคือ

• เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

• รักษาความเป็นส่วนตัว ทำให้พนักงานรู้สึกปลอดภัยในการเปิดใจ

• ลดอุปสรรคเรื่อง stigma เพราะหลายคนยังรู้สึกไม่กล้าไปพบผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัว

 

การมีทั้ง Workshop และ Online Counseling จะช่วยให้องค์กรดูแลสุขภาพจิตพนักงานได้ครบมิติ ทั้งเชิงป้องกันและการให้ความช่วยเหลือเฉพาะราย

Checklist 5 ขั้นตอนดูแล Mental Health พนักงาน

 

✅ ประเมินสถานการณ์  ใช้แบบสอบถามความเครียดและ burnout

✅ เปิดช่องทางรับฟังอย่างจริงใจ  ให้องค์กรแสดงความตั้งใจที่จะรับฟังความคิดเห็น

✅ จัดโปรแกรมสนับสนุน  เช่น EAP หรือกิจกรรมเวิร์คช็อป

✅ ฝึกอบรมหัวหน้างาน  ให้เข้าใจการสังเกตสัญญาณสุขภาพจิต

✅ ติดตามและปรับปรุง  ใช้ KPI เช่น turnover rate, sick leave days

 

        การที่พนักงาน หมดpassionในการทำงาน ไม่ใช่เรื่องผิดของใครฝ่ายเดียว แต่เป็นผลจากหลายปัจจัย ทั้งตัวงาน สภาพแวดล้อม และสุขภาพกายใจของคนทำงาน สิ่งสำคัญคือองค์กรต้องมองเห็นและเข้าใจ เพื่อช่วยให้พนักงานกลับมามีพลังและแรงบันดาลใจอีกครั้ง

 

        แล้วควรจัดกิจกรรมแบบไหนดี ระยะเวลานานเท่าใด คำตอบนี้ก็ต้องปรับให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละองค์กร แต่หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ปรึกษา SAKID ได้ เราไม่ใช่แค่ผู้นำกิจกรรมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาช่วยออกแบบกิจกรรมสุขภาพให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร รวมทั้งวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางสุขภาพให้จบครบในที่เดียว ทำให้คนในองค์กรมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

         Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ทำอาหารสุขภาพ Cooking class สุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม นักกายภาพออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้

แหล่งอ้างอิง

  • World Health Organization. (2019). Burn-out an “occupational phenomenon”: International Classification of Diseases. WHO.

  • Maslach, C., & Leiter, M. P. (2016). Understanding the burnout experience: Recent research and its implications for psychiatry. World Psychiatry, 15(2), 103–111.

  • กระทรวงสาธารณสุข. (2565). แนวทางป้องกันและดูแลภาวะหมดไฟในการทำงาน.

  •  

บทความที่น่าสนใจ

แบบประเมินความเครียด สำหรับพนักงานออฟฟิศ

ความเครียดกลายเป็น “โรคเงียบ” ของคนทำงานออฟฟิศ การมีเครื่องมือช่วยตรวจสอบและติดตามภาวะความเครียดของพนักงานจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะความเครียดไม่ได้เพียงทำลายสุขภาพจิต แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อ ประสิทธิภาพการทำงาน การขาดงาน และอัตราการลาออก

อ่านต่อ »
จัด-Workshop-อย่างไรให้โดนใจ-Cover-Sakid

จัด Workshop อย่างไร ให้โดนใจ

การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยจุดเริ่มต้นที่สามารถทำได้คือการจัดอบรมเกี่ยวกับสุขภาพในด้านต่างๆการจัดอบรมจะช่วยปูพื้นความรู้การดูแลสุขภาพทั้งด้านกายและจิตให้กับพนักงาน ให้สามารถนำไปใช้ดูแลสุขภาพของตัวเองได้ โดยทีมผู้จัด สามารถเริ่มต้นทำได้

อ่านต่อ »
กินอยู่อย่างไร ห่างไกล NCDs-SAKID

WORKSHOP กินอยู่อย่างไร ห่างไกล NCDs

กิจกรรม กินอยู่อย่างไร ห่างไกล NCDs

วันที่ 26 สิงหาคม  2567 SAKID  ได้จัดกิจกรรม กินอยู่อย่างไรห่างไกลโรคNCDs กับ SAKID ที่บริษัท ทาทาสตีล (การผลิต) จ.สระบุรี โดยจะมีกิจกรรมวัดองค์ประกอบร่างกาย และWorkshop เกี่ยวกับการเลือกอาหารในชีวิตประจำวันโดยจะเน้นไปที่การลดน้ำหนักและไขมันในเลือด ให้พนักงานได้นำไปใช้ได้จริง การอ่านฉลากแบบง่ายๆ การเลือกกินอาหารแบบ 2-1-1 เน้นโปรตีนและผัก การเลือกกินคาร์โบไฮเดรตในสัดส่วนที่ถูกต้อง เพื่อรักษาการกินที่สมดุลให้เหมาะกับสภาวะร่างกายของแต่คนให้ถูกต้อง

อ่านต่อ »
Cover yoga-SAKID

WORKSHOP คลาสโยคะ

กิจกรรม  Workshop “คลาสโยคะ”

ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม  2566 – 21 กันยายน 2566  SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop “คลาสโยคะ ” กันทุกสัปดาห์เป็นสวัสดิการที่เสริมสร้างร่างกายให้แข้งแรง โดยนักวิทยาศาสตร์การกีฬามาเป็นครูสอนโยคะที่จะพาพนักงานบริษัท ROCHE มายืดเหยียดร่างกายให้ผ่อนคลายเมื่อยจากการนั่งทำงานและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้มีความยืดหยุ่นอีกด้วย

อ่านต่อ »
ไขมันพอกตับ-SAKID

ทำอย่างไร เมื่อคนในองค์กรไขมันเกาะตับ

ในปัจจุบัน พนักงานในองค์กรหลายแห่งต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการทำงานหนักและการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล ในยุคที่การทำงานเต็มไปด้วยความเครียดและความเร่งรีบ ปัญหาสุขภาพของพนักงานจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ  และหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยคือ “ไขมันเกาะตับ” ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพชีวิตของบุคลากรได้อย่างมาก

อ่านต่อ »
กิจกรรม CSR

“กิจกรรม csr” การทำเพื่อสังคมที่สร้างประโยชน์ได้มากกว่าที่คุณคิด

กิจกรรม CSR คืออะไร ทำไมองค์กรใหญ่ ๆ ถึงต้องทำ? ประเภทของกิจกรรม CSR และตัวอย่างกิจกรรมจากธุรกิจชั้นนำ [แนะนำแนวทางจัดกิจกรรม CSR]

อ่านต่อ »
URL Copied!

สร้างสวัสดิการให้กับพนักงานยังไงให้ครอบคลุมด้านสุขภาพ

สวัสดิการบริษัท  ไม่ได้หมายถึงเพียงโบนัสหรือวันลาพักร้อนอีกต่อไป แต่ต้องครอบคลุมไปถึง สุขภาพกายและใจของพนักงาน เพราะสุขภาพคือรากฐานของการทำงานที่มีประสิทธิภาพ หากองค์กรมีการดูแลพนักงานตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงการส่งเสริมสุขภาวะ จะช่วยให้พนักงาน ทำงานได้ดีขึ้น รู้สึกผูกพัน และลดโอกาสลาออก ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (2022) ระบุว่า การลงทุนใน สวัสดิการพนักงาน ด้านสุขภาพเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่คุ้มค่าในระยะยาว ไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่าย

สวัสดิการบริษัท คือ สิทธิประโยชน์พนักงาน (Employee Benefits) ที่องค์กรจัดให้เพิ่มเติมจากเงินเดือน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ ความปลอดภัย การเงิน หรือการพัฒนาทักษะ ในอดีตสวัสดิการอาจเน้นเพียงประกันสังคมหรือค่ารักษาพยาบาล แต่ปัจจุบันแนวโน้มใหม่คือการมุ่งสู่ สวัสดิการแบบองค์รวม (Holistic Benefits) ที่คำนึงถึงทั้งร่างกาย จิตใจ และสมดุลชีวิตการทำงาน (Work-Life Balance) (World Health Organization, 2021)

ประเภทสวัสดิการพนักงานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ

 

1. สวัสดิการพื้นฐานด้านสุขภาพ

เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรควรมี เพื่อสร้างความมั่นใจให้พนักงานว่ามีระบบดูแลขั้นต้นที่ดี เช่น

• ประกันสังคมและประกันสุขภาพกลุ่ม

• ค่ารักษาพยาบาลและตรวจสุขภาพประจำปี

• วันลาป่วยและการสนับสนุนค่ารักษาเพิ่มเติม

 

2. Employee Benefits เชิงป้องกัน (Wellness Program)

องค์กรยุคใหม่ไม่รอให้พนักงานเจ็บป่วย แต่เน้นสร้างสุขภาพที่ดีตั้งแต่ต้น ได้แก่

• โปรแกรมอาหารสุขภาพ เช่น โรงอาหารเพื่อสุขภาพที่มีเมนูควบคุมโภชนาการ

• การสนับสนุนการออกกำลังกาย เช่น ฟิตเนสในบริษัท หรือสนับสนุนค่าสมาชิกยิม

• กิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพ เช่น Healthy Break หรือการยืดเหยียดในที่ทำงาน

 

3. สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพจิตและ EAP

ปัญหาสุขภาพจิตเป็นอีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ของ HR การจัดสวัสดิการในมิตินี้ช่วยให้พนักงานมีสมดุลชีวิตมากขึ้น เช่น:

• โปรแกรมให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ (Employee Assistance Program: EAP)

• Workshop บริหารความเครียดและการสร้าง Mindfulness

• แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพจิตและการทำแบบประเมินสุขภาพ เช่น SAKID

ขั้นตอนสร้างสวัสดิการบริษัทที่ครอบคลุมสุขภาพ

 

1. ประเมินความต้องการพนักงาน

• ใช้แบบสอบถามสำรวจความคาดหวังของพนักงานแต่ละกลุ่ม

• วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพจากการตรวจร่างกายประจำปี และอัตราการลาป่วย

 

2. เลือกสวัสดิการที่ยั่งยืนและคุ้มค่า

• มุ่งเน้นการป้องกันมากกว่าการรักษาเพื่อลดต้นทุนในระยะยาว (สำนักงานประกันสังคม, 2564)

• ปรับรูปแบบสวัสดิการให้เหมาะกับพนักงานแต่ละเจเนอเรชัน เช่น Gen Z อาจต้องการ Flexi Benefits มากกว่า

 

3. ใช้เทคโนโลยีช่วยติดตามและวัดผล

• แอปพลิเคชันอย่าง SAKID ช่วย HR ติดตามสุขภาพและ Engagement ได้แบบเรียลไทม์

 

SAKID ช่วยให้กิจกรรมบริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไร

แอปพลิเคชัน SAKID ได้รับการออกแบบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ 3 สาขา (นักกำหนดอาหาร, นักวิทยาศาสตร์การกีฬา, นักจิตวิทยา) เพื่อช่วยองค์กร จัดกิจกรรมบริษัทด้านสุขภาพอย่างครบวงจร

 

• Health Mission: ภารกิจสุขภาพรายบุคคลกว่า 1,000 รายการ

• Health Challenge: แข่งขันกันในทีม เช่น นับก้าว, ดื่มน้ำ, ออกกำลังกาย → ทำให้กิจกรรมสนุก

• Mood Tracking: บันทึกอารมณ์และความสุขของพนักงาน ช่วยติดตามสุขภาพจิต

• HR Dashboard: วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพเชิงลึก → ผู้บริหารเห็นผลชัด วัด ROI ได้

ภาพกิจกรรม-Lbeauty-SAKID

Checklist ประเมินสวัสดิการสุขภาพขององค์กร

 

 มี สิทธิการรักษาและตรวจสุขภาพ ที่ครอบคลุมหรือยัง?

 มี กิจกรรมเสริมสุขภาพ ที่พนักงานเข้าถึงได้ง่ายหรือไม่?

 พนักงานเข้าถึง การดูแลสุขภาพจิต ได้จริงหรือไม่?

มีนโยบายที่สนับสนุน Work-Life Balance เช่น วันลาพิเศษหรือเวลาทำงานยืดหยุ่นหรือยัง?

 มีการ วัดผลสุขภาพพนักงาน เช่น อัตราลาป่วย ความเครียดเฉลี่ย หรือ Feedback จากพนักงานหรือไม่?

 

        การสร้าง สวัสดิการ บริษัท ที่ครอบคลุมด้านสุขภาพ คือการดูแลพนักงานทั้งกายและใจอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ การออกกำลังกาย หรือโปรแกรมดูแลสุขภาพจิต เมื่อพนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจ เขาจะตอบแทนด้วยความมุ่งมั่นและความผูกพันที่ยั่งยืน

        แล้วควรจัดกิจกรรมแบบไหนดี ระยะเวลานานเท่าใด คำตอบนี้ก็ต้องปรับให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละองค์กร แต่หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ปรึกษา SAKID ได้ เราไม่ใช่แค่ผู้นำกิจกรรมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาช่วยออกแบบกิจกรรมสุขภาพให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร รวมทั้งวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางสุขภาพให้จบครบในที่เดียว ทำให้คนในองค์กรมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

         Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ทำอาหารสุขภาพ Cooking class สุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม นักกายภาพออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้

แหล่งอ้างอิง

  • Ministry of Public Health. (2022). Employee wellness and workplace health promotion in Thailand. Bangkok: MOPH.
  • World Health Organization. (2021). Workplace health promotion: The role of employer-provided benefits. WHO Press.
  • สำนักงานประกันสังคม. (2564). สิทธิประโยชน์และสวัสดิการพนักงาน.
  • Sakid.app. (2023). Workplace wellness program. Retrieved from https://www.sakid.app/blog/workplace-wellness-program

บทความที่น่าสนใจ

Cover Workshop Burnout Kobayashi-SAKID

Workshop Burnout @Kobayashi

วันที่ 15 กรกฎาคม 2568  SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop  Burnout ที่บริษัทโคบายาชิ โดยนักจจิตวิทยามาร่วมพูดคุยและให้ความรู้ เพื่อให้พนักงานรู้ว่าตัวเองตอนนี้กำลังเผชิญกับความเครียดอยู่หรือไม่ เคล็ดลับการจัดการความเครียดและการสื่อสารต่อเพื่อนร่วมงาน เทคนิคการจัดการความเครียดเรื่องการจัดการภาระงาน วิธีปรับตัวเมื่อเจอปัญหาการคิดบวก

อ่านต่อ »
Cover deep relax-SAKID

Meditation and Deep relaxation workshop

กิจกรรม  Workshop “Meditationand Deep relaxation ”

เมื่อวันที่ 29  พฤศจิกายน  2566 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop “Meditationand Deep relaxation” โดยนักกายภาพบำบัดและนักจัดกระบวนการเรียนรู้สุขภาพที่ให้ความรู้และความเข้าใจโดยการให้ฟังเสียงร่างกายแต่ละจุดเพื่อให้รู้สึกและเป็นการรับฟังร่างกายของเรา เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายเต็มที่อย่างตรงจุด โดยให้เตรียมแก้วน้ำร้อนของตัวเองเพื่อมารับชาดอกไม้นั่งจิบชาร้อมวงเพื่อเปิดประสาทสัมผัสการรับรู้ของร่างกายทั้งรสชาติ กลิ่น  และจินตนาการ การฝึกหายใจเพื่อผ่อนคลาย พาตัวเองออกจากอารมณ์ต่างๆ และหันกลับมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น การรักตัวเองให้มากขึ้น การคิดให้กำลังใจเชิงบวก

อ่านต่อ »
กีฬาสี-จัดได้ง่าย-สร้างทีมได้ด้วย-SAKID

กีฬาสี จัดได้ง่าย สร้างทีมได้ด้วย

  กิจกรรมกีฬาสี หรือ Sport Day นับเป็นกิจกรรมหนึ่งที่หลาย ๆ บริษัทนิยมจัดให้กับพนักงาน เพราะกีฬาสีเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการเสริมสร้างสุขภาวะ แม้จะแข่งขันเพื่อผลแพ้ชนะแต่จุดประสงค์หลักก็เพื่อให้พนักงานในบริษัทได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกันนอกเหนือจากภาระงานของตนเอง

อ่านต่อ »
จัดกิจกรรม outing บริษัททำกิจกรรมอะไรดี?

จัดกิจกรรม outing บริษัททำกิจกรรมอะไรดี?

การจัด กิจกรรม outing ไม่ใช่แค่พาพนักงานไปเที่ยวพักผ่อน แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความผูกพันกับองค์กร เพิ่มความสามัคคี และเสริมสุขภาพกาย-ใจของพนักงาน งานวิจัยของ Gallup (2022) ชี้ว่า พนักงานที่มี engagement สูง จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากถึง 21% และมีอัตราการลาออกน้อยลงเกือบครึ่งหนึ่ง

อ่านต่อ »
template our workshop success-Lbeauty

แข่งขันลดน้ำหนักด้วย SAKID กับโครงการ Lbeauty Fit Challenge

สำหรับกิจกรรม Lbeauty Fit Challenge ที่แข่งขันลดน้ำหนักกับ SAKID application ตลอดระยะเวลา พ.ค. – ก.ค. 67 โดยมีการออกแบบภารกิจสุขภาพทั้งอาหาร และออกกำลังกายให้เหมาะสม พร้อมด้วยโค้ชนักกำหนดอาหารวิชาชีพดูแลเป็นรายบุคคลในการปรับการกิน จนทำให้การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักลดลงถึง 4%  และรอบเอวลดลงถึง 6 %

อ่านต่อ »
Sakid thumbnail -mental health

7 วิธีดูแลสุขภาพจิตใจพนักงาน เพื่อสร้างความสุขและประสิทธิภาพในการทำงาน

ในโลกของการทำงานยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความเครียดและความกดดัน ปัญหาสุขภาพจิตใจของพนักงานกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกองค์กรต้องให้ความสนใจ จากการสำรวจของ WHO พบว่ากว่า 264 ล้านคนทั่วโลกต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้า และอีกกว่า 284 ล้านคนมีความวิตกกังวลผิดปกติ ซึ่งนอกจากจะส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตพนักงานแล้ว ยังบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงานไปด้วย (World Health Organization, 2022) และนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพจิตมีหลายรูปแบบ ได้แก่ ภาวะเครียดเรื้อรัง ความวิตกกังวล ภาวะหมดไฟ โรคซึมเศร้า โดยปัญหาสุขภาพจิตเหล่านี้มีสาเหตุได้หลากหลายด้าน ทั้งจากลักษณะงาน ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน การบริหารจัดการ รวมถึงปัญหาส่วนตัว (Pfeffer, 2018)

อ่านต่อ »
URL Copied!

ภาวะฝืนทำงาน (Presenteeism) จุดเริ่มต้นสุขภาพจิตพนักงาน

          ในหลายองค์กรไทย เรามักจะเห็นพนักงานที่ “ฝืน” มาทำงานทั้งที่ไม่สบาย รู้สึกเครียด หรือมีภาระส่วนตัวที่ยังแก้ไม่ตก สิ่งนี้เรียกว่า ภาวะฝืนทำงาน (Presenteeism) ซึ่งแตกต่างจากการขาดงาน (Absenteeism) เพราะแม้พนักงานจะอยู่ที่โต๊ะทำงาน แต่ประสิทธิภาพกลับลดลง และยังเสี่ยงสร้างปัญหาสุขภาพในระยะยาว

          ภาวะฝืนทำงาน ไม่ใช่เพียงพฤติกรรมส่วนบุคคล แต่เป็น สัญญาณเตือนของวัฒนธรรมการทำงานและนโยบาย HR ที่องค์กรต้องหันมาจัดการอย่างจริงจัง

ภาวะฝืนทำงานคืออะไร และแตกต่างจากการขาดงานอย่างไร

 

การขาดงาน (Absenteeism): พนักงานไม่มาทำงาน → งานชะงักชัดเจน

• การที่พนักงาน ไม่มาทำงานตามเวลาที่กำหนด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลป่วยจริง ลากิจ หรือแม้แต่การขาดโดยไม่มีเหตุผล

• ผลกระทบคือ งานหยุดชะงักทันที สามารถนับเป็นจำนวนวันที่หายไปได้ง่าย → HR มองเห็นชัด และจัดการได้ เช่น การแทนที่งาน การหักวันลา หรือการประเมินผล

ตัวอย่าง พนักงานฝ่ายบัญชีลาป่วย 3 วัน → งานปิดงบล่าช้า HR เห็นชัดเจนว่ามีคนหายไป

 

ภาวะฝืนทำงาน (Presenteeism): พนักงานมาทำงาน แต่สุขภาพกายหรือใจไม่พร้อม → งานออกมาได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

• การที่พนักงาน มาทำงานทั้งที่ร่างกายหรือจิตใจไม่พร้อม เช่น ป่วย เครียด หรือเหนื่อยล้าสะสม แต่ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน

• ผลกระทบคือ Productivity ลดลงโดยไม่รู้ตัว งานเสร็จช้าหรือผิดพลาดมากขึ้น และในระยะยาวเสี่ยงต่อการสะสมปัญหาสุขภาพ เช่น Burnout หรือโรคเรื้อรัง

ตัวอย่าง พนักงานคนเดียวกันป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ยังมาทำงาน → นอกจากทำงานได้ช้าลงแล้ว ยังแพร่เชื้อให้เพื่อนร่วมงาน ส่งผลให้งานทีมทั้งแผนกเสียหาย

 

ทำไมภาวะฝืนทำงานถึงอันตรายต่อองค์กร

 

ผลกระทบต่อ Productivity

พนักงานที่ไม่สบายหรือเครียดจะใช้เวลาในการทำงานมากขึ้น ทำให้ Output ลดลง แม้จะอยู่ครบชั่วโมงงานก็ตาม

• พนักงานออฟฟิศที่มีไมเกรน → ใช้เวลาแก้ไขงานซ้ำมากขึ้น

• พนักงานที่มีภาวะซึมเศร้า → ประสิทธิภาพการตัดสินใจลดลง

 

ความเสี่ยงต่อสุขภาพจิตและ Burnout

การฝืนทำงานต่อเนื่อง โดยไม่มีระบบสนับสนุน อาจนำไปสู่ Burnout Syndrome ซึ่งมักทำให้พนักงานหมดแรงจูงใจและลาออกในที่สุด เหตุเพราะ ร่างกายและสมองที่ไม่ได้พัก จะสูญเสียความสามารถในการฟื้นฟู ทำให้เกิดปัญหาซ้อน เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือภาวะซึมเศร้า

 

สาเหตุหลักของ Presenteeism ในองค์กรไทย

 

วัฒนธรรม Overworking และการทำงานหนักเกินไป

หลายบริษัทไทยยังคงยึดติดกับการ “นั่งทำงานนานคือขยัน” ส่งผลให้พนักงานไม่กล้าลาหยุด แม้ป่วย

ตัวอย่าง

• ทีมขายที่แข่งขันสูง พนักงานกลัวเสียยอดขายหากลาหยุด → เลือกฝืนทำงานแม้ไม่สบาย

• องค์กรที่ผู้บริหารยกย่องคนทำงานดึก → สร้างแรงกดดันให้ผู้อื่นทำตาม

 

Work Overload และการบริหารงานที่ไม่สมดุล

ภาระงานเกินกำลังทำให้พนักงานไม่มีโอกาสฟื้นฟู เมื่อมีงานท่วมหัว การลาหยุดยิ่งถูกมองว่า “ทำให้ทีมเดือดร้อน”

ตัวอย่าง

• HR ในบริษัทที่มีพนักงานน้อย ต้องดูแลทุกเรื่องคนเดียว → เลือกมาทำงานแม้จะมีภาวะเครียด

• พนักงานโรงงานที่ถูกกด KPI ผลิตสินค้า → ต้องฝืนแม้เจ็บกล้ามเนื้อ

การดูแล Mental Health พนักงาน

เมื่อองค์กรตระหนักถึงความสำคัญของ mental health คำถามต่อมาคือ “แล้วจะเริ่มต้นอย่างไร?” เพราะการดูแลสุขภาพจิตพนักงานไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยมาตรการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัย กลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งเชิงป้องกันและเชิงแก้ไข

 

การจัดการความเครียดในที่ทำงาน

• จัด workload management ให้สมดุล

• เพิ่ม flexible working hours หรือ work-from-home

• จัดอบรมเรื่อง การจัดการความเครียด และ mindfulness

 

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดภัยทางจิตใจ (Psychological Safety)

องค์กรควรสร้างบรรยากาศที่พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างไม่กลัวการถูกตัดสิน การมี ผู้นำที่ฟังจริง และเปิดโอกาสให้ feedback จะช่วยลดแรงกดดัน

 

การใช้ Employee Assistance Program (EAP)

EAP เป็นโปรแกรมที่มี นักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา สำหรับพนักงานที่เผชิญปัญหาความเครียด ครอบครัว หรือการเงิน สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ EAP คืออะไร

วิธีที่ HR จัดการภาวะฝืนทำงาน

 

การสร้างนโยบายสนับสนุนสุขภาพจิต

• ออกแบบ “นโยบายการลาป่วยที่ยืดหยุ่น” ไม่ลงโทษพนักงานที่ใช้สิทธิ

• สื่อสารให้พนักงานรู้ว่าการดูแลสุขภาพสำคัญกว่าการ “มาทำงาน” ที่ออฟฟิศ

 

ใช้เครื่องมือ EAP (Employee Assistance Program)

EAP คือ โปรแกรมให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยพนักงานจัดการความเครียดและปัญหาส่วนตัว
👉 อ่านเพิ่มเติม: EAP คืออะไร

 

พัฒนา Workplace Wellness Program

โปรแกรมสุขภาพในที่ทำงาน เช่น คลาสออกกำลังกาย เวิร์คช็อปผ่อนคลายความเครียด หรือ Healthy Canteen ช่วยลดแรงกดดันและส่งเสริมสุขภาพองค์รวม
👉 อ่านเพิ่มเติม: Workplace Wellness Program

 

ออกแบบสวัสดิการพนักงานที่ดูแลสุขภาพครบมิติ

นอกจากประกันสุขภาพแล้ว องค์กรสามารถลงทุนในสวัสดิการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เช่น โค้ชสุขภาพ เวิร์คช็อปด้านโภชนาการ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาวะ
👉 อ่านเพิ่มเติม: สวัสดิการพนักงาน

Checklistวิธีตรวจและป้องกัน Presenteeism พนักงาน

 

มีพนักงานที่มาทำงานทั้งที่ป่วยหรือดูเหนื่อยล้าบ่อยครั้ง

พบว่าประสิทธิภาพงานลดลงแม้ชั่วโมงทำงานเท่าเดิม

 วัฒนธรรมองค์กรยังเชื่อมโยง “การทุ่มเวลา” กับ “ความขยัน”

✅  ไม่มีนโยบายสนับสนุนสุขภาพจิตที่ชัดเจน

✅  Workload ถูกจัดสรรไม่สมดุลในทีม

        ภาวะฝืนทำงานไม่ใช่เพียงปัญหาของพนักงานรายบุคคล แต่เป็น ตัวสะท้อนวัฒนธรรมและนโยบายองค์กร HR และผู้บริหารที่เข้าใจและลงทุนใน สุขภาพจิตและ Wellness Program จะได้ผลลัพธ์เป็นพนักงานที่มีพลัง สมดุล และพร้อมขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต 

 

        แล้วควรจัดกิจกรรมแบบไหนดี ระยะเวลานานเท่าใด คำตอบนี้ก็ต้องปรับให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละองค์กร แต่หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ปรึกษา SAKID ได้ เราไม่ใช่แค่ผู้นำกิจกรรมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาช่วยออกแบบกิจกรรมสุขภาพให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร รวมทั้งวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางสุขภาพให้จบครบในที่เดียว ทำให้คนในองค์กรมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

         Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ทำอาหารสุขภาพ Cooking class สุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม นักกายภาพออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้

แหล่งอ้างอิง

  • World Health Organization. (2020). Mental health in the workplace. WHO.

  • Johns, G. (2010). Presenteeism in the workplace: A review and research agenda. Journal of Organizational Behavior, 31(4), 519–542.

  • Ministry of Public Health, Thailand. (2021). แนวทางการส่งเสริมสุขภาพจิตในสถานประกอบการ.

บทความที่น่าสนใจ

Cover-จัดสวนขวด-sakid

WORKSHOP สวนขวดจิ๋ว

กิจกรรม  “จัดสวนขวด Terrarium”

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop “จัดสวนขวด Terrarium”  ให้กับบริษัทเอสพี อินเตอร์แมค โดย Green Terra Station ภายในงานผู้เข้าร่วมได้จัดสวนขวดด้วยตนเอง ได้ทั้งความสนุก และความผ่อนคลาย พร้อมทั้งรับสวนขวดตามแบบฉบับของตนเองกลับไปอีกด้วย  

อ่านต่อ »

Mental Health ในที่ทำงาน ปัญหาที่องค์กรไม่ควรมองข้าม

mental health หรือสุขภาพจิตของพนักงาน กลายเป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรไม่ควรมองข้าม เพราะไม่เพียงส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน แต่ยังสะท้อนตรงไปยังประสิทธิภาพการทำงาน ผลผลิตของทีม และภาพรวมขององค์กรโดยตรง

อ่านต่อ »
จัดโต๊ะทำงาน

“จัดโต๊ะทำงาน” สร้างสุขในการทำงานง่ายๆ ด้วยความเป็นระเบียบ

เคยไหม? ก่อนเริ่มทำงาน ต้องจัดโต๊ะ จัดห้องให้เรียบร้อยก่อน ไม่งั้นจะรู้สึกหงุดหงิด ไม่มีสมาธิทำงาน ไขประโยชน์ของการจัดโต๊ะทำงาน พร้อมเทคนิคจัดโต๊ะ เคลียร์สมอง!

อ่านต่อ »
MEA-Fatty model-SAKID

WORKSHOP MEA Fatty model

กิจกรรม MEA Fatty model

วันที่ 18 มิถุนายน  2567 SAKID  ได้จัดกิจกรรม MEA Fatty model สำหรับผู้ที่มีปัญาไขมันในเลือดสูงและน้ำหนักเกินเกณฑ์ โดยที่ทีมนักกำหนดอาหารวิชาชีพ เข้ามาจัดกิจกรรมโดยแบ่งเป็น 4 ฐานที่เชื่อมโยงกับการลดไขมัน คือ ฐานน้ำตาล ที่จะมีเกมให้เล่นและแฝงความรู้เรื่องการเลือกเครื่องดื่มปริมาณน้ำตาลแผงที่อยู่ในอาหาร ฐานไขมัน จะมีเกมให้คิดว่าอาหารอันไหนที่ไขมันมากสุดและน้อยสุดโดยที่จะสอนเรื่องการเลือกใช้น้ำมันประกอบอาหาร ฐานโปรตีนการเลือกกินอาหารส่วนของเนื้อสัตว์ และฐานโซเดียม ที่จะมาให้ความรู้เรื่องอาหารที่กินอยู่ในชีวิตประจำวันว่ามีโซเดียมประมาณเท่าไร และการเลือกกินอย่างถูกต้องให้สมดุลเพื่อที่จะให้ลดไขมันลงได้

อ่านต่อ »
workshop การยศาสตร์ในการทำงาน-SAKID

workshop การยศาสตร์ในการทำงาน (Ergonomics Training)

กิจกรรม  Workshop “Meditationand Deep relaxation ”

เมื่อวันที่ 9  มกราคม  2567 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop “กายศาสตร์ในการทำงาน” โดยนักกายภาพบำบัดที่จะมาสอนความรู้เรื่องกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายเบื่้องต้น อาหารแบบไหนที่เจ็บแล้วอันตรายควรไปพบคุณหมอ การปรับท่านั่งการทำงานให้ถูกต้องตามสรีระของแต่คน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ หรือตัวเอง การยืดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ที่ถูกใช้บ่อย ๆ สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เมื่อย ล้า ให้บรรเทาลง ปรับท่าแก้ปัญหาไหล่ห่อ คอยื่น และเรื่องที่ควรระวังในการยกของหนัก ท่าที่ถูกต้อง สำหรับการยกของหนัก และการนั่งทำงานที่ใช้โน๊ตบุ๊คเป็นหลัก

อ่านต่อ »
Cover Sport day-SAKID

Sport Day กีฬาสี

กิจกรรม  Workshop “Meditationand Deep relaxation ”

เมื่อวันที่ 29  กันยายน 2566 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Sport day กีฬาสีให้กับบริษัทเอสพีอินเตอร์แมค โดยได้แบ่งกิจกรรมกีฬาสีบวกกับความรู้เข้าไปผ่านเกม โดยมีนักกำหนดอาหารให้ความรู้ เช่น เกมชานม เกมวิ่งน้ำตาล โดยมีการอธิบายให้ความรู้ผ่านเกม

อ่านต่อ »
URL Copied!

แบบประเมินความเครียด สำหรับพนักงานออฟฟิศ

       ความเครียดกลายเป็น “โรคเงียบ” ของคนทำงานออฟฟิศ การมีเครื่องมือช่วยตรวจสอบและติดตามภาวะความเครียดของพนักงานจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะความเครียดไม่ได้เพียงทำลายสุขภาพจิต แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อ ประสิทธิภาพการทำงาน การขาดงาน และอัตราการลาออก

 

      สำหรับ HR แบบประเมินความเครียดไม่ใช่แค่แบบสอบถามธรรมดา แต่เป็น “เครื่องมือข้อมูลเชิงลึก” ที่ช่วยให้เห็นภาพรวมสุขภาพใจของพนักงาน และใช้วางแผนเชิงกลยุทธ์ด้าน การจัดการความเครียด และ Wellness Program ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แบบประเมินความเครียดคืออะไร

แบบประเมินความเครียด คือชุดคำถามที่ออกแบบมาเพื่อวัดระดับความเครียด ทั้งในเชิง ร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม โดยทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบ Self-Assessment ที่พนักงานตอบด้วยตัวเอง

 

แบบประเมินความเครียดมาตรฐานที่นิยมใช้

• แบบสอบถาม DASS-21 (Depression Anxiety Stress Scales): ใช้ประเมินภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และความเครียด

• แบบสอบถาม ST-5 (แบบวัดความเครียด 5 ข้อ): เหมาะสำหรับองค์กรในไทย ใช้ง่ายและรวดเร็ว

• แบบสอบถาม PSS (Perceived Stress Scale): วัดการรับรู้ความเครียดในชีวิตประจำวัน

 

เกณฑ์การประเมินผล

สามารถใช้ผลการประเมินเพื่อ

• ระบุพนักงานที่อยู่ในภาวะเสี่ยง Burnout

• ประเมินแนวโน้มสุขภาพจิตของทีม

• วางแผนโครงการส่งเสริมสุขภาพใจ (เช่น Workshop, EAP)

• ใช้เป็นดัชนีวัดความสำเร็จของสวัสดิการสุขภาพ

ST-5 แบบประเมินความเครียด

ST-5 แบบประเมินความเครียด (5 ข้อ)

ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีอาการต่อไปนี้บ่อยแค่ไหน เลือกคำตอบที่ใกล้เคียงที่สุด (0=ไม่เลย, 1=เล็กน้อย, 2=ค่อนข้างมาก, 3=มากที่สุด)

0–4 ปกติ 5–7 เครียดเล็กน้อย 8–9 เครียดปานกลาง 10–15 เครียดรุนแรง

ผลการประเมิน

0
ปกติ

ข้อมูลของคุณเป็นแบบไม่ระบุตัวตน ใช้เพื่อการประเมินตนเองเท่านั้น ไม่ใช่การวินิจฉัยทางการแพทย์ หากได้คะแนนสูง (≥10) หรือมีความคิดทำร้ายตนเอง โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันที หรือโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง

คำแนะนำทั่วไป: พักผ่อนให้พอ ออกกำลังกายเบา ๆ หายใจลึก 4-7-8 งดคาเฟอีนช่วงบ่าย สื่อสารกับหัวหน้างานเรื่องภาระงาน และใช้ EAP/ปรึกษานักจิตวิทยาเมื่อจำเป็น

ประโยชน์ของแบบประเมินความเครียดต่อ HR และองค์กร

1.เข้าใจพนักงานเชิงลึก → เห็นปัญหาที่อาจไม่ถูกพูดออกมา เช่น ความเหนื่อยล้า ความกังวลใจ

2.ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต → ตรวจพบปัญหาก่อนลุกลามเป็นโรคซึมเศร้าหรือ Burnout

3.เชื่อมโยงกับ HR Analytics → ใช้ข้อมูลวางแผนกลยุทธ์บุคลากร เช่น การจัด Workload หรือนโยบาย Hybrid Work

4.สร้าง Employer Branding → แสดงให้องค์กรเป็น “ที่ทำงานที่ใส่ใจสุขภาพพนักงาน”

 

ขั้นตอนการนำแบบประเมินความเครียดมาใช้จริง

1. การเตรียมความพร้อมด้านข้อมูลและความลับ

• แจ้งพนักงานชัดเจนว่า ข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ

• ใช้แบบประเมินออนไลน์ที่ไม่ระบุชื่อ เพื่อให้พนักงานตอบอย่างตรงไปตรงมา

2. การเก็บผลและเชื่อมโยงกับนโยบาย HR

• วิเคราะห์ผลรวมระดับองค์กร เพื่อตัดสินใจเชิงนโยบาย

• หากพบพนักงานกลุ่มเสี่ยง → HR สามารถแนะนำให้เข้าร่วม โปรแกรม EAP (Employee Assistance Program) หรือส่งต่อผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต

 

วิธีการส่งเสริมสุขภาพจิตในองค์กร-SAKID

แนวทางจัดการความเครียดหลังการประเมิน

 

HR กับการสร้าง Employee Assistance Program (EAP)

EAP คือ โปรแกรมช่วยเหลือพนักงานด้านสุขภาพจิตที่หลายองค์กรชั้นนำใช้ ช่วยให้พนักงานเข้าถึงนักจิตวิทยาอย่างเป็นความลับ และลดภาระงาน HR

👉 อ่านเพิ่มเติม: EAP คืออะไร

 

การเสริมกิจกรรม Wellness และ Workshop

องค์กรสามารถต่อยอดจากผลประเมินด้วยการจัด Workshop จัดการความเครียด เช่น

• เวิร์กช็อป “Mindfulness ในที่ทำงาน”

• Self-reflection คลายความตึงเครียดในออฟฟิศ

• การจัดการ Burnout

👉 สนใจจัด Workshop ดูเพิ่มเติมที่ SAKID Workshop

Checklist สำหรับ HR การใช้แบบประเมินความเครียดให้ได้ผล

 

เลือกแบบประเมินที่เหมาะกับวัฒนธรรมองค์กร

 กำหนดรอบการทำแบบสอบถาม เช่น ทุกไตรมาส

 สร้างระบบเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยและเป็นความลับ

 ใช้ผลวิเคราะห์เชื่อมโยงกับนโยบาย HR

 มีมาตรการติดตามผล (Follow-up) เช่น EAP, Coaching

        การใช้ แบบประเมินความเครียด ไม่ใช่แค่การเก็บข้อมูล แต่คือก้าวแรกสู่ การดูแลสุขภาพใจพนักงานอย่างเป็นระบบ ช่วยให้ HR และผู้บริหารเข้าใจทีมงานมากขึ้น ลดความเสี่ยง Burnout และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ใส่ใจสุขภาพจิต เริ่มต้นวันนี้ ด้วยการนำ แบบประเมินความเครียด มาปรับใช้ในองค์กร แล้วต่อยอดด้วย   Workshop  และ Wellness Program เพื่อสร้างพนักงานที่สุขภาพใจแข็งแรง และองค์กรที่ยั่งยืน

 

        แล้วควรจัดกิจกรรมแบบไหนดี ระยะเวลานานเท่าใด คำตอบนี้ก็ต้องปรับให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละองค์กร แต่หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ปรึกษา SAKID ได้ เราไม่ใช่แค่ผู้นำกิจกรรมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาช่วยออกแบบกิจกรรมสุขภาพให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร รวมทั้งวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางสุขภาพให้จบครบในที่เดียว ทำให้คนในองค์กรมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

         Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ทำอาหารสุขภาพ Cooking class สุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม นักกายภาพออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้

 

แหล่งอ้างอิง

  • Ministry of Public Health. (2021). แนวทางการประเมินและจัดการความเครียดในที่ทำงาน. กรมสุขภาพจิต.

  • WHO. (2020). Mental health in the workplace. World Health Organization.

  • American Psychological Association. (2019). Stress in America survey.

บทความที่น่าสนใจ

สลัดโรล Cooking class-SAKID Cover

Cooking class สลัดโรลเพื่อสุขภาพ

Cooking class สลัดโรลเพื่อสุขภาพ

วันที่ 21 มีนาคม 2568  SAKIDได้จัดกิจกรรม Cooking Class  ให้กับพนักงานบริษัทภิรัช โดยนักกำหนดอาหารจะมาให้ความรู้ Health talk สุขภาพอาหารการกินอาหารสำหรับชาวออฟฟิศสั้นๆ ก่อนเริ่มสอนทำอาหาร สลัดโรล จะเริ่มจากการให้ความรู้เรื่องสารอาหารต่างๆ ที่อยู่ในเมนูหัวใจหลักการทำอาหารเพื่อสุขภาพ การมีแหล่งโปรตีนที่ดี ผักและสมุนไพรต่างๆเพื่อเพิ่มรสชาติในการกินสลัดโรล โดยเมนูจะเป็นสลัดโรลทูน่าและเต้าหู้ ที่สามารถหาซื้อและเตรียมได้อย่างง่ายและเร็วทำกินเองได้ที่บ้านหรือจะทำใส่กล่องมากินเป็นข้าวเช้าก็ได้

อ่านต่อ »
สุขภาพจิต พนักงาน

สุขภาพจิตพนักงาน ปัญหาซ่อนเร้นที่ต้องระวัง

เข้าใจปัญหาสุขภาพจิตในองค์กร ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดในที่ทำงาน บริษัทหรือ HR จะมีมาตรการจัดการปัญหาอย่างไร อ่านคำแนะนำและแนวทางส่งเสริมสุขภาพจิต ที่นี่

อ่านต่อ »
_เก็บออม-หรือเพิ่มรายได้-จุดไหนเราควรจะโฟกัส-SAKID

เก็บออมหรือเพิ่มรายได้ จุดไหนเราควรจะโฟกัส

 ในสถานการณ์ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2565 ที่มีจำนวนผู้สูงอายุราวร้อยละ 20-30 และไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอดเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 28 ในปี 2574 จึงเป็นส่วนหนึ่งให้คนวัยทำงานเริ่มวางแผนทางการเงิน เพื่อให้พร้อมรับกับวัยเกษียณที่จะมาถึง ซึ่งมีทั้งเก็บออมเงินจากการทำงานในปัจจุบัน หรือเลือกที่จะหาช่องทางเพิ่มรายได้ แล้วแบบไหนที่ควรจะเลือกดี

อ่านต่อ »
15-วิธีสังเกต-SAKID

15 วิธีสังเกตภาวะหมดไฟภายในองค์กร (Burnout Syndrome)

ทุกวันนี้รูปแบบการทำงานที่รวดเร็วและแข่งขันกันสูง ทำให้พนักงานในองค์กรเกิดภาวะหมดไฟเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ลักษณะของภาวะหมดไฟอย่างความเหนื่อยหน่ายเรื้อรัง ความรู้สึกด้านชา เป็นสิ่งที่คอยบั่นทอนและลดประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงต่อทั้งพนักงานและองค์กร

อ่านต่อ »
โรคซึมเศร้า ในที่ทำงาน-Sakid thumbnail

โรคซึมเศร้า ในที่ทำงาน นักจิตวิทยาช่วยคุณได้

ในปัจจุบันโรคซึมเศร้าที่คนวัยทำงานต้องเผชิญพบเจอเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยผลจากการศึกษาสุขภาพแบบองค์รวมในประชากรทั่วโลกพบว่าโรคซึมเศร้าทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเป็นอันดับ 2 ในปี 2020และถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นอับดับ 1 ในปี2030 (WHO, 2019) ส่วนในประเทศไทยจากการจัดอันดับการการเสียสุขภาพแบบองค์รวมของคนไทย พบว่าโรคซึมเศร้าก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพเป็นอันดับ 1 ของผู้หญิงไทย ส่วนอันดับ 2 ในผู้ชายไทย

อ่านต่อ »
Smart Office

[เคล็ดลับ] สร้าง Smart Office ที่ดีเพื่อองค์กรของคุณ

ในยุคหลังโควิด เกิดการปรับตัวขององค์กรมากมาย หนึ่งในนั้นคือการปรับเปลี่ยนองค์กรให้เป็น Smart Office ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คนทำงานมากขึ้น แนะนำเคล็ดลับ

อ่านต่อ »
URL Copied!

Mental Health ในที่ทำงาน ปัญหาที่องค์กรไม่ควรมองข้าม

       Mentral Health หรือสุขภาพจิตของพนักงาน กลายเป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรไม่ควรมองข้าม เพราะไม่เพียงส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน แต่ยังสะท้อนตรงไปยังประสิทธิภาพการทำงาน ผลผลิตของทีม และภาพรวมขององค์กรโดยตรง

 

       งานวิจัยจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ว่า ความผิดปกติทางสุขภาพจิตในที่ทำงานสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจระดับโลกนับล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ขณะเดียวกัน กรมสุขภาพจิตของไทยก็รายงานว่า ความเครียดและภาวะซึมเศร้าเป็นสาเหตุหลักของการลาป่วยในองค์กรไทยจำนวนมาก 

 

       สำหรับ HR และผู้บริหารแล้ว การดูแล สุขภาพจิตพนักงาน จึงไม่ใช่เพียงเรื่องสวัสดิการ แต่คือการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ที่ช่วยรักษาบุคลากรที่มีคุณค่า ลดความเสี่ยงจาก burnout

Mental Health ในที่ทำงาน

Mental health หมายถึง ความสามารถของบุคคลในการรับมือกับความเครียด การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการมีส่วนร่วมกับสังคมได้อย่างสมดุล เมื่อพนักงานมีสุขภาพจิตที่ดี พวกเขาจะสามารถใช้ศักยภาพได้เต็มที่ ทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกับผู้อื่น

 

ปัจจัยที่กระทบสุขภาพจิตพนักงาน

• ปริมาณงานที่มากเกินไป และเวลาทำงานที่ไม่ยืดหยุ่น

• ความสัมพันธ์กับหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน

•  การขาดความมั่นคงในงาน และการประเมินผลที่ไม่ชัดเจน

• สภาพแวดล้อมในการทำงาน ที่ไม่เอื้อต่อสมดุลชีวิต-การทำงาน

 

ผลกระทบต่อองค์กรเมื่อมองข้าม

• อัตราการขาดงาน (absenteeism) สูงขึ้น

• ประสิทธิภาพการทำงานลดลง (presenteeism)

• การลาออกบ่อย (turnover rate)

• วัฒนธรรมองค์กรที่เป็นพิษ (toxic workplace)

สัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพจิตในองค์กร

แม้หลายครั้งพนักงานจะไม่พูดตรง ๆ ว่ากำลังเผชิญปัญหาทางใจ แต่ก็มี สัญญาณเตือน ที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจน หาก HR และหัวหน้างานใส่ใจ จะสามารถช่วยเหลือได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

1. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงาน

• ผลงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำได้ดี

• มาสายบ่อยขึ้น หรือลาป่วยบ่อยโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน

• ไม่สนใจรายละเอียดงาน หรือตัดสินใจผิดพลาดมากขึ้น

2. การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และบุคลิกภาพ

• หงุดหงิดง่าย โมโหบ่อย หรือแสดงอารมณ์รุนแรง

• แยกตัว ไม่เข้าร่วมกิจกรรมทีม หรือหลีกเลี่ยงการประชุม

• แสดงอาการหมดไฟ เช่น พูดว่ารู้สึก “ไม่ไหวแล้ว” หรือ “หมดแรงใจ”

3. ปัญหาด้านความสัมพันธ์ในที่ทำงาน

• มีความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานมากขึ้น

• ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น หรือเงียบผิดปกติ

• หลีกเลี่ยงการพบปะสื่อสารกับหัวหน้างาน

4. สัญญาณด้านร่างกายที่สะท้อนสุขภาพจิต

• น้ำหนักขึ้นหรือลดลงเร็วผิดปกติ

• ปวดหัว นอนไม่หลับ หรือมีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง

• ใช้สารเสพติด แอลกอฮอล์ หรือบุหรี่เพิ่มขึ้น

5. ผลกระทบเชิงองค์กรที่ควรจับตา

• อัตราการลาออกสูงผิดปกติในบางทีม

• จำนวนวันลาป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

• Engagement score ลดลงจากการสำรวจพนักงาน

 

จากงานวิจัยที่ HR ควรรู้

  • งานวิจัยจาก Deloitte (2022) พบว่า 77% ของพนักงานประสบกับ burnout อย่างน้อยหนึ่งครั้ง

  • ในประเทศไทย กรมสุขภาพจิตรายงานว่า ปัญหาความเครียดและภาวะซึมเศร้าเป็นสาเหตุสำคัญของการลาป่วยในองค์กร

นักจิตวิทยาหลังแผ่นดินไหว-SAKID

การดูแล Mental Health พนักงาน

เมื่อองค์กรตระหนักถึงความสำคัญของ mental health คำถามต่อมาคือ “แล้วจะเริ่มต้นอย่างไร?” เพราะการดูแลสุขภาพจิตพนักงานไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยมาตรการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัย กลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งเชิงป้องกันและเชิงแก้ไข

 

การจัดการความเครียดในที่ทำงาน

• จัด workload management ให้สมดุล

• เพิ่ม flexible working hours หรือ work-from-home

• จัดอบรมเรื่อง การจัดการความเครียด และ mindfulness

 

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดภัยทางจิตใจ (Psychological Safety)

องค์กรควรสร้างบรรยากาศที่พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างไม่กลัวการถูกตัดสิน การมี ผู้นำที่ฟังจริง และเปิดโอกาสให้ feedback จะช่วยลดแรงกดดัน

 

การใช้ Employee Assistance Program (EAP)

EAP เป็นโปรแกรมที่มี นักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา สำหรับพนักงานที่เผชิญปัญหาความเครียด ครอบครัว หรือการเงิน สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ EAP คืออะไร

Workshop นักจิตวิทยาและการปรึกษาออนไลน์สำหรับพนักงาน

หนึ่งในกลยุทธ์ที่องค์กรสามารถใช้เพื่อดูแล mental health ของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ คือการจัดให้มี Workshop ด้านสุขภาพจิต และการเปิดช่องทาง ปรึกษานักจิตวิทยาออนไลน์ ซึ่งตอบโจทย์พนักงานยุคใหม่ที่อาจไม่สะดวกเดินทางไปพบผู้เชี่ยวชาญด้วยตนเอง

 

ทำไม Workshop นักจิตวิทยาจึงสำคัญ

• ช่วยให้พนักงานเข้าใจ การจัดการความเครียด และเทคนิคปรับอารมณ์ในชีวิตประจำวัน

• เปิดพื้นที่ให้พนักงานได้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้ร่วมกัน

• เสริมสร้างความเข้าใจเรื่อง การป้องกัน burnout และการสร้างสมดุลชีวิต-งาน

• เป็นกิจกรรมที่แสดงให้องค์กรเห็นถึงความใส่ใจต่อสุขภาพจิตของบุคลากร

 

ตัวอย่างหัวข้อเวิร์กช็อปที่ได้รับความนิยมในองค์กร

• Mindfulness at Work  ฝึกสติในที่ทำงานเพื่อลดความเครียด

• Stress Management 101  เทคนิคจัดการความเครียดแบบง่าย ๆ

• Building Resilience  การสร้างภูมิคุ้มกันทางใจเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง

 

ปรึกษานักจิตวิทยาออนไลน์: การเข้าถึงที่ง่ายขึ้น

ปัจจุบันหลายองค์กรเปิดบริการ Online Counseling ให้พนักงานสามารถพูดคุยกับนักจิตวิทยาได้ผ่านแอปพลิเคชัน วิดีโอคอล หรือแชทส่วนตัว ข้อดีคือ

• เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

• รักษาความเป็นส่วนตัว ทำให้พนักงานรู้สึกปลอดภัยในการเปิดใจ

• ลดอุปสรรคเรื่อง stigma เพราะหลายคนยังรู้สึกไม่กล้าไปพบผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัว

การมีทั้ง Workshop และ Online Counseling จะช่วยให้องค์กรดูแลสุขภาพจิตพนักงานได้ครบมิติ ทั้งเชิงป้องกันและการให้ความช่วยเหลือเฉพาะราย

Checklist 5 ขั้นตอนดูแล Mental Health พนักงาน

ประเมินสถานการณ์  ใช้แบบสอบถามความเครียดและ burnout

เปิดช่องทางรับฟังอย่างจริงใจ  ให้องค์กรแสดงความตั้งใจที่จะรับฟังความคิดเห็น

จัดโปรแกรมสนับสนุน  เช่น EAP หรือกิจกรรมเวิร์คช็อป

ฝึกอบรมหัวหน้างาน  ให้เข้าใจการสังเกตสัญญาณสุขภาพจิต

ติดตามและปรับปรุง  ใช้ KPI เช่น turnover rate, sick leave days

 

         Mental healthในที่ทำงานไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่คือปัจจัยหลักที่กำหนดคุณภาพชีวิตของพนักงานและความยั่งยืนขององค์กร หาก HR และผู้บริหารเริ่มลงมือวันนี้ องค์กรจะได้ผลลัพธ์ทั้งในด้าน performance และ people อย่าปล่อยให้ความเครียดและ burnout ทำลายทีมของคุณ มาร่วมสร้างองค์กรที่ใส่ใจสุขภาพจิตพนักงานไป

 

        แล้วควรจัดกิจกรรมแบบไหนดี ระยะเวลานานเท่าใด คำตอบนี้ก็ต้องปรับให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละองค์กร แต่หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ปรึกษา SAKID ได้ เราไม่ใช่แค่ผู้นำกิจกรรมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาช่วยออกแบบกิจกรรมสุขภาพให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร รวมทั้งวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางสุขภาพให้จบครบในที่เดียว ทำให้คนในองค์กรมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

         Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ทำอาหารสุขภาพ Cooking class สุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม นักกายภาพออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้

แหล่งอ้างอิง

  • World Health Organization. (2022). Mental health in the workplace. WHO.

  • Deloitte. (2022). Women @ Work: A global outlook. Deloitte Insights.

  • กรมสุขภาพจิต. (2565). รายงานสุขภาพจิตคนทำงาน. กระทรวงสาธารณสุข

บทความที่น่าสนใจ

เมื่อคนในองค์กรน้ำหนักเกิน-01-SAKID

ทำอย่างไร เมื่อคนในองค์กรน้ำหนักเกิน

 ปัจจุบันในประเทศไทยพบว่าแนวโน้มภาวะ น้ำหนักเกิน และ ภาวะอ้วนเพิ่งสูงขึ้น ซึ่งสาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป ร่วมกับ activity ที่ลดลง เป็นตัวส่งเสริมให้เรามีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพนักงงาน office อย่างเราๆ ที่ Activity นั้นแสนจะน้อยนิด ส่วนใหญ่ก็นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ จนหลายคนเกิดปัญหาเรื่อง Office syndrome ตามมา

อ่านต่อ »
คลาสออกกำลังกาย-SAKID

คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน

หลังจากที่ทำงานมาอย่างยาวนานและเต็มไปด้วยความเครียด การหาเวลาให้ตัวเองด้วยการออกกำลังกายอาจจะเป็นเรื่องยาก ระหว่างที่รอช่วงเลยเวลารถติดหรือผู้คนจำนวนมากในเวลาเร่งด่วนช่วงเย็น  “คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน” เป็น1ในตัวเลือกที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนทำงานที่ต้องการดูแลสุขภาพและผ่อนคลายจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวันซึ่งสามารถกำหนดเวลาได้ชัดเจนและเป็นกิจวัตรประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นโยคะที่สงบผ่อนคลาย คลาสเต้นสนุกสนาน หรือการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ช่วยเผาผลาญแคลอรี คลาสเหล่านี้มีตัวเลือกมากมายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายแล้ว ยังเพิ่มพลังงานและสร้างสมดุลให้กับชีวิตได้อย่างดี

อ่านต่อ »
Sakid-mea-มีนบุรี-Cover

บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตมีนบุรี

บูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิด ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตมีนบุรี

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 Sakid ได้ออกบูธประชาสัมพันธ์แอพสะกิดให้กับการไฟฟ้านครหลวง เขตมีนบุรี ในกิจกรรม Fun for Fit เพื่อแนะนำการเข้าร่วมโครงการ  “MEA เบิร์นเกินร้อย” เปิดศึกการแข่งกันระหว่างทีมเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี ด้วยการส่งภารกิจสุขภาพผ่านแอพสะกิด และลุ้นรับของรางวัลในแต่ละเดือน

อ่านต่อ »
template -SET Start healthy strong together-SAKID

SET Start healthy strong together with SAKID

จบไปแล้วสำหรับกิจกรรม SET Start healthy strong together ที่แข่งขันทำภาารกิจสุขภาพดี โดยผ่าน SAKID application ตลอดระยะเวลากันยายน– พฤศจิกายน 67  มีการออกแบบภารกิจสุขภาพทั้งปรับเรื่องอาหาร ลดไขมัน เพิ่มผักใย และออกกำลังกายให้เหมาะสมพร้อมด้วยโค้ชนักกำหนดอาหารวิชาชีพดูแลเป็นรายบุคคลในการปรับการกินอาหารตามภารกิจในแต่ละวัน โดยได้มีการจัดแบ่งทีมทั้งหมด 4 ทีมเพื่อแข่งขันสุขภาพดีและได้รับรางวัลโดยคนที่มีคะแนนสูงสุดในแต่ละทีมจะได้รางวัลพิเศษอีกด้วย ในกิจกรรมนี้ทุกคนได้ที่เข้าร่วมได้ปรับเปลี่ยนโดยการกินน้ำเปล่าเพิ่มมากขึ้น เดินกันเพิ่มมากขึ้น และส่งรูปอาหารที่กินมีผักเพิ่มขึ้นในแต่ละมื้อ

อ่านต่อ »
Sakid thumbnail-หมด Passion ในการทำงาน

เมื่อพนักงานสูญเสีย Passion ในงาน: วิธีจุดประกายแรงบันดาลใจในที่ทำงานอีกครั้ง

โดยทั่วไปหมายถึงแรงผลักดันอย่างแรงกล้าที่ทำให้เรามุ่งมั่นและเต็มใจอุทิศตนให้กับกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งอย่างต่อเนื่องและทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ (Vallerand, 2015) โดย  Passion ในการทำงาน (Work passion) คือ สภาวะทางจิตใจที่บุคคลรู้สึกกระตือรือร้น ยินดี และเต็มใจที่จะอุทิศเวลา พลังกาย พลังใจ ให้กับการทำงาน จนรู้สึกว่างานเป็นส่วนหนึ่งที่มีคุณค่าในชีวิต (Vallerand et al., 2003) และในทางจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การแบ่ง passion ออกเป็น 2 ประเภท คือ harmonious passion และ obsessive passion

อ่านต่อ »
สลัดโรล Cooking class-SAKID Cover

Cooking class สลัดโรลเพื่อสุขภาพ

Cooking class สลัดโรลเพื่อสุขภาพ

วันที่ 21 มีนาคม 2568  SAKIDได้จัดกิจกรรม Cooking Class  ให้กับพนักงานบริษัทภิรัช โดยนักกำหนดอาหารจะมาให้ความรู้ Health talk สุขภาพอาหารการกินอาหารสำหรับชาวออฟฟิศสั้นๆ ก่อนเริ่มสอนทำอาหาร สลัดโรล จะเริ่มจากการให้ความรู้เรื่องสารอาหารต่างๆ ที่อยู่ในเมนูหัวใจหลักการทำอาหารเพื่อสุขภาพ การมีแหล่งโปรตีนที่ดี ผักและสมุนไพรต่างๆเพื่อเพิ่มรสชาติในการกินสลัดโรล โดยเมนูจะเป็นสลัดโรลทูน่าและเต้าหู้ ที่สามารถหาซื้อและเตรียมได้อย่างง่ายและเร็วทำกินเองได้ที่บ้านหรือจะทำใส่กล่องมากินเป็นข้าวเช้าก็ได้

อ่านต่อ »
URL Copied!

รู้จัก เวิร์คไลฟ์บาลานซ์ แยกเรื่องงาน ดูแลสุขภาพและชีวิต

เวิร์คไลฟ์บาลานซ์ สำคัญสำหรับองค์กรเพราะเราอยู่ในยุคที่พนักงานต้องทำงานแข่งกับเวลาและเป้าหมายที่กดดัน ปัญหาความเครียดและภาวะหมดไฟ (Burnout) เกิดขึ้นบ่อยในหลายองค์กร การสร้าง เวิร์คไลฟ์บาลานซ์ (Work life balance) จึงไม่ใช่เพียงสวัสดิการ แต่เป็น กลยุทธ์สำคัญของ HR ที่จะช่วยเสริมสุขภาพองค์รวม (Wellbeing) และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

เวิร์คไลฟ์บาลานซ์ คืออะไร

เวิร์คไลฟ์บาลานซ์ หมายถึง สมดุลระหว่างเวลาทำงานและชีวิตส่วนตัว ที่ช่วยให้พนักงานมีพลังทั้งกายและใจ ลดความตึงเครียด และใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า

หลักการสำคัญของเวิร์คไลฟ์บาลานซ์

• เวลางานที่ชัดเจน ไม่รบกวนเวลาส่วนตัว

• การสนับสนุนด้านสุขภาพกายและใจ

• วัฒนธรรมการทำงานที่ยืดหยุ่น

ความแตกต่างระหว่าง Work life balance และ Wellbeing

• Work life balance: เน้นที่ เวลา และ การแบ่งแยกขอบเขตงาน-ชีวิต

• Wellbeing: ครอบคลุมสุขภาพองค์รวม ทั้งกาย ใจ อารมณ์ สังคม และการเงิน

ดังนั้น การทำงานที่มีสมดุลจึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการสร้าง Wellbeing ให้องค์กรอีกด้วย

 

ผลกระทบของการขาดสมดุลต่อองค์กร

เมื่อพนักงานไม่สามารถรักษา สมดุลระหว่างงานกับชีวิต ได้ ผลเสียจะไม่ใช่เพียงเรื่องส่วนบุคคล แต่ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงทั้งทีมและองค์กร ดังนี้

 

1. ผลกระทบต่อพนักงาน (Individual Impact)

• ความเครียดเรื้อรัง (Chronic Stress): พนักงานที่ทำงานหนักเกินไปจะมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง ส่งผลต่อสมาธิ ความจำ และการตัดสินใจ

• สุขภาพร่างกายถดถอย: งานวิจัยของ WHO (2021) ระบุว่าการทำงานเกิน 55 ชั่วโมง/สัปดาห์ เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดถึง 35%

• สุขภาพจิตเสื่อมลง: เกิดภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และหมดไฟ (Burnout)

 

2. ผลกระทบต่อทีมงาน (Team Impact)

• ความร่วมมือและกำลังใจลดลง: พนักงานที่เหนื่อยล้ามักไม่พร้อมช่วยเหลือหรือสนับสนุนเพื่อนร่วมงาน

• คุณภาพงานตกต่ำ: เมื่อหนึ่งคนขาดสมดุล จะส่งผลต่อผลลัพธ์ของทีม เช่น งานล่าช้า การสื่อสารผิดพลาด

• บรรยากาศการทำงานตึงเครียด: ทีมงานที่ทำงานภายใต้ความกดดันสูงต่อเนื่อง อาจเกิดความขัดแย้งบ่อยขึ้น

 

3. ผลกระทบต่อองค์กร (Organizational Impact)

• อัตราการลาออกสูง (Turnover): รายงานของ Gallup พบว่า 76% ของพนักงานที่ลาออกให้เหตุผลว่าเกิดจากความเครียดและการขาด Work life balance

• Productivity ลดลง: พนักงานที่ทำงานเกินกำลังจะทำงานได้ช้าลงและผิดพลาดมากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการแก้ไขปัญหาเพิ่ม

• ต้นทุนสุขภาพองค์กรสูงขึ้น: บริษัทต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลและชดเชยการลาป่วยเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐฯ บริษัทที่ไม่ลงทุนใน Wellness Program สูญเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการขาดงานและ Productivity ที่หายไป

•ภาพลักษณ์องค์กรเสียหาย: ในยุคที่คนรุ่นใหม่เลือกงานจาก “คุณภาพชีวิต” มากกว่าเงินเดือนเพียงอย่างเดียว องค์กรที่ไม่ใส่ใจ Work life balance จะดึงดูดและรักษาคนเก่งได้ยาก

นักจิตวิทยาหลังแผ่นดินไหว-SAKID

วิธีสร้างสมดุลการทำงานและชีวิตในองค์กร

 

1. นโยบายเวลาทำงานยืดหยุ่น (Flexible Work Arrangement)

หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมที่สุดคือการออกแบบเวลาทำงานที่ไม่ตายตัว ให้พนักงานเลือกได้ว่าจะทำงานที่ไหน เมื่อไร โดยยังคงส่งมอบผลงานได้ตามมาตรฐาน

 

ตัวอย่างรูปแบบ

• Flexible hours: กำหนดชั่วโมงการทำงานรวม แต่พนักงานเลือกเวลาเข้างาน–เลิกงานได้

• Hybrid work: สลับระหว่างเข้าออฟฟิศและทำงานจากบ้าน

• Compressed workweek: ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ แต่ชั่วโมงต่อวันยาวขึ้น

 

ประโยชน์ต่อองค์กร

• ลดความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง

• เพิ่ม Engagement เพราะพนักงานรู้สึกได้รับความไว้วางใจ

• ดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ Work life balance

 

2. การสนับสนุนสุขภาพจิตและอารมณ์ (Mental Health & Emotional Support)

สุขภาพใจเป็นหัวใจของ Wellbeing หากละเลยอาจนำไปสู่ Burnout หรือการลาออกได้

 

แนวทางปฏิบัติ

• โปรแกรม EAP (Employee Assistance Program): ให้คำปรึกษาส่วนตัวกับนักจิตวิทยา

• กิจกรรม Mindfulness & Meditation: ฝึกสมาธิเพื่อลดความเครียด

• การอบรม Stress Management: สำหรับทั้งพนักงานและหัวหน้างาน

 

ตัวอย่างจริง
บางองค์กรในไทยเริ่มจัด “Mindfulness at Work Workshop” เดือนละ 1 ครั้ง ทำให้พนักงานรายงานระดับความเครียดลดลงกว่า 30% ภายใน 3 เดือน

 

3. สิ่งแวดล้อมการทำงานและสังคมในองค์กร (Workplace Environment & Social Connection)

บรรยากาศในที่ทำงานส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ของทีม

 

สิ่งที่ HR ทำได้

• ออกแบบพื้นที่ทำงานที่เป็นมิตร: มีแสงธรรมชาติ พื้นที่พักผ่อน หรือโซนเงียบ

• สร้าง Team Bonding Activities: เช่น กิจกรรมกลุ่มเล็กๆ หรือ CSR ร่วมกัน

• วัฒนธรรม Care & Respect: หัวหน้างานควรเคารพเวลาส่วนตัวพนักงาน

 

ผลลัพธ์
ทีมงานที่มี Social Connection แข็งแรง มักมี Engagement สูงขึ้น และลดการลาออก

 

4. โภชนาการและการออกกำลังกาย (Nutrition & Physical Activity)

สุขภาพกายที่แข็งแรงคือพื้นฐานของ Work life balance เพราะร่างกายที่อ่อนล้าไม่สามารถทำงานได้เต็มที่

แนวทางที่องค์กรสามารถทำได้

• โรงอาหารสุขภาพ: มีเมนูที่ผ่านการออกแบบโดยนักกำหนดอาหาร

• Wellness Break: เวลาพักสั้น ๆ สำหรับการยืดเส้นสาย

• Corporate Fitness Program: จัดเวิร์คช็อปออกกำลังกาย เช่น โยคะ ยืดเหยียด ฟิตเนส

 

กรณีศึกษา
บริษัทข้ามชาติหลายแห่งมี “Healthy Canteen” และรายงานว่าอัตราการเจ็บป่วยลดลง 15–20% ภายในปีแรก

จะเห็นว่าทั้ง 4 หัวข้อนี้สามารถช่วยพนักงานด้านไหนบ้าง

• เวลา → ลดความเครียด

• สุขภาพใจ → เสริมความทนทาน

• สิ่งแวดล้อม–สังคม → เพิ่มแรงจูงใจ

• โภชนาการ–ออกกำลังกาย → สร้างพลังงาน

ทั้งหมดนี้คือการวางรากฐานของ Wellbeing Culture ที่ยั่งยืน

SAKID -ดูแลสุขภาพทั้ง4ด้าน

Checklist จัดกิจกรรมสร้างเวิร์คไลฟ์บาลานซ์

ประเมินสภาพแวดล้อม: วิเคราะห์ข้อมูลการลาป่วย การขาดงาน และ Feedback

✅กำหนดเป้าหมาย: ลด Burnout หรือเพิ่ม Engagement

✅ออกแบบนโยบาย: เวลาทำงานยืดหยุ่น, Wellness Program

        การสร้าง เวิร์คไลฟ์บาลานซ์ (Work life balance) คือการจัดสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัวของพนักงานอย่างเหมาะสม เพื่อให้ทุกคนมีทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ และพลังงานเชิงบวกในการทำงาน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่เพียงช่วยลดภาวะ Burnout และความเครียด แต่ยังทำให้บรรยากาศในทีมดีขึ้น การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

        แล้วควรจัดกิจกรรมแบบไหนดี ระยะเวลานานเท่าใด คำตอบนี้ก็ต้องปรับให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละองค์กร แต่หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ปรึกษา SAKID ได้ เราไม่ใช่แค่ผู้นำกิจกรรมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาช่วยออกแบบกิจกรรมสุขภาพให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร รวมทั้งวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางสุขภาพให้จบครบในที่เดียว ทำให้คนในองค์กรมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

         Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ทำอาหารสุขภาพ Cooking class สุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม นักกายภาพออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้

แหล่งอ้างอิง

  • World Health Organization. (2021). Mental health in the workplace. WHO.
  • Maslach, C., & Leiter, M. P. (2016). Burnout. Stress and Health, 32(2), 103–105.
  • Thai Ministry of Public Health. (2022). Workplace wellness and occupational health.
  • CDC. (2020). Workplace health model.
  •  

บทความที่น่าสนใจ

Cover -HIIT-sakid

WORKSHOP ONLINE HIIT ทำน้อยได้มาก

กิจกรรม  “HIIT ทำน้อยได้มาก” ฉบับคนไม่มีเวลา

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop “HIIT  ทำน้อยได้มาก”  ให้กับบริษัทเอสพี อินเตอร์แมค โดยผู้เข้าร่วม Workshop Online จะได้รู้เรื่องการใช้พลังงานของร่างกายส่วนต่างๆ และท่าออกกำลังกายที่ทำได้ โดยไม่ต้องใช้เวลาเยอะในการออกกำลังกาย

อ่านต่อ »
วิเคราะห์ผลสุขภาพพนักงานได้ทันทีผ่าน-SAKID-Dashboard-01

วิเคราะห์ผลสุขภาพพนักงานได้ทันทีผ่าน SAKID Dashboard

ที่ไหนมีคนอยู่ร่วมกัน  ปัญหาความขัดแย้งย่อมเกิดขึ้นที่นั่น และยิ่งคนเยอะเท่าไหร่  ความขัดแย้งยิ่งมีความซับซ้อนหลายระดับ ทั้งแบบเก็บงำเป็นความไม่ชอบส่วนตัว  จนถึงการแสดงความก้าวร้าวทางวาจา  หรือรังแกอีกฝ่ายในแบบต่างๆ  บางครั้งความขัดแย้งระหว่างบุคคลอาจขยายตัวมากขึ้นทำให้คนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมจนเป็นเหตุให้คนในองค์กรต้องแบ่งพรรคแบ่งพวก  สร้างบรรยากาศที่ไม่ไว้วางใจกัน  และไม่เคารพซึ่งกันและกันในองค์กร  เหตุการณ์ต่างๆ ยิ่งเลวร้ายลงเพราะหัวหน้างานอาจยังไม่ทราบเรื่อง

อ่านต่อ »
มารู้จัก EAP cr-SAKID

มารู้จักกับ EAP:โปรแกรมช่วยเหลือพนักงาน ให้คำแนะนำส่วนตัว

คุณรู้สึกเครียด กังวล หรือเหนื่อยล้ากับงานอยู่หรือเปล่า? คุณมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์หรือปัญหาส่วนตัวอื่นๆ อยู่หรือไม่? หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ EAP คือคำตอบของคุณ

EAP ย่อมาจาก Employee Assistance Program หรือโปรแกรมช่วยเหลือพนักงาน เป็นโปรแกรมสวัสดิการที่บริษัทมอบให้พนักงาน เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ ในชีวิต ทั้งเรื่องงาน ความสัมพันธ์ ปัญหาทางการเงิน หรือปัญหาอื่นๆ ในชีวิตส่วนตัว โดยให้บริการผ่านนักจิตวิทยาให้คำปรึกษาที่เชี่ยวชาญ

อ่านต่อ »
กีฬาสี-จัดได้ง่าย-สร้างทีมได้ด้วย-SAKID

กีฬาสี จัดได้ง่าย สร้างทีมได้ด้วย

  กิจกรรมกีฬาสี หรือ Sport Day นับเป็นกิจกรรมหนึ่งที่หลาย ๆ บริษัทนิยมจัดให้กับพนักงาน เพราะกีฬาสีเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการเสริมสร้างสุขภาวะ แม้จะแข่งขันเพื่อผลแพ้ชนะแต่จุดประสงค์หลักก็เพื่อให้พนักงานในบริษัทได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกันนอกเหนือจากภาระงานของตนเอง

อ่านต่อ »
_เก็บออม-หรือเพิ่มรายได้-จุดไหนเราควรจะโฟกัส-SAKID

เก็บออมหรือเพิ่มรายได้ จุดไหนเราควรจะโฟกัส

 ในสถานการณ์ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2565 ที่มีจำนวนผู้สูงอายุราวร้อยละ 20-30 และไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอดเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 28 ในปี 2574 จึงเป็นส่วนหนึ่งให้คนวัยทำงานเริ่มวางแผนทางการเงิน เพื่อให้พร้อมรับกับวัยเกษียณที่จะมาถึง ซึ่งมีทั้งเก็บออมเงินจากการทำงานในปัจจุบัน หรือเลือกที่จะหาช่องทางเพิ่มรายได้ แล้วแบบไหนที่ควรจะเลือกดี

อ่านต่อ »
Sakid thumbnail -happiness work

องค์กรแห่งความสุข ฉบับคนทำงาน: 10 เคล็ดลับสร้างสถานที่ทำงานแห่งความสุข

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางองค์กรถึงประสบความสำเร็จอย่างสูง ในขณะที่บางองค์กรกลับล้มเหลว คำตอบอยู่ที่ความสุขของพนักงาน งานวิจัยมากมายชี้ให้เห็นว่าพนักงานที่มีความสุขนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ความคิดสร้างสรรค์ที่มากขึ้น อัตราการลาออกที่ลดลง และการให้บริการลูกค้าที่ดีขึ้น

อ่านต่อ »
URL Copied!

รีวิว จัด กิจกรรมบริษัท ให้พนักงานสุขภาพดีได้ด้วย SAKID

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจรุนแรงขึ้น “พนักงาน” ไม่ได้เป็นเพียงแรงงาน แต่คือ ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร การดูแลสุขภาพกายและใจของพนักงานจึงเป็นภารกิจสำคัญของฝ่าย HRD/HR

 

หนึ่งในวิธีที่ง่ายและได้ผล คือการ จัดกิจกรรมบริษัท (Company Activities) ที่ผสมผสานความสนุกกับการสร้างสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมพนักงานบริษัทในรูปแบบ Workshop, Challenge หรือ Team Building หากทำอย่างมีระบบ จะช่วยให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีขึ้น ลดอัตราการขาดงาน และสร้างความผูกพันกับองค์กร (Employee Engagement)

ทำไม “กิจกรรมบริษัท” ถึงสำคัญต่อองค์กรยุคใหม่

 

• ลดความเครียดและ Burnout: ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต ระบุว่าพนักงานไทยกว่า 30% เผชิญความเครียดสูงจนกระทบการทำงาน หากไม่มีมาตรการป้องกัน อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตเรื้อรัง

• เพิ่มความผูกพันองค์กร (Engagement): งานวิจัยจาก Gallup พบว่า พนักงานที่มี Engagement สูงสามารถสร้าง Productivity มากกว่าพนักงานทั่วไปถึง 21%

• สร้าง Employer Branding: องค์กรที่จัดกิจกรรมดูแลสุขภาพพนักงานสม่ำเสมอ จะถูกมองว่าใส่ใจบุคลากร ทำให้ง่ายต่อการดึงดูดและรักษาคนเก่ง

 

เรียกได้ว่า กิจกรรมองค์กรที่ดี = การลงทุนระยะยาวของบริษัท

ประเภทกิจกรรมพนักงานบริษัทที่ช่วยเสริมสุขภาพ

กิจกรรมด้านโภชนาการ

• Healthy Canteen: โรงอาหารสุขภาพที่มีเมนูโภชนาการครบถ้วน ลดหวาน มัน เค็ม

• Workshop ทำอาหารสุขภาพ: เชิญนักกำหนดอาหารมาสอนวิธีปรุงเมนูง่าย ๆ ที่พนักงานนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

 

กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย

• Office Exercise: การยืดเส้นยืดสาย 5–10 นาทีระหว่างวัน

• Corporate Fitness Challenge: แข่งขันนับก้าว เดิน-วิ่งสะสม หรือปั่นจักรยาน เพื่อกระตุ้นการเคลื่อนไหว

 

กิจกรรมด้านจิตใจและอารมณ์

• Mindfulness Workshop: ฝึกสติและสมาธิเพื่อลดความเครียด

• Stress Management Program: โปรแกรมจัดการความเครียด เช่น Yoga, Breathing Exercise

 

กิจกรรมด้านสังคมและทีมเวิร์ก

• Team Building Camp: กิจกรรมกลางแจ้งเพื่อสร้างความสามัคคี

• Volunteer Day: กิจกรรมอาสาสมัคร เช่น ปลูกป่า เก็บขยะ สร้างคุณค่าและความภูมิใจร่วมกัน

SAKID ช่วยให้กิจกรรมบริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไร

แอปพลิเคชัน SAKID ได้รับการออกแบบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ 3 สาขา (นักกำหนดอาหาร, นักวิทยาศาสตร์การกีฬา, นักจิตวิทยา) เพื่อช่วยองค์กร จัดกิจกรรมบริษัทด้านสุขภาพอย่างครบวงจร

 

• Health Mission: ภารกิจสุขภาพรายบุคคลกว่า 1,000 รายการ

• Health Challenge: แข่งขันกันในทีม เช่น นับก้าว, ดื่มน้ำ, ออกกำลังกาย → ทำให้กิจกรรมสนุก

• Mood Tracking: บันทึกอารมณ์และความสุขของพนักงาน ช่วยติดตามสุขภาพจิต

• HR Dashboard: วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพเชิงลึก → ผู้บริหารเห็นผลชัด วัด ROI ได้

ภาพกิจกรรม-Lbeauty-SAKID

Checklist จัดกิจกรรมองค์กร

✅ประเมินสุขภาพพนักงาน: ใช้ข้อมูลจากแบบสอบถาม, การตรวจสุขภาพ, หรือแอป SAKID

✅ตั้งเป้าหมายกิจกรรม: เช่น ลดอัตราการลาป่วย, เสริมทีมเวิร์ก, หรือพัฒนาสุขภาพจิต

✅เลือกกิจกรรมที่เหมาะสม: ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กรและงบประมาณ

✅กำหนด KPI และวิธีวัดผล: เช่น อัตราการเข้าร่วม, คะแนนความพึงพอใจ, ผลตรวจสุขภาพ

✅ใช้เทคโนโลยี HR เช่น SAKID: เพื่อเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และรายงานต่อผู้บริหาร

หัวข้อวิธีการทั่วไปบริการ SAKID
การออกแบบกิจกรรมขึ้นอยู่กับ HR แต่ละคน → ขาดมาตรฐานHealth Mission และ Challenge สำเร็จรูปกว่า 1,000 รายการ
การเข้าร่วมของพนักงานมักมีผู้เข้าร่วมจำกัด เพราะขาดแรงจูงใจGamification กระตุ้นการแข่งขันและความสนุก
การติดตามผลสุขภาพใช้แบบสอบถามกระดาษหรือข้อมูลสุขภาพทั่วไปDashboard แบบเรียลไทม์ → วัดผลสุขภาพกายใจอย่างละเอียด
ภาระงานของ HRต้องวางแผนเองทั้งหมด → ใช้เวลามากระบบอัตโนมัติ ช่วยออกแบบและวิเคราะห์ → ลดงาน HR
ความยั่งยืนของกิจกรรมจัดเฉพาะกิจ บางครั้งไม่ต่อเนื่องออกแบบเป็น แคมเปญระยะยาว วัดผลซ้ำได้ต่อเนื่อง
ต้นทุนเวลาและทรัพยากรสูง เพราะต้องจ้าง Trainer/Consultant บ่อยครั้งคุ้มค่า ใช้ แพลตฟอร์มเดียว ดูแลครบวงจร

“กิจกรรมบริษัท” คือหัวใจในการดูแลพนักงานอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นกาย ใจ และความสัมพันธ์ในทีม เมื่อพนักงานได้รับกิจกรรมที่สร้างสุขภาพและความสุข พวกเขาจะรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจและเห็นคุณค่าในตัวตน

 

        แล้วควรจัดกิจกรรมแบบไหนดี ระยะเวลานานเท่าใด คำตอบนี้ก็ต้องปรับให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละองค์กร แต่หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ปรึกษา SAKID ได้ เราไม่ใช่แค่ผู้นำกิจกรรมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาช่วยออกแบบกิจกรรมสุขภาพให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร รวมทั้งวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางสุขภาพให้จบครบในที่เดียว ทำให้คนในองค์กรมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

         Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ทำอาหารสุขภาพ Cooking class สุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม นักกายภาพออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้

แหล่งอ้างอิง

  • กรมสุขภาพจิต. (2565). รายงานสถานการณ์สุขภาพจิตคนทำงานไทย.

  • Gallup. (2021). State of the Global Workplace Report. Gallup Press.

  • World Health Organization. (2020). Workplace health promotion. Retrieved from https://www.who.int/

  • International Labour Organization. (2021). Mental health in the workplace.

บทความที่น่าสนใจ

Sakid thumbnail -officesyndrome

ทำอย่างไร เมื่อคนในองค์กรเป็น Office syndrome

คุณเป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่าที่ตอนนี้กำลังมีอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดบ่า ปวดหัว นั่งทำงานสักพักก็รู้สึกตึงเมื่อย หากคุณคิดว่า นี่ไม่ใช่เพราะอายุเพียงอย่างเดียว แต่กำลังบ่งบอกว่าคุณมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็น Office syndrome โรคยอดฮิตที่หลายคนรู้จักแต่คงไม่อยากที่จะสนิทสนม

อ่านต่อ »
ตรวจสุขภาพประจำปี-พนักงาน-Sakid

ตรวจสุขภาพประจำปี พนักงาน สร้างกิจกรรม

ตรวจสุขภาพประจำปี สวัสดิการพนักงานบริษัทที่ทำการตรวจกันทุกปี แล้วพนักงานก็จะได้ผลตรวจสุขภาพรายบุคคนกันไป บางคนผลออกมาปกติดี บางคนก็ประสบปัญหาสุขภาพตามอายุและพฤติกรรมแบบกลุ่มกัน ไม่ว่าจะทางร่างกายและทางจิตใจ ซึ่งพนักงานแต่ละคนก็จะมีวิธีการดูแลตัวเองต่างกันไป ถ้าในบริษัทเจอปัญหาสุขภาพของพนักงานหลายคน หรือเจอปัญหาเสี่ยงโรคสุขภาพแบบกลุ่ม ทำให้มีการ ลาป่วย  งานนี้จึงมาตกอยู่ที่ HR ที่จะต้องมาดูแลพนักงานหลายสิบหรือร้อยคน เพื่อให้บริษัทได้มีพนักงานที่สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสามารถช่วยให้ความรู้แบบกลุ่ม ซึ่งสามารถประหยัดเวลา และ ให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจการดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น

อ่านต่อ »
สวัสดิการสุขภาพพนักงาน

สวัสดิการสุขภาพพนักงาน เรื่องพื้นฐานที่องค์กรต้องใส่ใจ

เพราะปัจจุบันคนรุ่นใหม่ให้คุณค่ากับการดูแลตัวเอง องค์กรหรือบริษัทจึงควรหันมาใส่เรื่องสวัสดิการสุขภาพพนักงานกันมากขึ้น แล้วสวัสดิการสุขภาพไหนบ้างที่คนทำงานมองหา

อ่านต่อ »
Super market tour-SAKID

WORKSHOP ONLINE Supermarket tour กับ นักกำหนดอาหาร

กิจกรรม  “Supermarket Tour”

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop “Supermarket Tour”  ให้กับบริษัทเอสพี อินเตอร์แมค โดย นักกำหนดอาหารได้ให้ทิคการอ่านฉลากแบบง่าย การเลือกซื้อวัตถุดิบ และอาหารสด จากตลาด ร้านค้าทั่วไป และ ร้านสะดวกซื้อ 

อ่านต่อ »

สัญญาณเตือนพนักงานเสี่ยง คาโรชิซินโดรม โรคเสียชีวิตจากงานหนัก

คาโรชิซินโดรม (Karoshi Syndrome) หรือ โรคเสียชีวิตจากงานหนัก มีจุดเริ่มต้นในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เมื่อมีพนักงานเสียชีวิตกะทันหันจากโรคหัวใจและหลอดเลือดที่สัมพันธ์กับการทำงานหนักเกินไป องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุว่า “การทำงานเกิน 55 ชั่วโมงต่อสัปดาห์” เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองถึง 35% เมื่อเทียบกับผู้ที่ทำงานในชั่วโมงมาตรฐาน

อ่านต่อ »
Work-ต่าง-Gen--การทำงานร่วมกันของคนแต่ละรุ่น-01

Work ต่าง Generation (การทำงานร่วมกันของคนต่างวัย)

เวลาผ่านไป เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จะทำยังไง ให้การทำงานของคนต่าง generation หรือ แต่ละ gen ในบริษัททำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีปัญหา สำหรับบริษัทที่เปิดมาอย่างยาวนาน ก็ต้องย่อมมีคนทำงานเกิน 10 ปี ในระดับหัวหน้าและผู้บริหารระดับสูง ในขณะเดียวกันบริษัทก็ต้องรับคนใหม่เข้ามาเพื่อสานต่อการทำงานของบริษัท

อ่านต่อ »
URL Copied!

รีวิว ไอเดียจัด team building Online ที่ได้สุขภาพและกิจกรรมร่วมกัน

       การจัดกิจกรรม team building ในยุคที่การทำงานผสมผสานระหว่างออฟไลน์และออนไลน์ (Hybrid Work) ได้กลายเป็นเรื่องปกติ การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและดูแลสุขภาพไปพร้อมกันถือเป็นโจทย์ท้าทายของ HR และผู้บริหาร การจัด team building ออนไลน์ จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างทั้ง ความผูกพัน (Engagement) และ สุขภาวะที่ดี (Well-being) ให้กับคนทำงาน

 

       อย่างไรก็ตาม กิจกรรมteam buildingที่ซ้ำซากอาจทำให้พนักงานรู้สึกเบื่อ ไม่อิน และไม่เกิดประโยชน์ต่อองค์กร บทความนี้จึงขอแชร์ ไอเดียteam buildingออนไลน์ที่ทั้งสนุก ได้สุขภาพ และสร้างทีมที่แข็งแรง

Team building ออนไลน์คืออะไร และสำคัญต่อองค์กรอย่างไร

 

team building ออนไลน์ คือ กิจกรรมที่ออกแบบให้พนักงานสามารถเข้าร่วมผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น Zoom, MS Teams หรือ Google Meet โดยมีเป้าหมายเพื่อ

• เสริมสร้างความสัมพันธ์ของทีมงาน

• พัฒนาทักษะการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน

• ลดความเครียดและเสริมสุขภาพกาย–ใจ

• สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีแม้จะทำงานทางไกล

 

📌 การจัด team building ออนไลน์ไม่ใช่แค่การเล่นเกม แต่ควรเชื่อมโยงกับ Employee Engagement และ Workplace Wellness Program เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

 

5 ไอเดีย team building ออนไลน์ เพื่อสุขภาพและทีมที่แข็งแรง

 

1. กิจกรรมออกกำลังกายออนไลน์แบบกลุ่ม

• จัด “Zoom Yoga” หรือ “Office Stretch” 15 นาทีหลังเลิกประชุม

• ใช้ผู้เชี่ยวชาญนักวิทยาศาสตร์การกีฬา นำกิจกรรม เพื่อให้ทุกคนสามารถออกกำลังกายได้อย่างถูกวิธี

• เหมาะสำหรับองค์กรที่อยากลดอาการ Office Syndrome และกระตุ้นพลังงานทีม

💡 Tip: เริ่มจากง่าย ๆ เช่น “ยืดเส้นสาย 5 ท่า” ให้ทุกคนเปิดกล้องทำพร้อมกัน จะช่วยสร้างบรรยากาศเชิงบวกได้ทันที

  • ข้อดี: ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน ทุกคนทำได้พร้อมกัน ได้ผลทันทีในการลดอาการเมื่อยล้าและเพิ่มพลังงาน

  • ข้อจำกัด: ถ้าไม่มีผู้เชี่ยวชาญนำ อาจทำท่าผิดจนเกิดการบาดเจ็บ และกิจกรรมอาจซ้ำซากจนพนักงานเบื่อ

  • เหมาะกับ: องค์กรที่อยากเริ่มต้นดูแลสุขภาพกายแบบง่าย ๆ ใช้เวลาสั้น

 

2. Workshop ทำอาหารสุขภาพ

• จัด Virtual Cooking Class โดยให้นักกำหนดอาหาร (Dietitian) มาสอนเมนูสุขภาพที่ทำง่าย เช่น สลัดธัญพืช, น้ำผักผลไม้

• พนักงานแต่ละคนทำพร้อมกันที่บ้าน แล้วแชร์ภาพผลงาน

• ได้ทั้งความสนุก การเรียนรู้โภชนาการ และการสร้างความสัมพันธ์

  • ข้อดี: สร้างทั้งความสนุกและการเรียนรู้ด้านโภชนาการ พนักงานมีผลงานให้แชร์ เกิด bonding ที่ดี

  • ข้อจำกัด: ต้องมีการเตรียมวัตถุดิบล่วงหน้า และใช้เวลาในการจัดกิจกรรมมากกว่าการออกกำลังกาย

  • เหมาะกับ: องค์กรที่อยากให้กิจกรรมกลายเป็น “ประสบการณ์ร่วม” ของพนักงาน และต้องการผลลัพธ์ทั้งสุขภาพและความสัมพันธ์

 

3. เกมละลายพฤติกรรมเสริมสุขภาพจิต

• Virtual Ice-breaking เช่น เกม Quiz สุขภาพ, Bingo ไลฟ์สไตล์สุขภาพดี

• Sharing Circle ให้แต่ละคนเล่า “Healthy Habit” ที่ตัวเองทำ

• เสริมสุขภาพจิต ลดความตึงเครียด และเปิดโอกาสให้พนักงาน introvert ได้มีส่วนร่วม

  • ข้อดี: ทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มาก สร้างบรรยากาศสนุกและช่วยให้พนักงานเปิดใจ

  • ข้อจำกัด: ถ้าออกแบบไม่ดีอาจกลายเป็นเกมที่ “เด็กเกินไป” และไม่เชื่อมโยงกับเป้าหมายสุขภาพหรือ Wellness ขององค์กร

  • เหมาะกับ: องค์กรที่อยากใช้กิจกรรมเบา ๆ เพื่อกระตุ้นพลังงานก่อนประชุมใหญ่ หรือใช้เป็น Ice-breaking

 

4. Step Challenge: แข่งเดินสะสมก้าว SAKID 

• ใช้ Smartwatch หรือแอปพลิเคชันบันทึกก้าว

• แข่งแบบทีม: รวมก้าวของทุกคนแล้วดูว่าแผนกไหนเดินมากที่สุด

• สร้างบรรยากาศแข่งขันเชิงบวก ได้สุขภาพ + ความสนุก

💡 ตัวอย่าง: บริษัทหนึ่งทำ Step Challenge 30 วัน พบว่าพนักงานกว่า 70% ออกกำลังกายต่อเนื่องจนเป็นนิสัย

  • ข้อดี: สร้างพฤติกรรมสุขภาพเชิงต่อเนื่องเพราะใช้เวลาหลายวัน กระตุ้นการแข่งขันเชิงบวกทั้งรายบุคคลและทีม

  • ข้อจำกัด: ต้องใช้อุปกรณ์หรือแอปพลิเคชันติดตามก้าว ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกยุ่งยากในการเข้าร่วม

  • เหมาะกับ: องค์กรขนาดกลาง–ใหญ่ ที่ต้องการกิจกรรม Wellness เชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตประจำวันจริง

 

ภาพกิจกรรม-Lbeauty-SAKID

 

5. Virtual Mindfulness & Relaxation

• จัด Workshop “10 นาทีแห่งความสงบ” นำโดยนักจิตวิทยา

• ใช้เทคนิค Mindfulness, Meditation, Breathwork

• เหมาะสำหรับองค์กรที่เจอความเครียดสูง และต้องการลด Burnout

  • ข้อดี: ลดความเครียดได้อย่างตรงจุด เหมาะกับพนักงานที่ทำงานหนักหรืองานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง

  • ข้อจำกัด: บางคนอาจยังไม่คุ้นเคยกับการทำสมาธิหรือฝึกหายใจ อาจต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยามานำ

  • เหมาะกับ: องค์กรที่ต้องการเสริมสุขภาพใจ ลด Burnout และสร้างสมดุลชีวิตการทำงาน

Checklist ในการจัด team building ออนไลน์

ก่อนจัดกิจกรรม ลองเช็กสิ่งเหล่านี้

✅ กำหนด ป้าหมายกิจกรรม เสริมสุขภาพกาย, สุขภาพจิต หรือความสัมพันธ์

✅ จำกัดเวลาไม่เกิน 45–60 นาที เพื่อรักษาการมีส่วนร่วม

✅ เลือกแพลตฟอร์มที่พนักงานคุ้นเคย เช่น Zoom, MS Teams

✅ ผู้เชี่ยวชาญ ดูแล เช่น นักกำหนดอาหาร,นักกายภาพ,นักจิตวิทยา

✅ ออกแบบกิจกรรมให้ ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะ introvert หรือ extrovert

✅ ประเมินผลหลังจบกิจกรรม เช่น Survey ความสุข, Engagement Score

คำแนะนำในการเลือกWorkshop

  • ถ้าอยากได้ กิจกรรมง่าย ๆ ทำทันที → เลือกออกกำลังกายออนไลน์หรือเกมละลายพฤติกรรม

  • ถ้าอยากได้ กิจกรรมที่สร้างประสบการณ์ร่วม → เลือก Workshop ทำอาหารสุขภาพ

  • ถ้าอยากได้ กิจกรรมต่อเนื่องที่สร้างนิสัยสุขภาพ → เลือก Step Challenge

  • ถ้าอยากได้ กิจกรรมเพื่อสุขภาพจิต → เลือก Virtual Mindfulness

team building ออนไลน์ที่ดี = สนุก + ได้สุขภาพ + เสริมความสัมพันธ์องค์กร

ไม่ควรมองว่าเป็นเพียง “กิจกรรมสันทนาการ” แต่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Wellness Program ที่ช่วยลดอัตราลาออก เพิ่ม Engagement และทำให้องค์กรยั่งยืน

        หากคุณกำลังมองหา Workshop ออนไลน์ที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญทั้ง โภชนาการ, การออกกำลังกาย และจิตวิทยากับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ทำอาหารสุขภาพ Cooking class สุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม นักกายภาพออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้

แหล่งอ้างอิง

บทความที่น่าสนใจ

Workshop burnout-SAKID Cover

Workshop Burn out จัดการอย่างไรดี?

Workshop Burnout จัดการอย่างไรดี

วันที่ 4 มีนาคม  2568  SAKID ได้จัดกิจกรรม Workshop ที่บริษัท JTEKT โดยนักจิตวิทยามาร่วมพูคุยและให้ความรู้ เรื่องBurnout ที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัวแต่จริงๆแล้วอาจจะแฝงอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัวและสามารถสร้างผลกระทบกับชีวิตตัวเองและการทำงานด้วย และเพื่อให้พนักงานรู้ว่าตัวเองว่าตอนนี้เรากำลังเผชิญกับภาวะนี้อยู่ไหม แล้ววิธีการจัดการกับความคิดและสิ่งต่างๆที่เข้ามาได้อย่างไร ร่วมกันหาทางอออกสำหรับภาวะ Burnout สามารถจัดการตัวเองอย่างไร ให้การทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างสุขภาพจิตที่ดี

อ่านต่อ »

แบบประเมินความเครียด สำหรับพนักงานออฟฟิศ

ความเครียดกลายเป็น “โรคเงียบ” ของคนทำงานออฟฟิศ การมีเครื่องมือช่วยตรวจสอบและติดตามภาวะความเครียดของพนักงานจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะความเครียดไม่ได้เพียงทำลายสุขภาพจิต แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อ ประสิทธิภาพการทำงาน การขาดงาน และอัตราการลาออก

อ่านต่อ »
ตรวจสุขภาพประจำปี-พนักงาน-Sakid

ตรวจสุขภาพประจำปี พนักงาน สร้างกิจกรรม

ตรวจสุขภาพประจำปี สวัสดิการพนักงานบริษัทที่ทำการตรวจกันทุกปี แล้วพนักงานก็จะได้ผลตรวจสุขภาพรายบุคคนกันไป บางคนผลออกมาปกติดี บางคนก็ประสบปัญหาสุขภาพตามอายุและพฤติกรรมแบบกลุ่มกัน ไม่ว่าจะทางร่างกายและทางจิตใจ ซึ่งพนักงานแต่ละคนก็จะมีวิธีการดูแลตัวเองต่างกันไป ถ้าในบริษัทเจอปัญหาสุขภาพของพนักงานหลายคน หรือเจอปัญหาเสี่ยงโรคสุขภาพแบบกลุ่ม ทำให้มีการ ลาป่วย  งานนี้จึงมาตกอยู่ที่ HR ที่จะต้องมาดูแลพนักงานหลายสิบหรือร้อยคน เพื่อให้บริษัทได้มีพนักงานที่สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสามารถช่วยให้ความรู้แบบกลุ่ม ซึ่งสามารถประหยัดเวลา และ ให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจการดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น

อ่านต่อ »
Sakid thumbnail well-SAKID

Well-Being กลยุทธ์สร้างสุขภาวะที่ดีให้กับพนักงาน

ทุกธุรกิจ ทุกองค์กร มีการจัดการคนทำงานในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ถ้าวันนี้ลองสังเกตดูว่า พนักงานของเรา ยังมีความสุขในการทำงานหรือไม่ การทำงานของแต่ละคนมีประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์องค์กรมากแค่ไหน และคุณภาพชีวิตของพนักงานดีขึ้นทุกด้านรึเปล่า หากผู้นำหรือผู้บริหารสามารถมองจุดนี้ได้ ธุรกิจก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน

อ่านต่อ »
Cover retire-SAKID

รู้ก่อนคิด วาดชีวิตที่มั่นคง ต้องรู้เกษียณสบายตามไลฟ์สไตล์ที่เป็นเรา

กิจกรรม  Workshop “รู้ก่อนคิด วาดชีวิตที่มั่นคงต้องรู้เกษียณสบายตามไลฟ์สไตล์ที่เป็นเรา ”

เมื่อวันที่ 23  กันยายน 2566 SAKID  ได้จัดกิจกรรม Workshop ออฟไลน์ และออนไลน์ไปพร้อมกัน ในหัวข้อ “รู้ก่อนคิด วาดชีวิตที่มั่นคงต้องรู้เกษียณสบายตามไลฟ์สไตล์ที่เป็นเรา ” โดยนักกำหนดอาหารที่จะให้ความรู้ทั้งในวัยที่กำลังเกษียณและวัยทำงานที่จะได้มีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินอย่างไร ให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย สัดส่วนอาหารที่จำเป็นต่อวัยต่างๆ ที่ยังสามารถอร่อยและสุขภาพดีได้ การเลือกกินอย่างสมดุล และในส่วนของนักการเงินที่จะมาสอนเรื่องการลงทุนและการเก็บออมเงินก่อนเกษียณ การทำแบบแผนเตรียมตัวเกษียณอย่างง่าย การวางแผนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและใช้เงินในวัยเกษียณอย่างมีความสุขในสไตล์ที่เป็นเรา

อ่านต่อ »

รวม 5 หลักการปรับ “ท่านั่งทํางานที่ถูกต้อง” ลดออฟฟิศซินโดรม

ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง ต้องนั่งยังไง? นั่งแบบไหนให้ไกลออฟฟิศซินโดรม? แนะนำ 5 หลักการที่ต้องปรับท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง พร้อมวิธีเลือกเก้าอี้และโต๊ะถูกหลัก Ergonomics

อ่านต่อ »
URL Copied!

จัดกิจกรรม outing บริษัททำกิจกรรมอะไรดี?

การจัด กิจกรรม outing ไม่ใช่แค่พาพนักงานไปเที่ยวพักผ่อน แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความผูกพันกับองค์กร เพิ่มความสามัคคี และเสริมสุขภาพกาย-ใจของพนักงาน งานวิจัยของ Gallup (2022) ชี้ว่า พนักงานที่มี engagement สูง จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากถึง 21% และมีอัตราการลาออกน้อยลงเกือบครึ่งหนึ่ง

 

ดังนั้น การเลือกกิจกรรมที่ “สนุก + ได้ประโยชน์ + สร้างสุขภาพ” จะทำให้องค์กรคุ้มค่ากับการลงทุน และพนักงานรู้สึกมีความหมายกับงานมากขึ้น

ไอเดีย กิจกรรม outing ที่ตอบโจทย์ HR

 

1. Outing บริษัทแบบท่องเที่ยวผสมกิจกรรมสร้างทีม

• กิจกรรม Walk Rally หรือ Team Building Game เช่น เกมหาสมบัติ เกมสร้างสะพาน

• แข่งทำอาหารเมนูสุขภาพร่วมกัน

• เดินป่าศึกษาธรรมชาติ พร้อมเวิร์กช็อปเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

➡️ เหมาะสำหรับองค์กรที่อยากได้ทั้ง “ความสนุก” และ “การพัฒนาทักษะ teamwork”

 

2. Outing สุขภาพดี (ออกกำลังกาย/กิจกรรมสุขภาวะ)

การจัด Outing สุขภาพดี นอกจากจะสนุกแล้ว ยังเป็นการลงทุนด้านสุขภาพ เช่น

• วิ่งมินิมาราธอน หรือเดิน-วิ่งการกุศล

• โยคะ/Stretching ร่วมกันตอนเช้า

• เวิร์กช็อปทำอาหารคลีนจากนักกำหนดอาหาร

• Bootcamp แบบเบา ๆ ที่ HR ร่วมเล่นกับพนักงาน 

➡️ลองใช้กับโปรแกรม Workplace Wellness Program ที่ช่วยให้องค์กรออกแบบกิจกรรมสุขภาพได้ครบทั้งกายและใจ

 

3. กิจกรรมสันทนาการพนักงาน (Games & Workshop)

ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกล Outing ในออฟฟิศหรือพื้นที่ใกล้ ๆ ก็ทำได้ เช่น

• เกมละลายพฤติกรรม สร้างเสียงหัวเราะ

• Workshop ศิลปะ ดนตรี หรือทำของที่ระลึก

• กิจกรรมละครเวทีสั้น ๆ ที่พนักงานร่วมเขียนบทและแสดงเอง

➡️จุดเด่น: ใช้งบไม่สูง แต่สร้างพลังบวกในทีมได้อย่างมาก

 

4. Outing CSR (ทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกัน)

องค์กรยุคใหม่หันมาทำ Outing ที่ผูกกับ CSR เช่น

• ปลูกป่าชายเลน หรือเก็บขยะชายหาด

• ทำอาหารเลี้ยงเด็กในมูลนิธิ

• บริจาคโลหิตหมู่บริษัท

• กิจกรรมสร้างสนามเด็กเล่น/ห้องสมุดให้โรงเรียนชนบท

➡️ข้อดีคือพนักงานได้ทั้งความภูมิใจและความผูกพันกับองค์กรในเวลาเดียวกัน

ประโยชน์ของ Outing ต่อพนักงานและองค์กร

1.สร้างความสัมพันธ์ในทีม (Team Bonding) ช่วยให้เพื่อนร่วมงานจากแผนกต่าง ๆ ได้รู้จักกันมากขึ้น

2.ลดความเครียดและ Burnout  การได้ทำกิจกรรมสันทนาการช่วยให้พนักงานผ่อนคลาย

3.ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ  ถ้ากิจกรรมมีการเคลื่อนไหว ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมเวิร์กช็อปสุขภาพ

4.เพิ่ม Employee Engagement พนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจ ไม่ได้มองแค่ผลลัพธ์งาน

5.สร้าง Employer Branding การจัด outing ที่ดีสามารถเป็นจุดขายในการดึงดูดคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมงาน

คำแนะนำ สำหรับ HR ก่อนจัด Outing

1.กำหนดวัตถุประสงค์ชัดเจน  เพื่อความสนุก? เพื่อสุขภาพ? เพื่อ CSR?

2.วิเคราะห์งบประมาณ  กำหนดกรอบชัดว่าจะลงทุนเท่าไร

3.สำรวจความสนใจของพนักงาน  อาจใช้แบบสอบถามสั้น ๆ

4.เลือกสถานที่และกิจกรรมที่ปลอดภัย  โดยเฉพาะถ้ามีพนักงานหลากหลายช่วงอายุ

5.วางแผนการเดินทางและประกันภัย – เพื่อความอุ่นใจของทุกฝ่าย

6.มี After Action Review – ให้พนักงาน feedback เพื่อนำไปพัฒนาครั้งถัดไป

      กิจกรรม outing ไม่ใช่แค่การไปเที่ยว แต่เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างสุขภาพ ความสัมพันธ์ และ engagement ของพนักงาน การเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม จะทำให้องค์กรได้ทั้ง “ทีมงานที่แข็งแรง” และ “พนักงานที่มีความสุข”

         บริษัทไหนที่กำลังมองหา Workshop กับ SAKID เรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ทำอาหารสุขภาพ Cooking class สุขภาพจิตปรึกษานักจิตวิทยาแบบรายบุคคลหรือทำกิจกรรมคลาสกลุ่ม นักกายภาพออฟฟิศซินโดรม โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะมาให้ความรู้เข้าใจแบบย่อยง่ายและลองทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น คลาสโยคะ คลาสซุมบ้า คลาสออกกำลังกายหลังเลิกงาน สามารถสอบถามและช่วยออกแบบ Workshop ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์พนักงานในบริษัทได้

แหล่งอ้างอิง

  • Gallup. (2022). State of the Global Workplace Report. Gallup.

  • World Health Organization. (2020). Mental health in the workplace. WHO.

  • กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2565). แนวทางการส่งเสริมสุขภาพในสถานประกอบการ.

  • SAKID. (2023). Workplace Wellness Program.

  • SAKID. (2023). Well Being คืออะไร.

บทความที่น่าสนใจ

ความปลอดภัยในการทำงาน เริ่มต้นจากท่าทางที่ถูกต้อง

ความปลอดภัยในการทำงาน (Workplace Safety) เป็นหัวข้อที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญมาโดยตลอด แต่หลายครั้งที่เรามักโฟกัสไปที่ เครื่องจักร อุปกรณ์ป้องกัน หรือกฎระเบียบ จนลืมจุดเล็ก ๆ ที่สำคัญอย่าง “ท่าทางของพนักงาน”

อ่านต่อ »
คอร์สเรียน กับ นักกำหนดอาหาร-SAKID

คอร์สเรียน อัพความรู้ความเข้าใจการดูแลสุขภาพ กับ นักกำหนดอาหาร

 เรียนรู้สุขภาพดีเรื่องอาหาร ไม่ว่าจะลดน้ำหนัก กินยังไงให้สุขภาพดี เทคนิคการกินเติมความสวย สามารถเรียนรู้ได้ง่ายๆ ผ่านแพลตฟอร์มของConiverse ที่ช่วยให้พนักงานสามารถอัปเดตความรู้และทักษะ ทำให้การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลานอกจากเรื่องการดูแลสุขภาพแล้วยังมีเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะการสอนใช้โปรแกรมต่างๆ ภาษา การลงทุน การวิเคราะห์การตลาด เรื่องที่ถูกคัดมาแล้วว่าจะสามารถเสริมความรู้ให้กับพนักงานสายต่างๆได้ผ่านผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาวิชา

อ่านต่อ »
Sakid thumbnail-หมด Passion ในการทำงาน

เมื่อพนักงานสูญเสีย Passion ในงาน: วิธีจุดประกายแรงบันดาลใจในที่ทำงานอีกครั้ง

โดยทั่วไปหมายถึงแรงผลักดันอย่างแรงกล้าที่ทำให้เรามุ่งมั่นและเต็มใจอุทิศตนให้กับกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งอย่างต่อเนื่องและทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ (Vallerand, 2015) โดย  Passion ในการทำงาน (Work passion) คือ สภาวะทางจิตใจที่บุคคลรู้สึกกระตือรือร้น ยินดี และเต็มใจที่จะอุทิศเวลา พลังกาย พลังใจ ให้กับการทำงาน จนรู้สึกว่างานเป็นส่วนหนึ่งที่มีคุณค่าในชีวิต (Vallerand et al., 2003) และในทางจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การแบ่ง passion ออกเป็น 2 ประเภท คือ harmonious passion และ obsessive passion

อ่านต่อ »

Workshop เริ่มต้นสุขภาพดีทำได้ทุกวัน #workshop3อ #อาหาร

ดูแลสุขภาพพนักงาน ด้วยการให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เรื่องอาหารการกิน , Workshop การกิน , Health talk update ความรู้ ด้านโภชนาการ หรือ Cooking class โดยนักกำหนดอาหารวิชาชีพที่มีประสบการณ์ ตัวอย่างหัวข้อ WORKSHOP ขอใบเสนอราคา วัตถุประสงค์    🟠 เข้าใจและรู้หลักการในการเลือกกินประเภทไขมันให้ดีต่อสุขภาพ  

อ่านต่อ »
Sakid thumbnail -สวัสดิการทุกบริษัท

สูตรลับสวัสดิการ ทุกบริษัททำได้ เพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานคนเก่ง

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมบริษัทชั้นนำหลายแห่งจึงให้ความสำคัญกับสวัสดิการพนักงานเป็นอย่างมาก? ความจริงก็คือ สวัสดิการที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตโดยรวมขององค์กรอีกด้วย การลงทุนในความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานส่งผลโดยตรงต่อผลกำไรของบริษัท จากการลดต้นทุนด้านสุขภาพ เพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน และส่งเสริมความผูกพันของพนักงาน

อ่านต่อ »

“ดูแลสุขภาพพนักงาน” การสร้างสุขเบื้องต้นที่คุณไม่ควรมองข้าม

สุขภาพของพนักงานสำคัญกว่าที่คิด! บริษัทจะดูแลสุขภาพพนักงานได้อย่าไรบ้าง? แชร์ 5 เรื่องที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ในองค์กร เพิ่มความสุข ส่งเสริมสุขภาพให้พนักงาน

อ่านต่อ »